11 พ.ย. 2019 เวลา 04:30 • ประวัติศาสตร์
Modern China History 18
"Long March"
หลังจากเหตุการณ์ที่กองทัพก๊กมินตั๋งได้บุกปราบปราบโซเวียตจีนหรือพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มณฑลเจียงซีได้สำเร็จ
ในเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1934 กองกำลังคอมมิวนิสต์จีนกว่าแสนคนได้ตีฝ่าวงล้อมหนีออกจากมณฑลเจียงซีไปยังภาคตะวันตกของประเทศจีนและวกขึ้นไปทางทิศเหนือของประเทศ เรียกเหตุการณ์นี้ว่า Long March เพราะมองว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลของพรรคก๊กมินตั๋งไม่สามารถเข้าถึงหรือยังมีอำนาจไม่มากนัก
เริ่มต้นเดินทางไกลหมื่นลี้ไปยังมณฑลส่านซี
หลังจากการเดินออกจากมณฑลเจียงซีได้สามเดือน ผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของคอมมิวนิสต์รัสเซียมาโดยตลอดและสมาชิกคนอื่นๆต่างพร้อมใจกันยกตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพรรคให้กับเหมาเจ๋อตง
เหมาเจ๋อตงกับคณะผู้เดินทางในเหตุการณ์ Long March
เส้นทางที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เคลื่อนไปนั้น ล้วนแต่เป็นถิ่นทุรกันดาร ผ่านเทือกเขา ผ่านหมู่บ้านชาวพื้นเมืองต่างๆ ระหว่างทางมีการสู้รบกับทหารท้องถิ่นและชาวพื้นเมือง สมาชิกได้ล้มตายเป็นจำนวนมากจากทั้งการล้มป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ ความอดอยาก รวมถึงจากการสู้รบระหว่างเดินทางไกล
เส้นประสีแดงทั้งหมดคือเส้นทางการเดินทางของพรรคคอมมิวนิสต์ในเหตุการณ์ Long March
จนในที่สุดการเดินทางของทัพมนุษย์ด้วยระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตรและระยะเวลากว่า 370 วัน ก็ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ มณฑลส่านซี ในเดือน ตุลาคม ค.ศ.1935 พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ตั้งของกลุ่มคอมมิวนิสต์จีนท้องถิ่นในมณฑลส่านซีอีกด้วย
อย่างไรก็ตามกว่าจะมาถึงที่หมายนี้ พรรคได้สูญเสียสมาชิกไปก็ว่า 4 ใน 5 หรือ 8-9 หมื่นคน
ผู้ที่รอดชีวิตจากครั้งนี้ได้กลายเป็นผู้ที่มีบทบาทในอนาคตของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประเทศจีนต่อมา ได้แก่ เติ้งเสี่ยวผิง, หลินเปียว, หลิวเฉาฉี, เบ็งเตฮุย, โจวเอินไหลและจูเต๋อ (ไว้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของบุคคลเหล่านี้ให้ฟังนะครับ)
ที่มณฑลส่านซี เหมาเจ๋อตง ได้รวบรวมกองกำลังขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อต่อสู้กับพรรคก๊กมินตั๋ง จะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตามได้ในตอนถัดไปครับผม
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่ติดตามและรับชมครับ/\
Referrences

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา