16 ก.ย. 2019 เวลา 13:55 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ตอนที่ 13
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2561
ผมตื่นเช้าพร้อมกับเห็นเมฆหมอกเต็มไปหมด
กับสถานที่กางเต๊นท์ ม่อนกิ่วลม
หลังจากเมื่อวานผมได้เดินทางจากศูนย์อพยพผู้รี้ภัย
ขับตามถนนเลียบชายแดนมาเรื่อยๆ
ผมเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติแม่เมย และด้วยใกล้จะมืดค่ำ
ผมก็เลยขับเข้าไปที่อุทยาน โดยไม่รู้ข้อมูลใดๆในอุทยานแห่งนี้
1
พอมาถึงทางเข้าอุทยานผมก็ซื้อบัตรเข้าอุทยาน
เลยสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีจุดสวยๆชมพระอาทิตย์ตรงไหน
ให้กางเต๊นท์บ้างครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ก็มีอยู่ 2 จุด
แต่จะเข้าไปลึกหน่อย จุดแรกชมพระอาทิตย์ตก จุดสองเลยไปอีก
ชมพระอาทิตย์ขึ้นก็คือ ม่อนกิ่วลม พอผมได้ฟังก็เร่งรีบขับมอเตอร์ไซ
ตามภูเขาไปเรื่อยๆแต่ก็มืดค่ำจนได้
หมอกลงจัดในตอนเช้า
พอถึงปรากฎว่ารถขึ้นไปจอดที่ลานด้านบนไม่ได้
ผมจึงต้องปลดสัมภาระขนขึ้นที่ที่บนเนินเอง
ประมาณ 2-3 เที่ยว จากนั้นก็รับกางเต๊นพร้อมกับความมืด
โดยผมใช้ตะเกียงเล็กๆพอให้เห็นอะไรบ้าง
ในระหว่างนั้นก็สังเกตว่าก็มีนักท่องเที่ยวคนอื่นกางเต๊นอยู่บริเวณนั้น
กำลังทำอาหารกินกัน มีสองฝั่ง ฝั่งผู้ใหญ่ฝั่งหนึ่ง
วัยรุ่ยอีกฝั่งหนึ่ง ผมก็กางเต๊นท์จนเสร็จ
ผมเริ่มต้มน้ำร้อน โดยวันนี้ผมลองแบบใหม่จากเมื่อวาน
ซึ่งเมื่อวานเป็นการเอามาม่าผสมโจ๊กและใส่เครื่องปรุงผสมกัน
ซึ่งรสชาติไม่ได้เลยเรื่องทีเดียว
แต่วันนี้ผมลองเอามาม่าใส่โจ๊ก โดยไม่ใส่เครื่องปรุงมาม่า
ปรากฏว่ารสชาติดีขึ้นกว่าเมื่อวานหน่อย ผมก็นั่งกินจนหมด
เส้นทางจากถนนเลียบชายแดนเข้าม่อนกิวลม
พอกินเสร็จผมสังเกตที่เท้าผม
ผมเห็นเลือดไหลอยู่ที่เท้า ผมเลยเอาไฟส่องดู
พบว่าจุดที่ทากกัด เลือกยังไม่หยุดไหล
ซึ่งผมพึ่งมาสังเกตเห็น ก็เลยไปส่องดูถุงเท้ารองเท้าที่ใส่มา
ก็พบว่ามีเลือดเปอะอยู่ ในความมืดนั้นผมพึ่งมารู้ตัว
มีพี่ๆที่รู้จักเคยบอกว่าทากกัดให้เอาใบยาเส้นมาปิดแผล
ในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ มาตรวจสอบดูแลความปลอดภัย
มีพกปืนมาด้วยครับ ซึ่งจุดนี้จะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ
เค้าขึ้นมาดู ประมาณ 2-3 ทุ่ม เค้าก็จะกลับลงไป เค้าบอกเล่าให้ฟัง
ซึ่งผมเข้าไปสอบถามขอใบยาเส้นมาปิดแผลทากกัด เจ้าหน้าไม่มี
ก็เลยพากันหาใบสาบเสือแถวนั้นมาปิดแผลไว้
พอผมจะนอนก็กลัวมันจะหลุด ก็เลยเอาเทปดำพันสายไฟมาปิดไว้
ที่จริงผมพกมาเผื่อปิดรอยรั่วเต๊นเฉยๆแต่คราวนี้ได้ใช้ประโยชน์เพิ่ม
ขออนุญาตลงภาพเท้าที่พันด้วยเทปดำ
นั้นละครับ เช้ามา มาเปิดดูก็พบว่าเลือดหยุดไหลแล้ว
ซึ่งตอนเช้าที่นี้หมอกหนามาก และฟ้าก็เมฆเยอะ
ผมก็เดินดูพื้นที่ถ่ายรูป โดยหวังฟ้าฟ้าจะเปิดให้เห็นดวงอาทิตย์บ้าง
บ้านหลังน้อย
ผมก็รอว่าจะได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นตอนเช้ามั๊ย จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็น
วันนี้คงไม่มีดวงที่จะได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นละมั้งครับ
ผมก็ถ่ายรูปไปและเห็นหลายๆคนมาเป็นคู่มาเป็นกลุ่ม
ผมก็ได้แต่ดูคนอื่น นั่งกินกาแฟชมบรรยากาศไป
ซึ่งก็มีพูดคุยกับพี่เต๊นท์ข้างๆบ้าง ชวนกันกินกาแฟ
เค้ามากันเป็นคู่
สุดท้ายจนสาย หมอกจางหมดแล้ว แดดเริ่มออก
ผมก็เก็บอุปกรณ์และเอาบางส่วนไปตากไล่ความชื้น
ในระหว่างรอผมก็นั่งจดบันทึกเรื่องราวไว้กันลืม
จนเริ่มสายนักท่องเที่ยวที่กางเต๊นท์ก็พากันเดินทางออกไป
ผมก็เดินเก็บขยะที่เห็นเล่นๆรอแถวๆนั้น เพื่อรอให้อุปกรณ์แห้งกว่านี้
และก็มีพี่บอกว่ามีม่อนครูบาใสอีกจุด ถ่ายรูปสวย ไม่มีต้นไม้บัง
ผมก็เลยเก็บอุปกรณ์และออกเดินทางกลับ และแวะม่อนครูบาใส
ม่อนครูบาใส
ในระหว่างเดินทางออกจากอุทยานผมก็แวะจุดหนึ่ง
แปลงสาธิตผลไม้เมืองหนาว และเห็นว่ามีที่เหมือนร้านค้ากับข้าวพื้นเมือง
ผมก็เลยเดินเข้าไปสอบถาม เพราะเริ่มหิวแล้วนั้นเอง
แต่เค้าบอกว่าร้านปิดไปแล้ว ผมก็เลยอด แต่ก็เดินเข้าไปข้างหลังเพื่อถ่ายภาพวิวสวยๆกลับมา
แปลงสาธิตผลไม้เมืองหนาว
วิวสวยๆ
จากนั้นก็ขับจนออกมาเกือบถึงถนนหลัก
จะมีจุดชมวิวแม่น้ำแม่เมย ผมก็เลยขึ้นไปถ่ายรูปวิวอีกที่
จุดชมวิวแม่เมย
จากนั้นผมก็ออกเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางเลาะชายแดนต่อไปเรื่อยๆ
ซึ่งผมเริ่มรู้สึกหิวมากเพราะใช้พลังงานตอนเก็บเต๊นท์และขนอุปกรณ์ไปเยอะ ผมก็พยายามมองหาร้านข้างทางที่จะแวะได้ เดินทางไปอีกพักใหญ่ผมก็เจอร้านค้าข้างทาง ผมก็สั่งกระเพราหมูาับไข่ดาวมากิน
ด้วยความหิวระหว่างรอผมก็ไปซื้อขนมซื้อน้ำมากินแก้หิว
พออาหารมาปรากฎว่ากินไม่หมด เพราะอิ่มมาก
นี่ละความหิวของคน เวลาหิวก็อยากกินเยอะๆ
แต่พอกินจริงๆก็กินได้แค่อิ่มเท่านั้น
ผมออกเดินทางต่อไปและไปเจอป้ายจุดชมวิวตะวันตกสุดสยาม
ซึ่งเป็นพื้นที่ของหมวดการทางอะไรสักอย่าง
ผมก็แวะเข้าไป จากนั้นก็ตั้งกล้องถ่ายรูปไว้ ว่าครั้งหนึ่งมานี่แล้วนะ
สุดแดนสยามตะวันตก
การเดินทางของผมส่วนใหญ่อยากจะแวะไหนก็แวะ
ไปเรื่อยๆตามที่คิดเอง อยากชิว อยากเร็ว ก็ตามสะดวก
เส้นทางเลียบชายแดนนี้จะขึ้นเขาลงเขาตลอด
สักพักฝนเริ่มปรอยๆผมเห็นศาลาข้างทาง ก็เลยจะแวะหลบ
แล้วคนที่จอดหลบอยู่ก็ขับออกไปก่อน ผมก็มองฟ้าคิดว่าคงตกไม่เยอะ
เค้ายังขับต่อไปได้ เราก็ขับต่อบ้างสิ
ขับไปสักระยะฝนก็เริ่มหยุด และผมก็แซงคนที่ออกมาก่อนผมไป
แต่ขับไปอีกระยะฝนเริ่มตกและแรงขึ้นซะงั้น
ผมก็เลยหาที่หลบฝนข้างทาง ซึ่งแถวนี้ไม่ค่อยมีหมู่บ้านอยู่ข้างทาง
จะมีเฉพาะศาลาข้างทางเป็นหลัก ผมก็แวะศาลาข้างทางเพื่อหลบฝน
สักพักคนที่ผมแซงมาก็แวะเข้ามาหลบฝนเหมือนกัน
จากนั้นก็ถามไถ่กันว่าไปไงมาไง ผมนั้นบอกว่าจะขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ
ส่วนพี่เค้านั้นบอกจะเอาน้ำมันพืชไปส่งแม่ที่วัด พอดีมีบุญกฐิน
แม่เค้าเป็นเจ้าภาพอยู่และยังได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้กับผม
ชื่อ ม่อนคลุย เค้าบอกสวยกว่าที่แม่เมยเยอะ น่าจะสวยที่สุดในระแวกนี้
และก็อีกอย่างเป็นทางเดียวกันกับที่จะไปวัดด้วย แวะทำบุญกินข้าวด้วยกันก่อน เป็นงานบุญของชาวกระเหรี่ยง ที่อยู่ในป่าเขาจะลงมาทำบุญกัน
พี่ซ้ายมือชวนไปด้วยกัน
ส่วนตัวพี่เค้านั้นแต่ก่อนก็อยู่ด้านบน แต่ครอบครัวได้อพยพลงมาอยู่ที่ราบด้านล่างนานแล้ว ในระหว่างนั้นผมก็คิดว่าจะไปด้วยดีมั๊ย เพราะถ้าแวะบ่อยก็ไม่ถึงไหนสักที แต่ก็ไม่อยากพลาดที่จะไปชมม่อนคลุย และงานบุญของชาวกระเหรี่ยงด้วย สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปกับพี่เค้า โดยไม่ได้คิดถึงความอันตรายอะไรเลยกับคนแปลกหน้า จากนั้นผมก็ขับตามพี่เค้าและน้องตัวเล็กๆของเข้าแวะออกจากถนนหลัก เข้าป่าเขาลึกไปเรื่อยๆเจอถนนลูกรังสูงชันผมก็ยังขับตามไป
ผมไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกลัวอะไรเลย รู้สึกแค่สนุกและตื่นเต้นกับถนนหนทางที่เหมือนเราได้ผจญภัย และผ่านหมู่บ้านที่หนึ่ง ไป ไปเจอสามแยก
มีป้ายไปม่อนคลุย แต่เค้าพาเลี้ยวไปอีกทางเพื่อไปวัด ก็เข้าไปลึกพอสมควร เค้าก็พาจอดรถไว้
จอดรถทิ้งไว้
และเค้าก็พาผมเดินต่อเข้าไปในป่าอีก ผมก็คิดว่าโหสุดยอดลึกมาก
จะเจออะไรละทีนี้ น่าลุ้นสุดๆ
เดินเข้าป่า
เริ่มเจอเสาที่มีผ้าห้อยเป็นสัญลักษณ์ เค้าบอกเป็นผ้างานกฐิน
ผมรู้สึกว่าอยู่ลึกลับมาเลย ณ เวลานี้
เหมือนประตูเข้าเมืองลึกลับมาก
พี่เค้าก็เดินชิวๆและคุยบอกเล่าหลายๆอย่างให้ผมฟัง
โดยที่น้องของเค้าก็เดินเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ
ชิวๆครับ
จนมาเจอรั้วไม้ไผ่ และมีป้ายมีธงชาติและธงสีเหลือง
เค้าบอกว่าเข้าเขตวัดละ
รั้วเข้าเขตวัด
พอเดินเข้าไปผมเจอรองเท้ามากมายถอดไว้ที่ดินด้านนอก
เค้าบอกว่าชาวบ้านจะไม่ใส่รองเท้าเข้าไปในบริเวณ
อาคารและพื้นที่กิจกรรมทางศาสนาในวัดเค้าจะถอดไว้ด้านนอกหมด
และเดินเท้าเปล่าบนดินเข้าไป
ไม่ใส่รองเท้าเข้าพื้นที่จัดกิจกรรมทางศาสนา
บริเวณทางเข้าพื้นที่วัด
พอผมเริ่มมองเห็นเหมือนเจดีย์ ในใจผมก็เต้นตูมๆ
รู้สึกตื่นเต้น ว่าจะเจออะไรอีก กับการเลือกเข้ามาครั้งนี้
โดยไม่มีแผนอยู่ในหัว และไม่คาดคิดว่าจะได้เข้ามา
คงเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ในชีวิตแน่ๆ
โอเคร ลองเข้าไปดู เข้าไปเห็น จะเจออะไรก็จะรู้เอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา