5 แนวทาง กิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว (รายได้หลายช่องทาง EP17)
มนุษย์เงินเดือน มีทางเลือกที่จะหารายได้เพิ่มด้วยการทำกิจการส่วนตัว (ขนานไปกับงานประจำ) เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่จะมี อิสระภาพทางการเงิน
มันมีความเป็นไปได้ แต่ใช่ว่ามันจะง่ายอย่างนั้น เราจึงควรเริ่มต้นทำกิจการส่วนตัว อย่างไม่เต็มตัว
กิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว
คนรวยที่มาจากการเป็นลูกจ้าง ใน EP10 ได้พูดถึงไปแล้วว่า
มนุษย์เงินเดือนจะรวยได้ ต้องเป็นผู้บริหารระดับ C Level ขึ้นไป ซึ่งบริษัทนั้นต้องมีขนาดใหญ่และมีกำไร หรือเป็นบริษัทใหญ่ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
โอกาสที่มนุษย์เงินเดือน(คนที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัท) ทำงานจนมีเงินมากกว่า 30 ล้านบาท นั้นมีความเป็นไปได้
แต่.. เป็นไปได้น้อยกว่า 0.1% เมื่อเทียบกับมนุษย์เงินเดือนด้วยกันทั้งบริษัท
(บริษัทใหญ่ ที่จ้างผู้บริหาร C Level จนรวยได้ ต้องมีพนักงานเป็นหมื่นคน)
Note ผู้บริหาร C Level: ยกตัวอย่างเช่น
CEO: Chief Executive Officer ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
COO: Chief Operation Officer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ
CFO: Chief Finance Officer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
CMO: Chief Marketing Officer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด
ถ้าการไต่เต้าเป็นผู้บริหาร คือ เป้าหมายของคุณอยู่แล้ว ขอให้มุ่งมั่นพยายาม สู้ต่อไป
นั้นเป็นเส้นทางของคนเก่ง บวกขยัน มีศักยภาพสูง และมีพลังชีวิตสูง
แม้ C Level จะมีความเป็นไปได้น้อย เพราะต้องผ่านการทดสอบ ผ่านการแข่งขันอย่างรุนแรง และใช้เวลาอันยาวนาน กว่าจะไปถึงจุดนั้น
ถ้าคุณไปไม่ถึงดวงดาว ได้เป็นแค่ ผู้บริหารระดับกลาง ก็ถือว่าดีมากแล้ว
(ตั้งเป้าให้สูงไว้ก่อน ถ้าไม่ได้ตามเป้า ก็มาอยู่ที่สูงกว่าคนทั่วไปแล้ว ก็ยังดี)
และ เรายังคงรวยได้เช่นกัน โดยการรู้จักออมและลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ
นี่ก็เป็นอีกหนทาง ที่ไม่ยากจนเกินไป
ซีรีย์ รายได้หลายช่องทาง ได้กล่าวภาพรวมเงินสี่ด้าน และการหารายได้จากช่องทางแรก E: Employee มนุษย์เงินเดือน มาจนถึง EP16 แล้ว
EP17 นี้ ถือเป็น EP แรกที่เริ่มกล่าวถึง รายได้ช่องทางที่ 2 หรือ S: Self Employed (ยังเหลือ B: Business และ I: Investor ไปต่อได้อีกหลาย EP)
เป็นการแนะนำรายได้อีกช่องทาง สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เหลือ 99.9% (หรือเกือบทุกคนเลย) เรายังมีโอกาสรวยได้เช่นกัน ด้วยกิจการส่วนตัว
แต่อย่าคิดว่าการก้าวออกไป จากการเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วไปทำกิจการ หรือธุรกิจส่วนตัวแล้วจะรวยได้ง่ายๆเลย นะครับ
มันมีความเป็นไปได้ยาก หรืออาจจะยากพอๆกับ ตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้บริหาร แต่มันยากกันคนละแบบ ซึ่งอาจจะถูกกับจริตของคุณ ก็เป็นได้
ไม่ว่าหนทางใดๆ ก็ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ ใช้ความรู้ ใช้เวลา ใช้ความพยายาม อดทน ใช้จังหวะและโอกาส
บางท่านอาจไม่เชื่อ เราต้องอาศัยดวง หรือโชคช่วย ด้วยครับ
** ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ นักธุรกิจหลายคน ยอมรับเรื่องนี้ มีอยู่จริง **
"กิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว"
ไม่ใช่ทำกิจการส่วนตัวแบบไม่ตั้งใจ นะครับ
คือให้ตั้งใจมากๆ แต่ให้เผื่อใจ เผื่อพลาด เผื่อถอยไว้ด้วย
เพราะที่สำคัญกว่านั้น เราต้องรักษารายได้ปัจจุบันให้มีความมั่นคงไว้ คือรักษารายได้ที่มาจากเงินเดือนบริษัท E: Employee โดยให้ตั้งใจทำงาน สร้างคุณค่าให้กับบริษัทที่จ่ายเงินเดือนให้เรา อย่างเต็มที่ มีวินัย เช่นเดิม
ทำแบบไหนที่เรียกว่า กิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว ดังนี้
1. ใช้เวลาว่าง นอกเวลางานประจำ เช่น กลางคืน หรือเสาร์อาทิตย์
2. ทำร่วมกับหุ้นส่วนที่ทำได้เต็มเวลา
3. เปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นรายได้
4. ออกแบบธุรกิจให้เป็นแบบ Prototype ลงทุนน้อยที่สุด รู้ผลเร็ว
5. ทำโดยไม่ใช้เงินลงทุน หรือใช้น้อยที่สุด
5 แนวทาง กิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว มีความหมายอย่างไรบ้าง
1. ใช้เวลาว่าง นอกเวลางานประจำ เช่น กลางคืน หรือเสาร์อาทิตย์
ตอนที่ผมเรียนจบพึ่งทำงานใหม่ๆ ผมคิดจะหางานทำวันเสาร์อาทิตย์ เช่น ขายสินค้าที่ตลาดนัดจตุจักร ไม่ได้หวังรายได้เพิ่ม แต่หางานทำเพื่อหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสียเงิน ถ้าเรายิ่งมีกิจกรรมมาก เราก็มีโอกาสจ่ายเงินมาก
มนุษย์เงินเดือนหลายๆคน ใช้เวลาช่่วงนอกเวลางาน หมดไปกับการใช้เงิน มากกว่าใช้เวลานั้นเพื่อหารายได้เพิ่ม เพราะแต่ละกิจกรรมมักมีค่าใช้จ่าย
เมื่อเรามีรายได้จากเงินเดือน แล้วมีอำนาจการจ่าย อาจเผลอตามใจกิเลสจ่ายเงินออกไป บางครั้งก็ใช้เงินในอนาคต เช่นใช้บัตรเครดิต หรือผ่อน 0%
สุดท้ายผมก็ไม่ได้ขายสินค้าวันเสาร์อาทิตย์ แต่ผมเลือกทำกิจการส่วนตัวที่ทำวันไหน ทำตอนไหนก็ได้ ทำกลางคิน หรือทำเสาร์อาทิตย์ก็ได้ ผมเป็นคนทำงานได้ทุกวัน แต่ผมก็พยายามให้ความสำคัญกับเวลาของครอบครัว
ผมยังสงสัยตัวเองว่า ผมนี้มีปัญหาหรือเปล่า
ผมแยกเวลางานกับการชีวิตส่วนตัวไม่ออก เพราะผมสนุกกับการงานทำ ไม่มีใครมาบังคับ ผมอยากทำก็ทำ ทำได้ทั้งวันหยุด และเสาร์ อาทิตย์
2. ทำร่วมกับหุ้นส่วนที่ทำได้เต็มเวลา
คำ่ว่า "หุ้นส่วน" เป็นได้ทั้งคนในครอบครัว (คู่สามี ภรรยา) พ่อหรือแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท หรือลูกจ้างที่เราไว้ใจ
หากเราคิดและทำงานแบบ Win Win โดยออกแบบธุรกิจให้มีผลประโยชน์ร่วมกันหุ้นส่วนที่เขาทำงานได้เต็มเวลา จึงเป็นไปได้ที่จะสร้างกิจการแบบนี้
ข้อสำคัญกิจการแบบนี้ คือ ต้องทำบัญชีให้เคลียร์และมีวินัย
3. เปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นรายได้
ตามข้อที่ 1 กิจกรรมยามว่างเสาร์อาทิตย์ ก็เป็นโอกาสหารายได้เพิ่มได้
ถ้าเรายังทำตัวเป็น Follower ทำตามคนอื่น เห่อตามเขา ทำตามกิเลส ทำตามใจตัวเอง แล้วเราก็จะกลายเป็นผู้จ่าย
ตรงกันข้าม ถ้าเราทำตัวเป็น Leader ทำเพื่อคนอื่น ทำตามใจคนอื่น ทำมากกว่าคนอื่น ขยันกว่าคนอื่น ขวนขวายมากกว่าคนอื่น ฯลฯ
เราจะมีผู้ตามจำนวนมาก จากนั้นโอกาสที่จะหารายได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว
โลกแบ่ง Follower ไว้ 99% แบ่ง Leader ไว้ 1%
จงค้นหาว่า อะไรที่ทำให้งานงานอดิเรกนั้นๆ แบ่งผู้คนเป็น 2 กลุ่มนี้
4. ออกแบบธุรกิจให้เป็นแบบ Prototype ลงทุนน้อยที่สุด รู้ผลเร็ว
นี่เป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่จะกล่าวรายละเอียดใน EP ต่อไป
คร่าวๆก่อน คือ เป็นกิจการที่พยายามลงทุนเริ่มต้นให้น้อยที่สุด น้อยเท่าที่พอเป็นกิจการได้ หรือไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลย ยิ่งดีมาก
ลงทุนน้อยที่สุดยังไม่พอ ต้องรู้ผลเร็วด้วย ถ้ามันไม่ Work เราจะได้หาทางปรับเปลี่ยน หาทางแก้ไขปรับปรุง พัฒนากิจการของเรา ได้โดยเร็ว
5. ทำโดยไม่ใช้เงินลงทุน หรือใช้น้อยที่สุด
บางกิจการไม่ต้องใช้เงินลงทุนก็มี คือการใช้ความสามารถ ใช้วิชาชีพรับจ้างทำงาน เช่น รับจ้างเขียนโปรแกรม รับจ้างทำกราฟฟิก รับจ้างเป็นที่ปรึกษา
การรับจ้าง เป็นกิจการด้วยเหรอ? บางท่านอาจสงสัย
"โอกาส" บางทีเราต้องวิ่งหาเอาเอง
เจ้าของกิจการหลายคน เริ่มต้นจากการใช้ความสามารถตัวเองรับจ้างไปก่อน
การที่มีโอกาสได้ทำงาน ส่งผลให้
- มีโอกาสได้ทำงานจริง ได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะตัวเอง
- มีโอกาสได้เข้าใจรูปแบบธุรกิจ รู้ว่าอะไรเป็นที่นิยม หรือเป็น Trend
- มีโอกาสได้รู้จักผู้ว่าจ้าง หรือลูกค้าโดยตรง (Connection)
- มีโอกาสได้รู้จักทีมงาน หรือผู้ขาย Supplier (Connection)
เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น จากรับงานส่วนตัว
ก็เปลี่ยนมาเป็นรับงานในรูปแบบบริษัท หรือกิจการส่วนตัว
สาเหตุที่แนะนำให้ทำกิจการส่วนตัว แบบไม่เต็มตัว เพราะ
1. ไม่ควรเสี่ยงกับ รายได้ปัจจุบัน
2. ไม่ควรเสี่ยงกับ การทำกิจการ (ธุรกิจมีได้ทั้ง กำไร และขาดทุน)
3. ไม่ควรเสี่ยงกับ การไม่ทำอะไรเลย (มีรายได้ช่องทางเดียว)
สุดท้ายนี้ ขอยกตัวอย่าง บุคคลที่เป็นมนุษย์เงินเดือนด้วย และแบ่งเวลาทำกิจการส่วนตัวนานถึง 5 ปี ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำเต็มตัว เขาคือ
Phil Knight เจ้าของวลี “Just Do it ” ผู้ก็ตั้งบริษัท Nike
เขาเคยเป็นพนักงานบัญชี ที่มีความฝันอยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก หรือรองเท้ากีฬา
มนุษย์เงินเดือนอย่างคุณล่ะ ลงมือทำ "รายได้หลายช่องทาง" แล้วหรือยัง?
สนใจการสร้างรายได้ในแบบต่างๆ
โปรดติดตาม รายได้หลายช่องทาง EP ต่อไป
ได้ที่ Blockdit: www.blockdit.com/worklifewinwin
- 17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
