8 ก.ย. 2019 เวลา 13:13 • ปรัชญา
"การศึกษางานเขียนของมาร์ค ทเวน"
บทที่ว่า
"การให้อภัยเป็นกลิ่นหอมของดอกไวโอเล็ต
อุทิศแก่ส้นเท้าที่บดขยี้"
ในชั้นเรียนของการหัดเขียน มีโจทย์หนึ่งที่น่าสนใจ คือ การศึกษางานเขียนของคนอื่น
โจทย์คราวนี้ กล่าวถึงดอกไวโอเล็ต ดอกไม้สีม่วงที่อาจจะหาดูได้ยากหน่อยในเมืองไทย
ไวโอเล็ต ดอกไม้สีม่วง กับมารค์ ทเวน ในบทกวีของเขา ทำไมต้องเป็นไวโอเล็ตที่ถูกบดขยี้ ทำไม?
มันต้องมีเหตุผลซิ!!! การที่มันมีชื่อเสียงเพียงพอและถูกรู้จัก อย่างน้อยก็ต้องมีคนซาบซึ้งปละเข้าใจและและอินกับสิ่งที่เขาเขียน
การศึกษางานของคนอื่น โดยเฉพาะ งานที่มีชื่อเสียงหรืองานที่มีคุณภาพ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะเรียนรู้ว่า ทำไม ไมถึงเป็นงานที่ดี
ไวโอเล็ต ไวโอเล็ต สิ่งแรกที่ผมคิดถึงดอกไม้ชนิดนี้ คือตำนาน เทพนิยายของกรีกโบราณ การกำเนิดของดอกไวโอเล็ต
ตำนานของ Cybele กับ Attis
Cybele เทพธิดาแห่งการเป็นแม่ ได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่ม รูปงาม Attis
Attis ก็ทราบดีถึงความรักของ Cybele ต่อตัวเอง แต่ตัวเขาเองก็กลับตกหลุมรัก กับ ธิดาของราชาPessinus และปราถนาที่จะแต่งงานกัน
เมื่อ Cybele ทราบ ด้วยความริษยาและอาฆาตเธอปราถนาที่จะแก้แค้น เธอวิ่งอย่างบ้าคลั่งผ่านภูเขา หวังเข้าไปในเมืองและทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
Attis จึงเดินเข้าไปในป่า หยุดยืนอยู่หน้าต้นไพน์ แล้ว เฉือนสิ่งที่แสดงถึงความเป็นชายของตัวเองออก
หยดเลือดของ Attis กลายเป็นดอกไวโอเล็ต เขาสิ้นใจตาย อยู่ตรงนั้น และวิญญาณของเขาถูกปลอบประโลมอยู่ใต้ต้นไพน์
ด้วยเหตุนี้ ดอกไวโอเล็ต จึงเป็นตัวแทนของความเสียสละ ยุติธรรม คุณธรรม และความอ่อนน้อม
อีกนัยหนึ่ง ผมพบว่า ไวน์แดงชั้นดี อย่าง
Bordeaux, Brunello di Montalcino, Chianti, Côte-Rôtie และ Rosso di Montalcino
มักถูกแต่งเติมด้วยกลิ่มหอมของดอกไวโอเล็ต
โอ้ มารค์ ทเวน เหตุใด ต้องเป็นไวโอเล็ต?
ไวน์ หรือ เทพปกรณัม ?
หรืออาจจะมีอีกมุมหนึ่ง ที่ผมเองยังไม่รู้ !!
ผมเชื่อว่า ทุกเรื่องราว ของบทกวี หรือ งานเขียน ล้วนมาจาก สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวนักเขียน ประสบการณ์ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม
เรื่องแต่ง คือเรื่อง จริง ที่ถูกมองผ่านภาพใน
จิตนาการ
เรื่องจริง คือ เรื่องเล่าคือที่กลั่นออกมาจากประสบการณ์ อาจมีการแต่งแต้มความรู้สึกเพื่อสีสัน
เมื่อผมแอบเข้าไปค้น ประวัติของมาร์ค ทเวน
บิดาของนักเขียนชาว อเมริกัน
นักเขียน นักเดินเรือ หนังสือมากมายที่เขาแต่ง มีทั้ง แนวประวัติศาสตร์ และอิงวิทยาศาสตร์
รวมถึงการเป็นคอเหล้า ชั้นดี
บางทีถ้าเขายังอยู่ และผมมีโอกาสถามเขา โดยตรงว่า
สิ่งเขาเขียนกำลังบอกถึงอะไร เขาอาจไม่ยี่หระ พลางตอบว่า เรื่องของมึง!! จะตีความอะไรก็แล้วแต่ก็เรื่องของมึง!!
กูพูดถึง แค่ ไวโอเล็ต กลิ่นหอม และส้นตีน ก็แค่นั้น
แต่จากการเรียนรู้ที่จะเขียน อาจารย์ที่สอนงานเขียนบอกผมว่า งานเขียนที่ดีต้องให้สิ่งที่ดีกับคน
อ่าน แม้ว่าเรากำลังเล่าถึงเรื่องราวที่เลวร้าย
ผมเชื่อว่างานของมาร์ค ทเวนก็เช่นกัน
เรื่องสุดท้าย ของมาร์ค ทเวน ที่ถูกตีพิมพ์หลังเขาเสียชีวิต กว่าสิบปี
"Incident in the Philippines" เรื่องราวของการสังหารหมู่ชาว Moroที่ฟิลิปปินส์
ทเวน เป็นหนึ่งผู้นำใน Anti-Imperialist League (กลุ่มผู้ต่อต้านการเข้าครอบงำประเทศอื่นโดยสหรัฐอเมริกา)
แม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเขาเขียนถึงอะไร
แต่หากคุณเป็นนักดื่มไวน์ชั้นดี ถูกเจือด้วยกลิ่นของดอกไวโอเล็ต
ก็อาจคิดได้ว่า
อย่าทรนงไป
เพราะกว่าจะเป็นไวน์ชั้นเลิศ อบอวลด้วยกลิ่นดอกไวโอเล็ต
ทั้งองุ่น และดอกไวโอเล็ตล้วนต่างถูกบดขยี้ ด้วยส้นเท้าหรือสันตีนมาก่อน
หากคุณเป็นฝ่ายที่ถูกกดขี่ ไม่ได้รับความยุติธรรม คุณธรรมถูกบดขยี้
การให้อภัย และเสียสละ ก็อาจเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ เพื่อรอรับความสุขจากการให้
การศึกษางานเขียน ไม่ใช่ แค่การศึกษาตัวอักษร แต่ การพยายามหาคำตอบหรือการตีความในสิ่งที่เราอ่าน
บางทีคุณอาจพบความหมายที่ยิ่งใหญ่ ซ่อนไว้ภายใต้บทกวีไม่กี่คำ
#เหล็กไม่เอาถ่าน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา