พญานาค เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นเดรัจฉานด้วย เหมือนกัน เพราะมีลำตัวไปทางขวางและไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้วย นาคแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูล วิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง ตระกูลเอราปถ พญานาค ตระกูลสีเขียว ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง และตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ
พญานาคในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
ราชาแห่งงู คือพญานาคมีที่อยู่ตั้งแต่แม่น้ำ ลำคลอง บึงต่างๆ ไปจนถึงสวรรค์ชั้น 1
พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะ เกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะ เกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
4. ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวรมหาราช ปกครองสวรรค์ด้านทิศเหนือ มีหน้าที่ปกครองพวกยักษ์ เหตุที่มาเกิดเป็นยักษ์เพราะทำบุญเจือด้วยความโกรธ มักหงุดหงิดรำคาญใจเป็นอาจิณ
- ยักษ์ คือ ผู้ที่เขาบูชาเซ่นสรวง หรือ ผู้ทำความพยายามให้เขาบูชาเซ่นสรวง ยักษ์มีหลายระดับ ตั้งแต่ยักษ์ชั้นสูง ยักษ์ชั้นกลาง ยักษ์ชั้นล่าง มีความละเอียดประณีตแตกต่างกันตามกำลังบุญ ถ้ายักษ์ชั้นสูง จะมีวิมาน เป็นทอง มีรูปร่างสวยงาม มีเครื่องประดับ มีรัศมี แต่ผิวจะดำ ดำอมเขียว อมเหลือง ดำแดงก็มี แต่ว่าดำเนียน มีอาหารทิพย์ มีบริวารคอยรับใช้ เวลาโกรธจึงจะมีเขี้ยวงอกออกมา
ส่วนยักษ์ชั้นต่ำที่บุญน้อย ก็จะมีรูปร่างน่าเกลียด ผมหยิก ตัวดำ ตาโปน ผิวหยาบเหมือนกระดาษทราย นิสัยดุร้าย ขนาดของยักษ์ มีตั้งแต่ตัวป้อมๆ ตัวอ้วนล่ำ ตัวใหญ่ ตัวเตี้ยก็มี ขนของยักษ์มีหลายแบบ ไม่มีขนก็มี มีขนก็มี ที่มีขนก็มีหลายแบบ ทั้งขนยาว ขนสั้น ขนเหนียว ผมของยักษ์ก็มีทั้งผมเหยียด ผมยาว ผมกระเซอะกระเซิง หัวล้านไม่มีผมก็มี ตาของยักษ์ มีตั้งแต่ ตาโปน ตาถลึง ตาแดง ตาเหลือก ตาเข ตาบอด
ยักษ์น่าตาน่ากลัว มีเขี้ยวยาว ผิวดำ
ยักษ์ในสวรรค์ชั้น 1 มีทั้งชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นล่าง
ยักษ์เกิดได้ 3 แบบ คือ เกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ และสังเสทชะ เกิดในเหงื่อไคล ที่อยู่ของยักษ์ก็มีอยู่ตามถ้ำ ตามเขา ในน้ำ ในดิน พื้นมนุษย์ บนอากาศ และมีวิมานอยู่ที่ เขาสิเนรุในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
การปกครองของชาวสวรรค์ชั้นนี้ จะแบ่งเขตเหมือนในเมืองมนุษย์ แล้วบางเขตก็จะปรับเปลี่ยนตามพื้นมนุษย์ เพราะมนุษย์จะปรับเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ การแบ่งเขตการปกครองก็เพื่อให้สังคมของตัวเองอยู่เย็นเป็นสุข เพราะอย่างไรก็ยังมีกิเลสอยู่ และเทวดาชั้นนี้มีบุญน้อยกว่าเทวดาชั้นอื่น มีโอกาสจะเบียดเบียนกันง่าย เช่น พวกยักษ์ก็จะปกครองกันตั้งแต่สวรรค์ที่เขาสิเนรุ ไล่เรื่อยไปจนถึงอากาสเทวา รุกขเทวา ภุมมเทวาที่ปนอยู่บนพื้นมนุษย์ ไม่ให้ทะเลาะกัน ไม่ให้เบียดเบียนกันเอง และก็ไม่ให้เบียดเบียนมนุษย์ และดูแลรักษามนุษย์ด้วย และก็ไม่ให้เบียดเบียนข้ามเขตแดนกัน ข้ามเผ่าพันธุ์กัน ระหว่างยักษ์ ครุฑ นาค คนธรรพ์ ให้อยู่กันอย่างเป็นสุข โดยที่ท้าวมหาราชทั้ง 4 จะประชุมปรึกษาหารือกันอยู่บ่อยๆ เพื่อให้การปกครองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งท่านจะมีความรักสามัคคีกัน และยังมีที่ปรึกษา มีอำมาตย์ เสนาบดี ในการช่วยดูแล คล้ายกับเมืองมนุษย์อีกด้วย
วิญญาณเร่ร่อนหรือผีตามศาลเจ้า
พวกผีสาง นางไม้ จะมีเทวดาคอยดูแลอีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้มาเบียดเบียนมนุษย์
การปกครองในพื้นมนุษย์ ถ้าสถานที่ใดที่มีเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ปกครอง คือ มีบุญมาก มีรัศมีมาก มีสมบัติอันเป็นทิพย์มาก ถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ตรงนั้นจะเจริญ ถ้าเทวดาศักดิ์ปานกลางความเจริญก็ลดลงมา ถ้าเทวดาที่มีศักดิ์น้อย บุญน้อย ที่ตรงนั้นก็เจริญน้อยลง เขาก็จะปกครองตามลำดับชั้นกันอย่างนั้น และที่สำคัญก็มีหน้าที่ดูแลคุ้มครองรักษามนุษย์ ไม่ให้พวกอมนุษย์ พวกผีสาง พวกนางไม้ พวกยักษ์ มาเบียดเบียนมนุษย์ เพราะพวกนี้บุญน้อย จึงคิดไม่ค่อยเป็น แล้วพื้นที่ใดที่มนุษย์สั่งสมบุญมาก เทวดาเหล่านี้ก็จะลงมาดูแลรักษามาก แล้วยิ่งมนุษย์ทำบุญแล้วอุทิศไปให้ผู้ปกครองเขต เขาจะอนุโมทนาบุญ แล้วก็ยิ่งลงมารักษา ทำให้มนุษย์คนนั้นเจริญรุ่งเรือง เทวดาจะเป็นส่วนเสริมบุญในตัวของคนนั้นเป็นหลัก