ราชาแห่งผลไม้ในอินเดีย
และโอกาสในการส่งออกผลไม้ไปอินเดีย
หากพูดถึงราชาผลไม้ของไทย ก็ต้องทุเรียน ส่วนราชินี คือ มังคุด แต่สำหรับอินเดียแล้ว คนอินเดียไม่ได้นิยมชมชอบทุเรียนมากนัก โดยผลไม้ที่นับว่าเป็นราชาของอินเดีย ก็คือ
.
.
.
มะม่วง นั่นเอง
โดยมะม่วงนับว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยพบซากฟอสซิล ย้อนหลังไป 25 ถึง 30 ล้านปี บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย พม่า และบังคลาเทศ
ปัจจุบันอินเดียก็ถือว่าเป็น ผู้ปลูกมะม่วงที่มากที่สุดในโลก คือ ผลิตมะม่วงปีละกว่า 18.8 ล้านตัน! คิดเป็น 50% ของผลผลิตมะม่วงทั้งโลก
ส่วนไทยเราปลูกน้อยหน่อย ที่ประมาณ 3.4 ล้านตัน ก็อยู่ที่ 3 ของโลกนะ แต่ขอโทษ มะม่วงไทยอร่อยมากๆ เราเลยบริโภคในประเทศซะเป็นส่วนใหญ่ ส่งออกนิดเดียวเพียง 2%
สำหรับมะม่วง ที่ถือว่าเป็นราชาแห่งราชาแห่งผลไม้อินเดีย ก็คือ "มะม่วงอัลฟองโซ" (Alphonso) ที่มีกลิ่นหอมหวนชวนรับประทาน และมีราคาสูงที่สุดในบรรดามะม่วงในอินเดีย บางทีราคาขึ้นไปถึง กิโลกรัมละ 500 บาท!
Cr.Salebhai
แต่จริงๆ แล้วก็มีคนไทย นำมะม่วงพันธุ์อัลฟองโซ เข้ามาปลูกในไทย (อยู่ที่ศูนย์วิจัยปากช่อง) แต่กลับไม่ค่อยได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งเนื่องจากลูกเล็ก แล้วก็เขาว่ากันว่า รสชาติสู้มะม่วงไทยไม่ได้ อาจเป็นเพราะหวานสู้มะม่วงไทยไม่ได้
เทคโนโลยีชาวบ้าน
น้ำผลไม้ เมนูยอดฮิต ที่พบได้ทั่วไปในอินเดีย
แน่นอนว่าต้องมีส่วนผสมของมะม่วง โดยชื่อเมนูก็คือ แมงโก้ ลาสซี่ (Mango Lassi) เป็นโยเกิร์ตปั่นใส่มะม่วงสุก สไตล์อินเดีย เขาว่ารสชาตินี่ฟินสุดๆ ได้กลิ่นหอมๆ ของมะม่วง แล้วความหวานมันจากโยเกิร์ตและมะม่วงสุก
Cr.Pinterest
แล้วผลไม้ส่งออกยอดนิยมจากไทยไปอินเดียหล่ะ??
จากสัมมนา หลีกภัยสงครามการค้า มุ่งสู่เอเชียใต้ ได้ข้อมูลที่สำคัญสำหรับผลไม้ไทยที่ชาวอินเดียชื่นชอบเรียงลำดับดังนี้
1. มะขามหวาน
2. ลำไย
3. มังคุด
4. แก้วมังกร
5. ฝรั่ง
และที่กำลังมาแรงก็คือ “มะพร้าวอ่อน” ราคาตก 550 รูปีต่อลูก (ประมาณ 250 บาท)
มะขามหวาน Cr.SME export Thailand
ซึ่งผลไม้เหล่านี้ ก็ ไฮโซสุดๆ เพราะต้องนั่งเครื่องบินไปอินเดีย เนื่องจากหากไปทางเรือใช้เวลานานมาก (ถึงแม้จะมีตู้เย็นแล้ว) ทำให้สินค้าเน่าเสียก่อนถึงมือผู้บริโภค
ทำให้สาเหตุที่ผลไม้นำเข้ามีราคาแพง เนื่องมาจากต้นทุนค่าขนส่ง และค่าเผื่อความเสียหายจากการเก็บ โดยชาวสวนก็ขายราคาเท่าเดิมนั่นแหล่ะ ไม่ได้ขายได้แพงขึ้นเทียบส่งออกไปประเทศอื่นๆ
ตรงจุดนี้หากการคมนาคมขนส่งสะดวกรวดเร็วขึ้น (เช่นท่าเรือน้ำลึก หรือรถไฟความเร็วสูงขนผัก!) หรือมีวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้ผลไม้อยู่ได้นานขึ้น ก็น่าจะทำให้ยอดส่งออกผลไม้สดไปอินเดียเพิ่มขึ้นได้อีก!
ที่มา:
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กด ติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้นำเข้าส่งออก เชิญเข้าร่วมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หาช่องทางนำเข้าส่งออก และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก ได้ที่
- 24
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
