12 ธ.ค. 2019 เวลา 10:00 • ปรัชญา
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 4
“ดอกเตอร์เธอร์เมอร์บอกอะไรกับเธอบ่างละไอ้หนุ่ม ฉันเขาใจว่าเธอกับเขาคุยกันเครียดพอดู”
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 4
“ใช่ครับ เราคุยกันนานเลยครับ ผมอยู่ในออฟฟิศของเขาประมาณสองชั้วโมงได้”
“เขาพูดกับเธอว่ายังไง”
“ก็….เขาก็พูดประมาณว่าชีวิตก็คือการแข่งขันอะไรแบบนั้นอะครับ และพูดว่าเราต้องแข่งขันตามกติกา….เขาก็ดีครับ
ผมหมายความว่าเขาไม่ได้โมโหหรืออะไร เขาก็แค่พูดเรื่องชีวิตคือการแข่งขันไปเรื่อยๆอย่างนั้นแหละครับ”
“ชีวิตก็คือการแข่งขันจริงๆละ ไอ้หนุ่ม ชีวิตคือการแข่งขันที่เราต้องเล่นตามกฎกติกา”
“ครับอาจารย์ ผมทราบดีครับ ผมทราบดี”
การแข่งขันเหี้ยอะไรละ ช่างเป็นการแข่งขันที่แสนประเสริฐเหลือเกิน
ถ้าคุณอยู่ข้างเดียวกับพวกคนเจ๋งๆละก็ มันก็คือการแข่งขัน ผมยอมรับ
แต่ถ้าคุณอยู่ข้างที่ไม่มีคนเจ๋งๆอยู่ด้วย แล้วมันจะเป็นการแข่งขันได้อย่างไร
ไม่ใช่เลย ไม่มีการแข่งขันใดๆทั้งสิ้น
“ด็อกเตอร์เธอร์เมอร์เขียนจดหมายไปบอกผู้ปกครองเธอหรือยังละ” อาจารย์สเปนเซอร์ถาม
“เขาบอกว่าเขาจะเขียนในวันจันทร์ครับ”
“แล้วเธอละ ติดต่อกับพวกเขาบ้างหรือยัง”
“ยังครับอาจารย์ ผมยังไม่ได้ติดต่อกับพวกเขา เพราะผมคงจะได้เจอพวกเขาในคือวันพุธเมื่อผมกลับถึงบ้าน”
“แล้วเธอคิดว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรกับข่าวนี้”
“ก็.,,,พวกเขาคงจะไม่ค่อยพอใจนักหรอกครับ พวกเขาคงไม่พอใจ นี่เป็นโรงเรียนที่สี่ที่ผมย้ายมาแล้ว” ผมสายหัว ผมสายหัวบ่อยเหมือนกัน
“ให้ตายสิ!” ผมพูด
ผมพูดว่า “ให้ตายสิ” บ่อยด้วย
สาเหตุคือผมไม่ค่อยรู้จักคำศัพท์มากนัก และบางครั้งผมก็ทำตัวเหมือนเด็ก
ตอนนั้นผมอายุสิบหกปี ตอนนี้ผมสิบเจ็ดแล้ว
บางที่ผมก็ทำตัวเหมือนว่าผมอายุราวๆสามสิบ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะขัดแย้งกัน เพราะผมสูงหกฟุตสองนิ้วครึ่ง และมีผมหงอก มีจริงๆนะ ด้านหนึ่งของหัวผม ด้านขวาอะนะ ผมมีหงอกเป็นล้านๆเส้น ผมมีมาตั้งแต่เด็กๆ
แต่บ้างทีผมก็ทำตัวเหมือนอายุสิบสอง ทุกคนบอกว่าอย่างนั้น
โดยเฉพาะพ่อของผม มันก็จริงอยู่นะ แต่ก็มันก็ไม่ได้จริงทั้งหมด
คนเรามักคิดว่าอะไรๆก็จริงไปเสียทั้งหมด ผมไม่สนใจหรอก
แต่บางครั้งผมก็เบื่อเวลาที่คนอื่นบอกให้ผมทำตัวสมอายุ บางทีผมก็ทำตัวแก่เกินวัย จริงๆนะ แต่คนอื่นไม่เคยสังเกตเห็น….คนเราไม่เคยสังเกตเห็นอะไรทั้งนั้นแหละ
อาจารย์สเปนเซอร์ผงกหัวอีกครั้ง เขาเริ่มแคะจมูก ผมไม่สนใจหรอก
แต่การต้องมองคนแคะขี้มูกมันก็ค่อนข้างน่าขยะแขยงอยู่อะนะ
แล้วเขาก็พูดว่า
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบพ่อแม่ของเธอ เมื่อครั้งที่พวกเขาเข้ามาคุยกับ
ด็อกเตอร์เธอร์เมอร์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน พวกเขาเป็นคนที่เยี่ยมมาก”
“ครับ ใช่ครับ พวกเขาเป็นคนดีมาก”
เยี่ยม นั้นเป็นคำที่ผมเกลียดจริงๆ มันเฟก ผมแทบจะอ้วกทุกครั้งที่ได้ยินมัน
แล้วจู่ๆ อาจารย์สเปนเซอร์ก็ดูเหมือนจะมีอะไรดีๆคมๆบางอย่างที่จะบอกผม
เขาขยับตัวขึ้นบนเก้าอี้แล้วเคลื่อนไหวไปมาเล็กน้อย แต่ปรากฏว่าผมเข้าใจผิด เขาแค่หยิบนิติยสาร แอตแลนติก ออกจากตักแล้วพยายามโยนมันลงบนเตียงข้างๆผม เขาโยนพลาด ผมลุกขึ้นไปหยิบมัน และวางมันลงบนเตียง
และในตอนนั้น จู่ๆผมก็โคตรอยากจะออกไปจากห้องนั้น ผมรู้สึกถึงการเทศนาครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผมไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอก
แต่ตอนนั้นผมยังไม่มีอารมณ์ที่จะโดนเทศนา
ผมดมกลิ่นยาหยอดจมูกและจ้องมองอาจารย์สเปนเซอร์ในชุดนอนและเสื้อคลุมอาบนํ้าของเขา ผมไม่อยู่ในอารมณ์นั้นจริงๆ
โฆษณา