ชีวิตพระ
ตอนที่ ๑๐ ขอปกครองสงฆ์
เมื่อโอกาสของพระเทวทัตมาถึง ด้วยถือดีว่าตัวเองมีรัชทายาทคือเจ้าชายอชาตศัตรูหนุนหลัง มีพวกพ้องบริวารอยู่อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ (เพราะมีอาหารหล่อเลี้ยงถึง ๕๐๐ ทุกวัน)
ก็ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ทันที เมื่อได้จังหวะก็ลุกนั่งกระโหย่ง (ท่านั่งคล้ายคุกเข่า แต่เข่าไม่แตะพื้น) ท่ามกลางคณะสงฆ์และสาธุชนที่มาฟังธรรมในวัดเวฬุวัน ทูลขอตรงๆ ด้วยสำนวนในยุคนั้นว่า
“พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ พระผู้มีพระภาคทรงพระชราแล้ว เป็นผู้เฒ่าแก่หง่อมแล้ว ล่วงกาลผ่านวัยไปแล้ว บัดนี้ ขอพระองค์จงทรงขวนขวายน้อยประกอบทิฏฐธรรมสุขวิหาร (หมายถึง ให้ปลีกตัวไปนั่งสมาธิอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร) อยู่เถิด ขอจงมอบภิกษุสงฆ์แก่ข้าพระพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจักปกครองภิกษุสงฆ์”
“อย่าเลยเทวทัต เธออย่าพอใจที่จะปกครองคณะสงฆ์เลย” พระพุทธองค์ตรัสห้าม
เป็นวัฒนธรรมในยุคนั้น จะขออะไรหรือปฏิเสธอะไร ต้อง ๓ ครั้ง พระเทวทัตทูลขอปกครองคณะสงฆ์ครั้งที่ ๒ พระพุทธองค์ก็ตรัสห้ามเหมือนครั้งแรก พอขออีกครั้งที่ ๓ คราวนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
“ดูกรเทวทัต แม้แต่สารีบุตรและโมคคัลลานะ เรายังไม่มอบภิกษุสงฆ์ให้ ไฉนจะพึงมอบให้เธอผู้ เช่น ซากศพ ผู้บริโภคปัจจัย เช่น ก้อนเขฬะ (น้ำลาย) เล่า”
พระเทวทัต ไม่ชอบพระสารีบุตร กับ โมคคัลลานะ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ยิน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงพระสารีบุตร กับ พระโมคคัลลานะ อีก ใจก็พลุ่งพล่านทันที
“เอาอีกแล้ว อะไรๆ ก็พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระพุทธองค์ไม่เห็นความสำคัญของเราบ้างเลย ...แล้วยังเปรียบเทียบเราเหมือนซากศพอีก”
ยังจำ กิเลสความถือตัวที่ชื่อ “มานะ” ในตอนที่ ๖ ได้ไหม หากกิเลสตัวนี้ฟูขึ้นมา แล้วเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครให้ความสำคัญ ก็จะรู้สึกโกรธและน้อยใจ สำหรับเทวทัตนั้น กิเลสตัวนี้ฟูฟ่องมานานแล้ว และตอนนี้ตัวเองก็ถือว่าใหญ่คับเมือง เจอพระพุทธองค์ตรัสแบบนี้ เหมือนถูกตอกหน้า ทั้งโกรธที่พระพุทธองค์ไม่ไว้หน้า และทั้งน้อยใจที่พระพุทธองค์ไม่ให้ความสำคัญ
แต่ก็ยังมีความเคารพอยู่บ้าง หรือ ต้องการทำให้ดูดีก็ไม่ทราบ พระเทวทัตก็ยังอุตส่าห์กราบถวายบังคม แล้วทำประทักษิณ (เดินรอบพระพุทธองค์โดยหันข้างขวาให้ตามเข็มนาฬิกา เป็นอาการแสดงออกถึงความเคารพในยุคนั้น) พระพุทธองค์ก่อนที่จะกลับไปที่อยู่ตน
บรรยากาศในวัดเวฬุวันเริ่มตึงเครียด... นี่เป็นแค่ยกแรกเท่านั้น ... จบตอนที่ ๑๐
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
