แม้จะกลายเป็นอัลบัมแจ้งเกิดให้แพ็ท เบเนทาร์ มีเพลงอย่าง “Heartbreakers” และ “We Live for Love” แต่อัลบัม In the Heat of the Night ก็เกือบจะกลายเป็นงานหายนะไปแล้ว หลังการทำงานในห้องอัดไม่เป็นไปอย่างที่เบเนทาร์ต้องการ ในที่สุดไครซาลิสต้นสังกัดก็เลือกไมค์ แชปแมน โปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานกับ Blondie และ the Knack มาดูแลการผลิต และเขาก็คือจุดเปลี่ยนของอัลบัม เมื่อดูจะเข้าใจความต้องการของเบเนทาร์เป็นอย่างดี
กับเพลงอื่นๆ ที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของอัลบัม ก็มีสามเพลงที่แต่งโดนแชปแมนกับคู่หูในการแต่งเพลงของเขา - นิคกี ชินน์ “If You Think You Know How to Love Me”, “No You Don’t” และเพลงที่กลายเป็นชื่อชุด “In the Heat of the Night” แล้วก็ “I Need a Lover” ที่คัฟเวอร์เพลงของจอห์น คูการ์ เมลเลนแคมป์ ซึ่งเบเนทาร์บอกว่า เธอ “ปิ๊ง” แทบจะในทันที อยู่ในอัลบัมชุดนี้
ทุกวันนี้เบเนทาร์ยังมองว่า “Heartbreaker” เป็นเพลงที่สร้างนิยามให้กับอัลบัม เธอหวังว่ามันจะเป็นซิงเกิลนำของอัลบัม และเสียใจสุดๆ ที่ผู้บริหารค่ายเพลง ที่ไม่ทำตามที่เธอตั้งใจเอาไว้ “ไครซาลิสตกอยู่ในความกลัวเพลงพวกดิสโก และจะไม่ปล่อย “Heartbreaker” เป็นซิงเกิล” เบเนทาร์เผยในหนังสืออัตชีวประวัติ และเพลงที่ทางต้นสังกัดเลือกเป็นซิงเกิลแทนก็คือ "I Need a Lover" และ "If You Think You Know How to Love Me" ซึ่งถูกปล่อยเป็นสองซิงเกิลแรก ถึงจะได้รับการเปิดออกอากาศทางวิทยุ แต่ก็ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ในแง่การตลาด หรือยอดขาย และเมื่อหลังชนฝาเข้าเต็มๆ ต้นสังกัดของเบเนทาร์ก็ตัดสินใจปล่อย “Heartbreaker” เป็นซิงเกิล
ความสำเร็จของ “Heartbreaker" ส่งให้ยอดขายของอัลบัม In the Heat of the Night เดินหน้า ในเดือนมีนาคม 1980 เจ็ดเดือนหลังจากออกวางจำหน่าย งานชุดนี้ก็ไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่ 12 ของชาร์ทอัลบัม ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่งานชุดนี้ทำได้ ท้ายที่สุด In the Heat of the Night ขายไปเฉพาะในอเมริกามากกว่าหนึ่งล้านก็อปปี ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มันส่งให้เบเนทาร์กลายเป็นศิลปินดาวค้างฟ้าอยู่นานนับทศวรรษ