รัฐบาลไทยไม่ค่อยใส่ใจคนไทยในต่างแดน?
เร็วๆนี้ แอดมินได้ฟังรายการของคุณสุทธิชัย หยุ่น คุยเรื่องประเด็นที่รัฐบาลไทยไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากคนไทยในต่างแดนซักเท่าไหร่นัก หากเทียบกับประเทศเกาหลีใต้, จีน, ญี่ปุ่น
พอได้ฟังแล้วก็ทำให้คิด โดยส่วนตัวแอดมินก็เคยไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศในช่วงสั้นๆ (1 ปี) ซึ่งก็อยู่ได้โดยอาศัย Network ของคนไทยในต่างแดนด้วยกันนั่นแหล่ะ ไปทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน (มีเข้าวัดบ้างไรบ้าง) แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้บริการจากรัฐบาลไทยเหมือนกันนะ
ซึ่งจริงๆ แล้วคนไทยในต่างแดนก็มีไม่น้อยเลยนะ โดยข้อมูลจากสหประชาชาติ ประมาณปี 2560 มีคนไทยอยู่ต่างแดนประมาณ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่สหรัฐอเมริกา 3 แสนกว่าคน รองลงมาก็จีนและไต้หวันประมาณ 7 หมื่นคน ถัดมาคือ เยอรมัน ออสเตรเลีย และอังกฤษประเทศละ 5 หมื่นกว่าคน
โดยตัวเลขทั้งหมดนี้ 3 ใน 4 เป็นหญิงที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ
สาวไทยแต่งกับคนมาเลย์ Cr. mtoday
ถึงแม้จะขาดดุลผู้หญิงไทยไปแต่งกับชาวต่างชาติ แต่เหล่าหญิงไทยก็แกร่งใช่เล่น ไม่ได้ง้อเงินสามีอย่างเดียว
ต้องทำงานหารายได้หลายรูปแบบทั้งงานเบสิกอย่างร้านอาหาร พี่เลี้ยงเด็ก งานร้านค้าปลีก จนไปถึงอาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ ได้แก่ นวด หรือ งานพยาบาล เป็นต้น
ส่วนแรงงานคนไทย ที่มีข้อมูลในระบบที่ไปใช้แรงงานในต่างแดนก็มีมากกว่า 1 แสนคน และส่งรายได้กับประเทศกับคนละกว่า 140,000 ล้านบาทต่อปี โดยต้องบอกว่าตัวเลขนี้ไม่รวม “ผีน้อย” ที่อาจใช้วีซ่าท่องเที่ยวแล้วหลบหนีเข้าเมืองไปทำงาน
ดูแล้วก็เป็นจำนวนคนที่มากใช้ได้ทีเดียว ยิ่งชาวต่างชาติมาเที่ยวบ้านเราเยอะแบบนี้ การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของคนไทยในต่างแดนก็น่าสนใจมากๆ
หากดูเทียบประเทศเพื่อนบ้านดาวรุ่งอย่างเวียดนาม มีบทวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่เวียดนามเติบโตได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากคนเวียดนามในต่างแดนที่กลับไปพัฒนาเวียดนาม
โดยข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีคนเวียดนามต่างแดน กว่า 4 ล้านคน ส่งเงินกลับประเทศกว่า 5 แสนล้านบาท และมีคนที่ไปศึกษาต่างแดนมากกว่า 130,000 คนต่อปี และกลับมาทำธุรกิจหรือทำสตาร์ทอัพในเวียดนามกว่า 30,000 รายต่อปี
มีคำกล่าวว่า ประเทศจีนที่พัฒนาจนถึงทุกวันนี้ ประกอบด้วย 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ เงินมาก และ คนมาก (และคนดี)
ซึ่งจริงๆ แล้วจะบอกว่าเงินมาก อย่างเดียว แล้วประเทศจะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ก็คงไม่ใช่ ไม่งั้นประเทศเวเนซุเอล่าก็คงไม่เป็นแบบทุกวันนี้ ที่สำคัญกว่าเงิน ก็ คือ “คน” ซึ่งคนจีนก็อย่างที่เราทราบ ทำงานรวดเร็ว ฉับไวมาก คิดเร็ว ทำเร็ว
คนไทย ต้องยอมรับคงไม่เก่งทำการค้าเท่าคนจีน แต่เรามีความเก่งฉกาจด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะวัฒนธรรม การบริการ อาหาร การแพทย์ สมุนไพร บันเทิง อื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้กระทั่งการนั่งสมาธิ ตามแนวศาสนาพุทธ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกตะวันตก
ยกตัวอย่าง หากเราเจอนักว่ายน้ำระดับโลกแล้วเราว่ายน้ำไม่ค่อยเก่ง เราก็คงไม่กล้าไปท้าเค้าแข่งว่ายน้ำหรอก ท้าแข่งอย่างอื่นที่เรามีโอกาสชนะจะดีกว่า
จริงๆ แล้วแอดมิน ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารัฐบาลไทยใช้ประโยชน์จากคนไทยในต่างแดนเพียงพอหรือยัง แต่คนที่มองเห็นโอกาสนี้ ก็อาจใช้ประโยชน์จากคนไทยในต่างแดนได้
ยิ่งทุกวันนี้การติดต่อสื่อสารรวดเร็วเพียงปลายนิ้ว แถมยังฟรีอีกด้วย ทำไมเราไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ข้อนี้น่าคิดมากๆ
ส่วนคนไทยในต่างแดน ก็สามารถกลับมาช่วยพัฒนาประเทศได้นะ ช่วงเวลานี้ก็น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะการที่ภาครัฐสนับสนุนเรื่องสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระแสเมืองไทยอาจมาช้าหน่อย แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา แต่มีปัญหาหนึ่งคนไทยในต่างแดนกังวล หากจะกลับมาก็คือต้องกลับมาเกณฑ์ทหาร!
ก็เป็นโจทย์ที่น่าคิดของรัฐบาลเหมือนกันว่าจะทำอะไรเพิ่มได้บ้าง ในทางกลับกัน บางทีที่คนในชาติก็สามารถเริ่มทำสิ่งต่างๆได้มากมายสำหรับประเทศของตนได้...
เหมือนดังที่ ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี บอกว่า “จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่า ท่านทำอะไรให้ประเทศชาติของเราได้บ้าง”
หาก คนในชาติยอมแพ้ เราก็คงไม่ได้ไปต่อ...
สวัสดีครับ
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้นำเข้าส่งออก เชิญเข้าร่วมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หาช่องทางนำเข้าส่งออก และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก ได้ที่
#นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า
#zupports
#แอดนำเข้า
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
