6 ก.ย. 2019 เวลา 03:18
EP 9 ติดสินชะตา (ยุทธการกัวต๋อ)
(เนื้อหายาวไป มีคลิปเสียงเล่าให้ฟังนะครับ)
ในช่วง ปีคศ 190-200 คือ ช่วงในเวลา 10 ปีนี้ กลุ่มที่มีอิทธิพลและอำนาจมากที่สุด ก็คือ โจโฉกับอ้วนเสี้ยว โดยดินแดนของอ้วนเสี้ยวอยู่ทางตอนเหนือ โจโฉนั้นมีดินแดนในภาคกลาง มีแม่น้ำฮวงโหกั้นเขตแดนของอ้วนเสี้ยวและโจโฉไว้
ในช่วงเวลานั้น ลิโป้และอ้วนสุดตาย เตียวสิ้วสวามิภักดิ์ ซุนเซ็กรักษาฐานที่กังตั๋ง เล่าเปียวเป็นกลางคอยดูท่าที สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ สองขั้วอำนาจอย่างโจโฉและอ้วนเสี้ยว ที่ไม่สามารถรวมกันได้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปะทะกัน ซึ่งในตอนนั้นอ้วนเสี้ยวมีกำลังเหนือกว่าโจโฉถึงสิบเท่า แน่นอนเมื่อเป็นแบบนี้ อ้วนเสี้ยวคงไม่ยอมอยู่ใต้อิทธิพลของโจโฉเป็นแน่ อ้วนเสี้ยวจึงตัดสินใจ โจมตีโจโฉก่อนในสงครามที่เลื่องชื่อ “ยุทธการกัวต๋อ”
ในปีเจี้ยนอันศกที่ 5 เดือน 2 อ้วนเสี้ยวตัดสินใจโจมตีโจโฉ ในศึกนี้เรียกว่า ยุทธการกัวต๋อ โดยยุทธการกัวต๋อแบ่งออกเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก คือ “ช่วงประจัญบาน” ช่วงแรกนี้ อ้วนเสี้ยวชิงลงมือก่อน โดยยกทัพจาก อี้หยางทางฝั่งเหนือของ แม่น้ำฮวงโหว ให้แม่ทัพงันเหลียงโจมตีที่เมือง ป๋ายหม่า และแม่ทัพบุนทิวโจมตีที่เหยียนจิน ในตอนนั้นผู้รักษา ป๋ายหม่า ชื่อหลิวเหยียน ซึ่งในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน หลิวเหยียนต้านทัพงันเหลียงไม่ไหว จึงขอทัพหนุนจากโจโฉ ซุนฮิวที่ปรึกษาจึงเสนอแผนหลอกอ้วนเสี้ยว โดยการยกทัพอย่างเอิกเกริกไปที่เหยียนจินเพื่อให้อ้วนเสี้ยวรู้และเสริมทัพมาที่เหยียนจิน หลังจากนั้น จึงให้กวนอูนำทหารม้าไปโจมตี ป๋ายหม่า ผลก็คือ อ้วนเสี้ยวหลงกล และงันเหลียงถูกกวนอูฆ่าตาย อ้วนเสี้ยวเมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงสั่งให้บุนทิวและเล่าปี่ จากเหยียนจิน มาล้อมป๋ายหม่าเอาไว้
ถึงตอนนี้โจโฉ คาดการณ์แล้วว่า ยังไงก็คงรักษา เมืองป๋ายหม่าไว้ไม่ได้ และคิดว่าอ้วนเสี้ยวคงต้องฆ่า ชาวบ้านทั้งเมืองป๋ายหม่า เพื่อแก้แค้นแน่นอน จึงตัดสินใจอพยบชาวเมืองป๋ายหม่า เดินทางตามริมแม่น้ำ ฮวงโห มาที่เหยียนจิน ซึ่งแน่นอนการนำชาวบ้านมาด้วย จึงทำให้การเดินทัพแสนล่าช้า เป็นผลให้ทัพของบุนทิวและเล่าปี่ตามมาทัน สถานการณ์ขณะนั้น โจโฉมีกำลังที่น้อยกว่า จึงวางอุบายโดยการสั่งให้ทหาร แสร้งทิ้งเสบียงและสัมภาระต่างๆ ไว้กลางทางเพื่อเบนความสนใจ แล้วจึงสั่งโจมตีเล่าปี่และบุนทิวในขณะที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้บุนทิวถูกฟันตกจากหลังม้าตาย ส่วนใครฆ่าไม่รู้ ไม่มีบันทึกบอกไว้ในประวัติศาสตร์ และเล่าปี่หนีไปได้
แม้โจโฉจะชนะในศึกครั้งแรกนี้ แต่กำลังก็ยังเป็นรองอ้วนเสี้ยวอยู่ดี โดยบันทึกจดหมายเหตุสามก๊ก บอกว่า กำลังของอ้วนเสี้ยวมีถึงหนึ่งแสน ส่วนโจโฉนั้นมีเพียงหนึ่งหมื่น ดังนั้นโจโฉรู้ดีว่าไม่อาจรักษา ป๋ายหม่าและเหยียนจินได้แล้ว จึงถอยทัพมาที่กัวต๋อ ด้านอ้วนเสี้ยวก็คิดว่าได้เปรียบด้วยกำลังที่มากกว่า จึงยกทัพประชิดกัวต๋อ ซึ่งโจโฉได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า หากอ้วนเสี้ยวยกทัพมาที่กัวต๋อแล้ว ระยะการเดินทางสนับสนุนกองทัพของอ้วนเสี้ยวจากอี้หยางก็จะไกลกว่าเดิม จะทำให้ยืดระยะทางในการสนับสนุนกองทัพของอ้วนเสี้ยวยาวออกไป แต่เมื่อโจโฉถอยมาที่กัวต๋อ ก็หมดทางที่จะถอยอีกแล้ว ดังนั้นอ้วนเสี้ยวและโจโฉจึงตั้งค่ายประจันหน้ากันที่กัวต๋อ
ช่วงที่ 2 คือ “ช่วงตรึงกำลัง” อ้วนเสี้ยวสั่งให้ทหารถมดิน สร้างหอรบให้สูง หลังจากนั้นก็ให้ทหารยิงเกาทัณฑ์ไปยังค่ายของโจโฉ เป็นผลให้ทัพของโจโฉ ทหารบาดเจ็บและล่มตายเป็นอย่างมาก ฝ่ายโจโฉจึงสร้างเครื่องโยนหิน แล้วก็ยิงหินข้ามไปยังค่ายอ้วนเสี้ยว ตรึงกำลังกันอยู่อย่างนี้ สองถึงสามเดือน ทั้งสองฝั่งก็ยังไม่รู้แพ้ชนะ ทหารต่างก็อิดโรย
วันนึง โจโฉ ออกมาปลอบใจทหารในค่าย เห็นถึงความลำบากและทุกข์ยากของเหล่าทหาร ทนไม่ไหวคิดจะถอยทัพ จึงเขียนจดหมายปรึกษาซุนฮก ที่ฮูโต แต่ซุนฮกคัดค้าน และซุนฮก กล่าวว่า สงครามครั้งนี้ อยากรบหรือไม่ก็ต้องรบ ไหวหรือไม่ก็ต้องไหว เพราะอ้วนเสี้ยวทุ่มกำลังทั้งหมดมาแล้ว หากท่านถอยอ้วนเสี้ยวก็จะรุกคืบ ถอยไม่ได้อีกแล้ว ไม่มีทางถอยสำหรับท่านแล้ว ได้แต่ยันเอาไว้เท่านั้น แล้วโจโฉจึงไปปรึกษา กาเซี่ยง ๆ กล่าวว่า ท่านโจโฉนั้นเหนือกว่าอ้วนเสี้ยวทุกด้าน แต่ที่ยังไม่ชนะ เพราะมั่วแต่คิดว่า หากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร ดังนั้น เพียงแต่ท่านตัดสินใจให้เด็ดขาด รวบรวมกำลังหทาร ยืนหยัดต้านทัพอ้วนเสี้ยวต่อไป ต้องชนะแน่ คำแนะนำของกาเซี่ยงและซุนฮก ถูกต้องแล้ว เมื่อโจโฉถามหาโอกาส ๆ ก็มา
ช่วงที่ 3 คือ “ช่วงพลิกผัน” โดยเหตุทำให้สถานะการณ์พลิกผันนั้น มาจาก 3 เรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก คือ เล่าปี่ หนีไป ในช่วงที่ตรึงกำลังอยู่นั้น อ้วนเสียวสั่งให้เล่าปี่ นำทัพไปก่อกวนรอบๆเมืองฮูโต๋ แต่กลับถูกทัพโจโฉตีแตกพ่ายกลับมา เล่าปี่หนีกับไปที่กัวต๋อ จึงแนะนำอ้วนเสี้ยวว่า ควรร่วมมือกับเล่าเปียวทางตอนใต้ เพื่อให้ตีตลบหลังทัพโจโฉ อ้วนเสี้ยวเห็นด้วย จึงอนุญาติให้เล่าปี่นำทัพของตนเองไปรวมกับเล่าเปียว แต่ใจจริงของเล่าปี่นั้น ตั้งใจหนีไป อ.อี้จงเทียนแสดงความคิดเห็นตรงนี้ว่า เล่าปี่อาจจะสัมผัสได้ว่า อ้วนเสี้ยนจะแพ้ในสงครามครั้งนี้จึงคิดหนีไป
เรื่องที่ 2 เขาฮิวทรยศ เหุตที่เขาฮิว ทรยศ อาจมาจาก 3 เหตุผลก็คือ
หนึ่ง เขาฮิวเห็นแก่ทรัพย์สิน อ้วนเสี้ยวให้ไม่ได้ จึงไปเข้ากับโจโฉ
สอง ครอบครัวของเขาฮิวทำผิดกฏบ้านเมือง สิมโพย จึงจับเข้าคุก เขาฮิวจึงทรยศ
สาม เขาฮิวแนะนำอ้วนเสี้ยวใช้ทางเล็ก โจมตีฮูโต๋ อ้วนเสี้ยวไม่ทำตาม เขาฮิวจึงทรยศ
อ.อี้จงเทียนอธิบายว่า อาจเป็นไปได้ว่า เขาฮิวมองแล้วว่าการที่อยู่กับอ้วนเสี้ยว วางแผนไปก็ไม่ได้ใช้ คาดหวังอะไรอ้วนเสี้ยวก็คงจะไม่ได้ เลยรู้สึกว่าอยู่ต่อไปไม่ได้ จึงสวามิภักดิ์ต่อโจโฉแทน พอสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เขาฮิวเสนอแผนเผาเสบียงที่ อัวเจ๋าทันที
เรื่องที่ 3 เตียวคับหักหลัง ในขณะที่ อัวเจ๋า กำลังถูกเผา เตียวคับเสนอให้ส่งทัพไปหนุนอัวเจ๋า เพราะหากเสียอัวเจ๋าไป แม้แต่ทางถอยก็ไม่เหลือ พวกเราต้องพ่ายแพ้แน่นอน แต่กัวเต๋า ที่ปรึกษาคนนึงของอ้วนเสี้ยว ไม่เห็นด้วน ควรส่งทัพไปตีกัวต๋อ ซึ่งโจโฉต้องยกกลับมารักษากัวต๋อ อัวเจ๋าก็จะคลายเอง อ้วนเสี้ยวฟังอย่างนั้น ก็เกิดความลังเล จึงแบ่งทัพให้ไปหนุนทั้งอัวเจ๋า และตีกัวต๋อ แต่เตียวคับกลับมองว่า ไม่ควรไปตีกัวต๋อ เพราะที่นั้นเป็นที่ตั้งทัพหลักโจโฉ จะไปตีเพียงครั้งเดียวแล้วชนะได้อย่างไร หากทำได้จริงป่านนี้เราชนะไปนานแล้ว อ้วนเสี้ยวไม่ฟัง ผลก็คือ กัวต๋อตีไม่แตก อัวเจ๋าก็ช่วยไม่ได้
กัวเต๋าได้ยินข่าวก็กลัวความผิด ด้วยกัวเต๋ารู้ว่าอ้วนเสี้ยวเป็นพวกกลัวเสียหน้า จึงไปยุแยงอ้วนเสี้ยวว่า เตียวคับเมื่อได้ยินข่าวว่าช่วยอัวเจ๋าไว้ไม่ได้ ก็หัวเราะและว่าตัวเองนั้นถูก อ้วนเสี้ยวจึงเกิดความระแวง ฝ่ายเตียวคับรู้อย่างนั้นจึงคิดว่า นอกบ้านก็พ่ายแพ้ ในบ้านก็วางเพลิงใส่กัน หมดสิ้นหนทางแล้ว ยอมแพ้ต่อโจโฉดีกว่า จึงวางแผนพร้อมลูกน้อง โกลำ ยกธงยอมแพ้ต่อโจ เล่าปี่หนีไป อ้วนเสี้ยวเสียกำลังหนุนจากภายนอก เขาฮิวทรยศ อ้วนเสี้ยวสูญสิ้นคลังสมอง เตียวคับหักหลัง อ้วนเสี้ยวถึงกับเสียแขน
ทั้งสามเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า สถานะการณ์ของอ้วนเสี้ยวถึงจุดตกต่ำแล้ว
สงครามเข้าสู่ช่วงที่ 4 คือ ช่วงตัดสินชัยชนะ เมื่อสถานะการณ์เป็นเช่นนี้ โจโฉถือว่าได้เปรียบอ้วนเสี้ยวเป็นอย่างมาก จึงทำตามคำแนะนำของกาเซี่ยง รวบรวมกำลังทหารจัดการรุกกลับ ตีกองทัพอ้วนเสี้ยวแตกพ่าย ขวัญทหารแตกกระเจิง ไม่อาจต้านทานไหว ทางด้านอ้วนเสี้ยวและอ้วนถำ ลูกชายคนโต ซักม้ากลับหนีขึ้นเหนือเอาตัวรอด ไม่หันมาแลเลยสักนิด สงครามครั้งนี้ก็จบลง พอโจโฉยึดค่ายอ้วนเสี้ยวได้ พบหนังสือ เพชรพลอย ของมีค่าเป็นจำนวนมาก อ.อี้จงเทียนอธิบายตรงนี้ว่า อ้วนเสี้ยวนั้นเป็นจำพวกหรูหรา อ้วนเสี้ยวมักคิดเสมอว่าตัวเองนั้นสูงศักดิ์สง่างาม เป็นผู้ดีมีปัญญา ไปที่ไหน ก็เอาหนังสือ ของมีค่าประดับประดา ให้ดูหรูหราอลังการไว้ สุดท้ายของทั้งหมดกลายเป็นสิ้นสงครามให้กับโจโฉ
ปีเจี้ยนอันศกที่ 5 เดือน 10 อ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ที่กัวต๋อ เป็นเหตุให้กองทัพนับแสนแตกพ่ายไม่สามารถกลับมายืนหยัดต่อสู้ได้อีก
ปีเจี้ยนอันศกที่ 7 เดือน 5 อ้วนเสี้ยวป่วยหนัก อาเจียนเป็นเลือดจนตาย
ปีเจี้ยนอันศกที่ 9 อ้วนซงบุตรชายคนที่สามของอ้วนเสี้ยวรับตำแหน่งต่อจากอ้วนเสี้ยว ถูกโจโฉตีแตกพ่าย
ปีเจี้ยนอันศกที่ 10 อ้วนถำลูกชายคนโตของอ้วนเสี้ยว ถูกโจโฉฆ่าตาย
ปีเจี้ยนอันศกที่ 12 เดือน 9 เจ้าเมืองเหลียวตง กองซุนคังสังหารอ้วนซงทายาทของอ้วนเสี้ยว กับอ้วนฮีบุตรชายคนรองของอ้วนเสี้ยว แล้วจึงนำหัวมอบให้โจโฉ จากนั้นเป็นต้นมาตระกูลอ้วนดับสูญ ทั้งหมดนี้เกิด จากการพ่ายแพ้ที่กัวต๋อ ทำให้ขั้วอำนาจพลิกผัน ภาคเหนือทั้งหมดภาพรวมเป็นของโจโฉ
ในตอนหน้าเราจะคุยกันถึงเหตุของความพ่ายแพ้ของ อ้วนเสี้ยว กับ EP 10 ที่มาแพ้ชนะ
โฆษณา