อนาคตของคุณ คุณคือผู้กำหนด
#3 เป้าหมายที่ไม่ลงมือทำ ก็เป็นได้เพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวของ จ่าวิชัย สุริยุทธ ผู้ปลูกต้นไม้ 3 ล้านต้น จากจุดเริ่มต้นที่อยากพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ที่ เป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษที่ยากจนที่สุดในประเทศ ในทุกเช้าและหลังเลิกงาน จ่าวิชัยจะตระเวนปลูกต้นไม้ในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบันต้นไม้ที่ปลูกเติบใหญ่และก่อประโยชน์ให้กับชุมชน จนทำให้กลายเป็นชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ในปัจจุบัน หากจ่าวิชัยไม่มีเป้าหมายและลงมือทำ ชุมชนก็คงจะยังเป็นชุมชนที่ยากจนที่สุดอีกต่อไป
การตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตตัวเองเปรียบเสมือนเรามีเข็มทิศบอกว่าเราต้องไปทางไหน การไปถึงเป้าหมายสามารถปรับวิธีการที่เหมาะสมที่จะไปถึงเป้าหมายได้ ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราตั้งเป้าหมายว่าจะไปเชียงใหม่ เราก็จะรู้ว่าเราจะต้องไปทางทิศเหนือ แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะไปภูเก็ต เราก็จะรู้ว่าต้องไปทางทิศใต้ วิธีการเดินทางไปให้ถึงเป้าหมาย ในอดีต อาจเป็นการเดินทางโดยรถไฟ แต่ในปัจจุบันอาจมีทางเลือกเพิ่มเติม เป็นการเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งนำพาเราไปยังเชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับเป้าหมายทางการเงินชีวิต เราแบ่งช่วงเวลาหลักของชีวิตได้เป็น 3 ช่วง คือ
ช่วงแรก ประมาณ 25 ปี
คือช่วงที่เราเตรียมความพร้อมเพื่อการก้าวเดินต่อไป หรือเป็นช่วงที่เราใช้เวลาในการศึกษาเล่าเรียน เป็นช่วงที่เราอาจจะยังไม่มีรายได้ของตัวเอง
ช่วงที่สอง ประมาณ 35 ปี
คือช่วงที่เราสร้างฐานะทั้งด้านการงานและการเงิน และเป็นช่วงการสร้างครอบครัว เป็นช่วงที่เราจะมีความมั่นคงและมีฐานะมากขึ้นเรื่อยๆ
เป้าหมายทางการเงินส่วนมากจะเริ่มในช่วงที่สองของชีวิต ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี แบ่งออกได้เป็นเป้าหมายตามความต้องการต่างๆเป้าหมายระยะสั้น เช่น การซื้อรถยนต์ เป้าหมายระยะกลางเช่น การซื้อบ้าน การศึกษาให้ลูกจนจบปริญญาตรี ส่วนเป้าหมายระยะยาวเช่น การเตรียมเงินเพื่อเมื่อเกษียณ เป็นต้น
ช่วงที่สาม ประมาณ 25 ปี
คือช่วงที่เราไม่มีรายได้หลักอีกต่อไป ต้องดำรงชีวิตบนทรัพย์สินและความพร้อมที่เราเตรียมมาในช่วงก่อนหน้า
การไปถึงเป้าหมายแต่ละเป้าหมายเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อไม่ให้การตั้งเป้าหมายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ การไปถึงเป้าหมายทำได้โดย
การวางแผน : เลือกแนวทางที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย การจะทำเป้าหมายให้ไปสู่ผลสำเร็จได้ ก็จะต้องมาจากการวางแผนที่ดีที่กำหนดจากทิศทางที่ถูกต้อง และที่สำคัญควรเป็นแผนงานที่เราคิดว่าเรามีความถนัดหรือความสามารถ และความชอบที่จะทำด้วย
การลงมือทำ : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป้าหมายจะไม่มีวันสำเร็จได้หากเราไม่ลงมือทำ ถ้าคุณไม่ลงมือทำมัน หรือชะลอการเริ่มลงมือทำ เป้าหมายที่วางไว้ก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจะไปไม่ถึงเลย
ความมุ่งมั่น : ต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำให้สำเร็จจงได้ ไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรขึ้น เราต้องมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ หลายคนไปไม่ถึงเป้าหมายเพราะไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำ เมื่อไปไม่ถึงก็เลยต้องลดเป้าหมายลงเรื่อยๆ สุดท้ายอาจกระทบต่อชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่สามของชีวิตที่เราไม่มีรายได้หลักเข้ามาอีกต่อไป
องค์ประกอบ 3 สิ่งนี้ คือหัวใจสำคัญในการไปให้ถึงเป้าหมายของชีวิต ตัวอย่างของ จ่าวิชัยคือตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คิด ด้วยการวางแผนปลูกต้นไม้ ลงมือปลูกทุกวัน และมุ่งมั่นปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาสิบๆ ปี จนสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
เรามาเริ่มตั้งเป้าหมาย และวางแผน ลงมือทำอย่างมุ่งมั่นกันครับ และถ้าทำแล้วรู้สึกว่าแผนที่วางไว้ไม่ดี ก็ทบทวนและปรับแก้ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายต่างๆ ที่ต้องการ เพื่อตัวของเราเอง
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
