6 พ.ย. 2019 เวลา 15:31 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ภาค 2 ตอนที่ 6
วันที่ 10 ธันวาคม 2561
วันนี้ผมออกเดินทางสำรวจอีกครั้ง โดยวางแผนว่าวันนี้จะสำรวจแถวนี้ให้หมด เพราะวันพรุ่งนี้ก็จะไปจากระยอง ไปที่อื่นต่อ วันนี้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆกับชีวิตตัวเอง ที่ได้มาทำงานอะไรแบบนี้ เพราะมันไม่มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียนหรือที่เคยทำงานมาเลย
ผมสะพายกล้องเดินถ่ายรูปพื้นที่ต่างๆกับลมเย็นๆที่พัดมาจากทะเล นี่หรือคือการทำงานของเราตอนนี้ ซึ่งจุดแรกที่ผมเลือกเข้ามาคือท่าเรือเขาแหลมหญ้า ซึ่งผมก็ไม่ได้ต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเดินเล่นถ่ายรูปกัน แต่แค่ผมมีจุดมุ่งหมายภายในคือการทำงานเก็บข้อมูล และสภาพอย่างผมก็คงไม่มีใครคิดว่ามาทำงาน
เขาแหลมหญ้า
ซึ่งท่าเรือแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นการถมหินเป็นถนนออกไปจากชายฝั่ง
แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นท่าเรือแล้ว จะมีเพียงเรือของเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่เข้ามาที่นี่
อุทยาน
ผมก็เดินสำรวจจนไปเห็นท่าเรือคอนกรีตเก่าที่โดนตัดขาดออกจากถนนที่ยื่นออกไปในทะเล บ่งบอกว่าแต่ก่อนจุดนี้ก็เคยเป็นท่าเทียบเรือ แต่ก็ไม่รู้ด้วยเหตุผลประการใดที่เค้าปล่อยทิ้ง
ท่าเรือเก่า
จะมีก็เพียงสะพานที่เค้าก่อสร้างใหม่เป็นเสาคอนกรีตด้านบนปูแผ่นไม้เป็นทางเดิน ซึ่งจุดนี้นักท่องเที่ยวจะชอบมาถ่ายรูปมากเพราะมีวิวที่สวย และสะพานไม้ที่ยาวทอดออกไปในทะเล ทำใไ้เวลาถ่ายรูปออกมาดูสวยนั้นเอง
สะพานใหม่
ผมเห็นเจ้าหน้าที่อุทยานนั่งอยู่ ผมก็เลยลองเข้าไปพูดคุยเลียบเคียงสอบถามดูว่ามีเรือไปเกาะเสม็ดจากนี่มั๊ยครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าหลักๆต้องไปขึ้นเรือที่บ้านเพ จุดนี้จะเป็นจุดของอุทยาน ผมก็บอกว่าเห็นมีเรือจอดอยู่
ผมก็นึกว่าจะข้ามไปจากตรงนี้ได้ พี่เค้าก็บอกต่อว่าเรือตรงนี้เอาไว้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หรือคนในพื้นที่ เวลาเกิดเหตุอะไรเค้าก็จะวอมาที่วิทยุสื่อสาร เจ้าหน้าที่ก็จะขับออกไปจากตรงนี้ และคอยลาดตะเวนดูในพื้นที่ด้วย หรือไม่ก็ใช้พาเจ้าหน้าที่ข้ามฝั่งด้วย
จุดช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
หลังจากนั้นผมก็ออกเดินทางต่อไปที่บ้านเพ ซึ่งทางอาจารย์ก็เคยได้บอกผมไว้ว่า ถ้ามีโอกาสหรือหาโอกาสได้ ก็ลองเข้าสัมพาทษ์พูดคุยกับผู้ประกอบการด้วย ซึ่งในส่วนนี้ผมก็ค่อนข้างจะลำบากใจอยู่เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แล้วเราจะเข้าไปแบบไหน ไปพูดคุยสอบถามอะไร แล้วเค้าจะให้สัมพาทษ์หรือไม่ ผมก็กังวลอยู่ไม่น้อย ในระหว่างนั้นผมก็เลยนั่งเขียน นั่งเรียบเรียงคำถามในสมุดก่อน ว่าจะมีคำถามอะไรไปถามเค้าบ้าง และเราจะแนะนำตัวแบบไหน เพราะถ้าเราเข้าไปแบบนักท่องเที่ยวเราก็คงสัมพาทษ์เค้าไม่ได้มาก แต่ถ้าเราเปิดตัวว่าจะมาสัมพาทษ์ ถ้าเค้าให้สัมพาทษ์คงจะถามอะไรได้เยอะหน่อย
ซึ่งเมื่อผมเลือกจุดผู้ประกอบการที่จะเข้าสัมพาทษ์ได้แล้ว แต่ผมก็ยังไม่เข้าไปในทันที ผมเลือกที่จะไปนั่งกินกาแฟอยู่ร้านข้างๆก่อน เพื่อที่จะทำใจและซักซ้อมคำพูดก่อนเข้าไปนั้นเอง
นั่งกินกาแฟอยู่ร้านข้างๆ
พอทำใจได้แล้ว ผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในบริษัท พอผมเดินเข้าไป ไปเจอผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ ผมก็แจ้งความจำนงว่าจะมาขอสัมพาทษ์ และเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง เค้าก็บอกว่าอันนี้ต้องรอผู้จัดการมาให้ข้อมูล เดี๋ยวเค้าบอกให้ แล้วเค้าก็ให้ผมนั่งรอก่อน ผมก็ยิ้มและขอบคุณเค้าไป
พนักงานในบริษัท
จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา ซึ่งผมจำได้ว่าได้เจอเมื่อวานที่ท่าเรือหน้าด่านเกาะเสม็ด ซึ่งก็บังเอิญว่าเค้าเป็นผู้จัดการที่นี่ ซึ่งเป็นเรือเร็วข้ามฝากไปเกาะเสม็ด หลังจากนั้นผมก็ได้พูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆซึ่งเค้าก็พูดคุยตอบคำถามให้ข้อมูลผมมาไม่น้อยเลยที่เดียว ทำให้ผมได้เปิดโลกในมุมของผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว ในมุมมองต่างๆที่มีต่อนักท่องเที่ยว ภาครัฐต่างๆ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่า การที่เราอยากจะรู้เรื่องอะไร เราควรจะมาถามเค้าตรงๆและรับฟัง ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน ต่างก็มีมุมมองของตัวเอง ในความคิดส่วนตัวของผมเอง ถ้าคนที่ออกกฏ หรือวางนโยบายต่างๆได้รับรู้รับฟังข้อคิดเห็นของฝ่ายต่างๆทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงาน ก็คงสามารถหาแนวทางดีๆได้ไม่มากก็น้อย ขอแค่ลงมาคุยมารับฟัง
สัมพาทษ์ผู้ประกอบการ
ซึ่งเค้าก็มีได้พูดคุยกับผมว่าอยากให้ภาครัฐมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงโลวชีชั่น เพื่อกระจายการท่องเที่ยวไม่ให้ไปกระจุกกันตามจุดไฮซีชั่นเกินไป สังเกตได้จากข่าวรถติดตามเขาค้อและยอดเขาในช่วงนี้ซึ่งเป็นหน้าหนาว ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวกระจายออกไปจุดอื่นด้วย
และควรมีการปรับค่าเข้าอุทยานของนักท่องเที่ยวชาว พม่า กัมพูชา ลาว ที่เข้ามาทำงานในไทย ให้ถูกลง เพราะตอนนี้เก็บในราคาชาวต่างชาติเหมือนกันทั้งหมดซึ่งแพงมากสำหรับคนที่มาใช้แรงงานในไทย ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย ถ้าได้ลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่ม ก็จะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้
ซึ่งมีหลายอย่างที่เค้าได้บอกกับผม ส่วนตัวผมเองนั้นก็รู้สึกว่าไอเดียเค้าโอเครมาก เพราะเวลาเราไปเที่ยวหน้าเทศกาลต่างๆบางจุดคนแน่นมาก แต่บางที่คนก็แทบไม่มีเลย ก็ควรกระจายกันออกไปอย่างที่เขาว่า และเรื่องเพื่อนบ้านเราที่เข้ามาทำงานก็มีจำนวนมาก เนื่องจากผมทำงานอยู่ในสายงานก่อสร้างมาก่อนจึงรู้ว่ามีจำนวนมากเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหานโยบายที่เหมาะสมได้ก็คงจะดีไม่น้อย บ้านเราก็จะมีรายได้ ส่วนเค้าก็จะได้ท่องเที่ยว และมีความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทย อันนี้ก็เป็นมุมมองอีกอย่างที่เราควรรับฟังไว้เหมือนกัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา