17 ธ.ค. 2019 เวลา 05:33 • ความคิดเห็น
24. ต.ค พ.ศ 2488
ช่วงกลางคืน ที่วัดงิ้ว บ้านวัดงิ้ว จ.ชัยนาท มีงานสมโภชกฐินของนายสวัสดิ์ คหบดีในหมู่บ้านได้บอกบุญไปทางญาติโยม ให้มาร่วมตั้งองค์กฐินเพื่อถวายวัดในวันรุ่งขึ้น ในงานสมโภชนี้เจ้าภาพจ้างลิเกมาเล่น ที่ศาลามีพระธรรมกถึกฝีปากเอกมาเทศให้ญาติโยมรับฟัง คืนนี้ชาวบ้านจึงมาที่วัดอย่างเนืองแน่น
ที่งานวัดชาวบ้านต่างขนสร้อย แหวน กำไลข้อมือ ทองมาใส่แต่งตัวอวดประชันกันอย่างคับคั่ง ทันใดนั้นเสือย่อมพร้อมบริวารโจรอีก35คนก็ยิงปืนขึ้นฟ้า สั่งให้ทุกคนหมอบลงกับพื้นถ้าไม่อยากตาย ทั้งหมดตรงเข้าปล้นองค์กฐิน&เงินทำบุญ เครื่องประดับของมีค่าจากชาวบ้านไปจนหมดเกลี้ยง หลังจากพวกเสือย่อมถอยกลับไปหมดแล้ว นายสวัสดิ์กับพวกจึงเข้าแจ้งความกับตร.ในช่วงใกล้รุ่งเพราะระยะทางที่ห่างไกล
พ.ต.ตขุนพันธ์นำกำลังตร.มี ร.ต.ตศิริชัย กระจ่างวงศ์ จ.ส.ตถนอม นพรัตน์ พล.ตร.ทัน พล.ตร.ดี พล.ตร.จ๊อด พล.ตร.สด ส.ต.ต.สุชาติเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที ขุนพันธ์สอบสวนเจ้าทุกข์ก็ได้ผู้ต้องสงสัย 2คนคือผู้ใหญ่ขาว บ้านอยู่ข้างวัดหลวงพ่อขาว นายเชื้อ ท่าระบาด เมื่อนำกำลังตร. เข้าค้นบ้านของทั้ง2คน ก็พบของกลางหลายรายการ จึงนำมาขังที่โรงพัก แล้วทำสำนวนฟ้องศาล
เมื่อนำสืบพยานโจทก์ทั้งหมดกลับคำให้การ เพราะกลัวอิทธิพลเสือย่อม ทำให้จำเลยทั้ง2คนพ้นผิดไป ขุนพันธ์จึงเสนอให้ปลดนายขาวจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน และตามจับนายเชื้อข้อหาลักควาย แต่ขุนพันธ์ยื่นข้อเสนอจะช่วยให้นายเชื้อพ้นผิด แลกกับการเป็นสายให้&ส่งสายอีกคนประกบกันนายเชื้อตุกติก
นายเชื้อจึงติดต่อเสือย่อมว่าขอฝากญาติตนเข้าชุมโจรด้วย ด้วยเหตุนี้สายของขุนพันธ์จึงเข้าไปได้โดยง่าย
12 พ.ย พ.ศ.2488
เสือย่อมกับบริวาร15คนออกมาจากชุมโจรในป่าเพื่อมาสูบฝิ่นที่โรงฝิ่นคลองจันทร์ ต.ท่าโบสถ์ช่วงกลางวัน ข่าวเสือย่อมกับพวกมาสูบฝิ่นที่โรงฝิ่น เข้าหูกำนันเภาผู้ไม่เกรงอิทธิพลเสือร้าย จึงนำกำลังเข้าจับกุม แต่คลาดกัน
เวลา 02.00น.บ้านกำนันเภา
เสือย่อมกับพวก35คน พร้อมอาวุธครบมือบุกมาหมายปล้นฆ่ากำนันเภา ล้างแค้นที่ยกพวกจะจับตนที่โรงฝิ่นช่วงกลางวัน กำนันเภาตื่นเพราะได้ยินเสียงหมาเห่าผิดปกติ จึงลุกขึ้นคว้าลูกซองแฝด แล้วยิงผ่าไปจนกลุ่มโจรหลบเข้าที่กำบังกันเป็นแถว พวกเสือย่อมระดมยิงกลับเสียงสนั่นหวั่นไหว น้องชายกำนันคว้าลูกซองยาวมาช่วยกำนันเภาอีกแรงบนอีกฟากเรือน
กำนันตะโกนนางปรุง(เมีย)นางเปรย(น้องเมีย)โดดเรือนหนีไปก่อน นางปรุงหนีจากเรือนแล้วหนีเข้าทางพงรกหลังบ้านไป นางเปรยหนีออกทางหน้าต่างครัว ถูกโจรยิงสวนดับดิ้น ฝ่ายเสือย่อมมีพวกมาก ชาวบ้านโดยรอบเก็บของมีค่า&เผ่นหนีตายออกทางพงรกหลังบ้านเป็นแถว
ดวลปืนจนเช้าน้องชายกำนันลูกปืนหมด ฝั่งโจรจึงสาดกระสุนใส่เป็นห่าฝน จึงบอกกำนันให้หนีแต่กำนันไม่ไป น้องชายกำนันจึงโดดหนีออกทางหลังบ้านไป กำนันกระชับลูกซองแฝดแล้วโดดไปแลกกระสุนกับกลุ่มโจร กำนันเจอกระสุนจากกลุ่มโจรหลายครั้งแต่ไม่เข้า(กำนันมีปรอทกรอ2ลูก พระเครื่อง&ตระกรุดพวงใหญ่)
เสือย่อมเห็นกำนันหนังเหนียวจึงสั่งสมุนให้เผาบ้านกำนัน แล้วบุกเข้าไปทั้งยิง-ฟันจนกำนันดับคากองไฟนั่นเอง เสือย่อมกับพวกไล่ต้อนชาวบ้านราว10คนให้มาช่วยขนทรัพย์สินของกำนันไปส่งพวกมันที่ชายป่าแล้วไล่กลับ
คืนนั้นชาวบ้านเข้าแจ้งความกับขุนพันธ์ รุ่งเช้าขุนพันธ์นำกำลังเข้าที่เกิดเหตุ เจอแต่บ้านไหม้เกรียม ขุนพันธ์จึงนำศพของกำนัน&นางเปรยไปฝังที่ป่าช้าวัดนางเกลือ
และทำพิธีเซ่นดวงวิญญาณด้วยเหล้าขาว ข้าว ปลาบอกให้ช่วยนำทางไปจับเสือย่อมได้ในเร็ววัน เสือย่อมกับพวกหนีไปกบดานในป่าไผ่ขุย บ้านดอนกฐิน อ.สรรคบุรี อีกส่วนหนึ่งกลับไปใช้ชีวิตชาวบ้านปกติเพราะไม่มีคดีติดตัวที่ชัดเจน หลังจากที่แบ่งทรัพย์สินจากบ้านกำนันแล้ว
กลางป่าไผ่เสือย่อมกับพวกฉุดสาวชาวบ้านมาบำเรอกามถึง7คน ตัวเสือย่อมมีเมียที้ได้จากการฉุดคร่าอยู่แล้ว2คน กลางป่าไผ่มีที่ว่างตรงกอไผ่ ไว้พักผ่อนตามอัธยาศัย และกางมุ้งส่วนตัวแต่ละคนรวม7หลังในช่วงกลางคืน ป่าไผ่เป็นโล่กำบังอย่างดี ทั้งรุก-ถอยอย่างสะดวก
วันนั้นเสือย่อม เสือบับ เสือช่วยนอนสูบฝิ่นอยู่ข้างเพิงตรงจอมปลวกแล้วหลับไป นายเชื้อ&สายลับหลบออกจากป่าไผ่เข้ารายงานขุนพันธ์ทันที ขุนพันธ์ต้องการจับเป็นจึงใช้ดาบแดง&พกRevolvoเหน็บเอวไป1กระบอก
ขุนพันธ์พร้อมกำลังจนท.ตร.จึงบุกเข้าป่าไผ่ โดยมีพล.ตร.สุชาติคลานตามมาติดๆเพราะทางเข้าเป็นโพรงไผ่ไว้ลอดเท่านั้น หากหักพงเข้าไปจะเกิดเสียงดัง จะทำให้เสือย่อมไหวตัวทัน แต่ร.ต.ทบูรณะสายสะพายปืนติดเรียวหนาม จึงกระชากจนเกิดเสียงดัง เสือย่อมกับพวกไหวตัวทัน จึงเกิดการดวลปืนขึ้น แต่ป่าไผ่เป็นโล่ชั้นดีพวกโจรจึงหนีไปได้
ขุนพันธ์ตรวจสอบพื้นที่พบรอยเลือดจึงทราบว่าพวกโจรบาดเจ็บ แต่ไม่ผลีผลามตามไปเพราะป่าไผ่รก-ทึบมากจะเสียเปรียบด้านชัยภูมิ จึงสั่งให้รวบรวมทรัพย์สินพวกโจรที่ทิ้งไว้จากปล้นบ้านกำนันเภาไปคืนเมียกำนันทั้งหมด สอบถามตร.ได้ความว่าเสือย่อมถูกยิงที่สะโพก-ขา คาดว่าคงหยุดอาละวาดไปอีกนาน
ต่อมาเจอศพผู้ร้ายนอนตาย ใกล้บ้านนางเสือ มีรอยยิงพรุนแต่ระบุตัวไม่ได้เนื่องจาก ถูกแร้งกาแทะใบหน้าจนจำเค้าเดิมไม่ได้
14 พ.ย พศ.2488
ขุนพันธ์ยกกำลังตร.เข้าจับกุม สมุนเสือย่อมได้3คนคือ เสือจุน เสือแดง เสือวอนที่ต.นางลือช่วงเย็น ช่วงคุมตัวไปส่งยังตัวจังหวัด ผ่านป่าละเมาะใกล้วัดมหาชัย เสือย่อมกับพวกบุกมายิงปะทะช่วยเสือวอนไปได้
ขุนพันธ์นำตัวเสือแดง&เสือจุนเดินทางมาส่งที่ตัวจังหวัด วันรุ่งขึ้นขุนพันธ์ตรวจตรงบริเวณที่ชิงตัวผู้ต้องหา พบเสือวอนนอนตาย สันนิษฐานว่าคงถูกกระสุนช่วงยิงปะทะกัน จึงทิ้งศพไว้ตรงนั้น เสือย่อมหนีไปกบดานยังเขตอิทธิพลของเสือฝ้าย ปัญหาโจรผู้ร้ายในจ.ชัยนาทก็ซาไป เพราะกลัวเจอขุนพันธ์ปราบปราม
สงครามโลกครั้งที่2ยุติลง ชาวกทม.ที่อพยพไปตจว.ก็กลับคืนสู่กทม.อีกครั้ง หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2ใหม่ๆ โจรร้ายในเขตจ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท อาละวาดอย่างหนัก อธิบดีกรมตร.มีคำสั่งตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ขึ้นปราบปรามโจรภาคกลางโดยเฉพาะ มีพ.ต.อ สวัสดิ์ กันเขต เป็นผอ.กองปราบ มีพ.ต.ตขุนพันธ์เป็นรองผอ.
13 เม.ย พศ.2489
พ.ต.ตขุนพันธ์ได้รับรายงานจากสายว่า เสือย่อมพร้อมสมุนคือ เสือเข้ม เสือพวง เสือฉิ่ง เสือหริด เสือเห้ย เสือขาวพร้อมบริวารอีก30คน นัดฉลองงานสงกรานต์ ที่บ้านกำนันฟู บ้านดงดอน ต.ดงดอน อ.สรรคบุรี ในงานนี้เสือย่อมบังคับชาวบ้านให้ลงขันด้วย
พ.ต.ตขุนพันธ์แบ่งกำลังเป็น5สาย สาย1มีพ.ต.ตขุนพันธ์พร้อมกำลังจนท.อีก9นาย อีก4สายปิดทางหนีทั้ง4ทิศ&จับตายได้ทันที
เวลา11.00 น.
พ.ต.ตขุนธ์พร้อมตร.9นายแต่งตัวนอกเครื่องแบบ เข้าร่วมงานสงกรานต์ที่บ้านดงดอน แต่พล.ตร.ดีทำปืนลั่น พ.ต.ตขุนพันธ์จึงเร่งฝีเท้าเข้าบ้านดงดอน
เมื่อมาถึงเรือนกำนันฟูกลับพบแต่ความว่างเปล่า ทันใดนั้นกลุ่มโจรเสือย่อมก็สาดกระสุนเข้าใส่จากดงไม้ทึบ จนฝุ่นตลบเศษดินปลิวว่อน หมอบกันแทบไม่ทัน ขุนพันธ์เห็นโจรคนหนึ่งซุ่มตรงเสาใต้ถุนเรือนวิ่งออกมา จึงสับRevolvoเข้าต้นขาจนหัวทิ่ม แต่ก็วิ่งหนีไปได้ เสียงปืนจากดงไม้เงียบไปแล้ว สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตรงท้ายหมู่บ้าน ตรงจุดที่ตร.ซุ่มไว้
ขุนพันธ์ขึ้นไปบนเรือนกำนันฟูก็พบชาวบ้านหมอบอยู่ สอบถามได้ความว่า พวกเสือย่อมได้ยินเสียงปืนลั่น(จากพล.ตร.ดี)จึงหนีกันไปหมด กำนันฟูก็หนีตามโจรไปด้วย ตรวจบนเรือนเจอขันใหญ่ใส่เงินหลายพันบาท สมุดรายชื่อชาวบ้านที่(ถูกบังคับ)บริจาค จึงยึดไว้คืนชาวบ้านต่อไป
ขุนพันธ์จึงนำกำลังไปตรวจท้ายหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านหมอบกระสุนอยู่ เห็นข้าวของกระจายเกลื่อน สักพักกำลังตร.ทั้ง4สาย กลับมารายงานว่าไม่มีผู้ร้ายถูกยิงตาย มีแต่บาดเจ็บแต่ก็พากันหนีไปได้&เสือย่อมถูกยิงที่สีข้างแต่หนีไปได้ หลังจากนั้นเสือย่อมก็สาบสูญไร้ร่องรอย ไม่พบว่าปล้นที่ไหนอีกเลย
เสือครึ้มทราบข่าวว่าพ.ต.ตขุนพันธ์ล่าเสือย่อมจนแตกกระเจิงที่บ้านดงดอน จึงทำหนังสือขอเชิญ พ.ต.ตขุนพันธ์ ร.ต.ทเลื่อน โรจน์นิล นายอำเภอตอม พรหมายน ไปเจรจาฉันมิตรที่วัดนก
วันที่ 24 เม.ย พ.ศ2489
พ.ต.ตขุนพันธ์ ร.ต.ทเลื่อน นายอำเภอตอม จึงไปหาหมอดูเพื่อทำนายดวงชะตา ปรากฏว่าไม่มีใครเคราะห์ร้าย แถมมีลาภได้ชื่อเสียง&เลื่อนยศเสียอีก จึงตัดสินใจไปพบเสือครึ้ม
วันนัดหมาย พ.ต.ตขุนพันธ์ ร.ต.ทเลื่อน นายอำเภอตอมมีปืนพกคนละ1กระบอก มีดสั้น1เล่ม เฉพาะพ.ต.ตขุนพันธ์เพิ่มสนับมือ&ดาบแดงเข้าไปด้วย ขุนพันธ์สั่งให้กำลังตร.อยู่ในที่ตั้งถ้าพวกตนไม่กลับมาใน 17.00น.ให้นำกำลังบุกเข้าวัดนกได้ทันที
เวลา13.00น.วัดนก
ที่วัดนกเต็มไปด้วยกลุ่มโจรเสือครึ้มพร้อมอาวุธครบมือ พ.ต.ตขุนพันธ์ ร.ต.ทเลื่อน นายอำเภอตอม ควบม้ามาจอดแล้วผูกไว้ที่ต้นไม้ภายในวัด ทั้ง3คนตรงเข้าไปยังศาลาการเปรียญ ในนั้นมีชายฉกรรจ์4คน มีโต๊ะตั้งมีของคาวหวานเต็มโต๊ะ เหล้า ไหเหล้าเถื่อน น้ำตาลเมา น้ำขาววางอยู่
ชายทั้ง4โค้งคำนับแล้วชายวัยกลางคนก็แนะนำตัวว่าตนคือ เสือครึ้ม พร้อมสมุนอีก3คนคือเสือแฮม เสือนุ่น เสือไหวยินดีต้อนรับเจ้านายทั้ง3คน พ.ต.ตขุนพันธ์เห็นว่าไม่เหมาะที่จะเจรจาจึงเปลี่ยนสถานที่เป็นโบถส์จะเหมาะกว่า ด้วยเกรงเสียเปรียบเพราะศาลาการเปรียญเป็นที่โล่ง และอาจถูกนินทาว่ามีนอก-ในกับโจรได้
เสือครึ้มสั่งลูกน้องให้จัดที่ในโบถส์&ย้ายสำรับหวานคาวต่างๆเข้าไปในโบถส์ หลังจากกลุ่มของเสือครึ้ม&กลุ่มของขุนพันธ์ไปในโบถส์แล้วจึงสั่งให้ปิดประตูโบถส์ทันที
ในโบถส์พ.ต.ตขุนพันธ์ถามเสือครึ้มว่าต้องการอะไร เสือครึ้มแจ้งว่าแค่อยากรู้จักไว้นับถือต่อไปเท่านั้น พ.ต.ตขุนพันธ์กล่าวขอบใจ ขอเสือครึ้มไว้3ข้อ
1.อย่ารุกรานรังแกคนถิ่นเดียวกัน
2.ขอให้ช่วยปราบเสือก๊กอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนฝูง
3.ถ้าจะปราบเมื่อใดให้แจ้งล่วงหน้าจะส่งกำลังเสริมไปช่วย
เสือครึ้มรับปากจะทำตามที่พ.ต.ตขุนพันธ์ขอ เพราะอยากล้างมือจากการเป็นโจร และจะขอมอบตัวเร็วๆนี้ เมื่อเจรจากันจนเห็นสมควรแล้วทั้ง3จึงลากลับ เสือครึ้มจึงมาส่งทั้ง3นอกวัด
เมื่อถึงกองปราบพ.ต.ตขุนพันธ์จึงทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ผลจากการเจรจาทำให้เสือดอย เสือเกลี่ย เสือฝ้ายขอสู้คดี&จะปราบโจรก๊กอื่นๆโดยไม่พึ่งทางการ
กพ. พศ.2490
หน้าแล้ง บ้านดอนชงโค
บ้านนายหมึก-นางคอนติดกับบ้านนายศร-นางฟุ้ง ทั้ง2เป็นเพื่อนรักกัน เพราะชอบตีไก่ กัดปลา สุราเหมือนกัน ทั้ง2คนมีอัธยาศัยไมตรี เวลาตร.&จนท.อำเภอผ่านมาจะมาสนทนากับทั้งคู่เสมอ
ที่นี่เคยเป็นชุมโจรเก่าของเสือย่อม ที่ถูกปราบจนราบคาบไปแล้ว พฤติกรรมของนายหมึก&นายศรที่ชอบกินเหล้า เฮฮากับจนท.บ้านเมืองถูกรายงานไปยังเสือย่อม ว่าสงสัยว่าทั้ง2คนจะเป็นสายให้ทางการ
4 ก.พ พศ.2490
กลุ่มเสือย่อมกับพวกพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าบ้านนายศร เมื่อไม่พบนายหมึก&นายศร เมื่อไม่พบตัวจึงฉุดนางคอน-นางฟุ้ง เอียน-จอน(เมีย-ลูกสาว)ไปแทน เมื่อถึงท้องทุ่งเหล่าโจรจึงทำการข่มขืน เอียน-จอนจนสลบแล้วยิงนางคอน-นางฟุ้งตายคาที่
พ.ต.ตขุนพันธ์สืบทราบว่าเป็นฝีมือเสือตั๋ง-เสือแตงลูกน้องเสือย่อม และหนีไปกบดานที่บ้านวังขนุน จึงสั่งสายตรวจ12คนออกล่า
8 กพ. พศ.2490
สายตรวจตรงไปบ้านวังขนุน เกิดยิงปะทะกับเสือตั๋น&เสือแตง 2เสือหนีไปได้ ก็ปะทะกับส.ต.ทเฉิบ&ส.ต.ทวิเศษที่บ้านคลองขวาง 2เสือหนีก็ปะทะกับร.ต.อพยัคฆ์&นายอำเภอตอมที่บ้านห้วยกรด เสือตั๋งถูกยิงที่อกจนสิ้นชีพ เสือแตงหนีไปได้
เสือแตง&ลูกน้องหนีหัวซุกหัวซุนไปหาเสือย่อม เสือย่อมตัดสินใจเข้าจับมือกับเสือพัวบ้านสามเอก เสือศักดิ์-เสือสมบ้านวัดกำแพงเพื่อเสริมกำลัง
15 ก.พ พศ.2490
บ้านหมู่15 ต.แพรกราชา อ.สรรคบุรี เถ้าแก่ซ่งมีอาชีพค้าขาย&รับซื้อข้าวเปลือกชาวนาส่งโรงสีที่อำเภอ เถ้าแก่ซ่งมีลูกชายชื่อตี๋ นิสัยดี ขยัน&ตั้งเป้าว่าจะให้สืบทอดกิจการต่อ ตี๋รักกับสาวชายสาวสวยประจำหมู่บ้าน มีฐานะไม่แพ้เถ้าแก่ซ่ง
วันนี้นายดำ&นางทุเรียนมาหาเถ้าแก่ซ่ง&นางแตงขาวเพื่อคุยฤกษ์แต่งงานของตี๋&สาวชาย
เวลา13.00น.
เสือพัว เสือศักดิ์-เสือสม เสือย่อมพร้อมบริวารโจรอีก20คน ปรากฏตัวที่บ้านเถ้าแก่ซ่ง เข้าปล้นเอาทรัพย์สินทั้งหมด พร้อมจับเถ้าแก่ซ่ง&นางแตงขาว&ตี๋&นายดำ&นางทุเรียน&สาวชายเป็นตัวประกัน พอข้ามทุ่งพวกเสือก็นางแตงขาว&นางทุเรียนไปหาเงิน20,000บ.&ทองอีก4บ.มาไถ่ตัวลูก&ผัวตนเอง
เมื่อข้ามดงไม้จนทะลุถึงเพิงนาพวกโจรต่างเวียนเทียนข่มขืนสาวชายอย่างทารุณ หลังจากนั้นก็เดินทางต่อโดยลากสาวชายไปด้วย โดยทิ้งนายดำ&เถ้าแก่ซ่ง&ตี๋ไว้ที่เพิงนา เพื่อรอนางแตงขาว&นางทุเรียนนำเงินมาจ่ายค่าไถ่ โดยให้โจรถือปืนเล็กยาว66คนละ1กระบอกเฝ้าไว้
บ่ายคล้อยมากโจรทั้ง3ง่วงนอนจึงนอน&สั่งให้นายดำ&ตี๋&เถ้าแก่ซ่งมาบีบนวดให้จนหลับ ทั้ง3ได้โอกาสคว้าไม้&สากตำข้าวมาตีโจร2คนจนหัวแบะตายคาที่ หนีไปได้1คน จากนั้นจึงยึดปืนแล้วกลับมาที่บ้านเถ้าแก่ซ่ง
เมื่อมาถึงบ้านเถ้าแก่ซ่งก็พบกับพ.ต.ตขุนพันธ์พร้อมกำลังตร. ตี๋จึงมอบปืนทั้งหมดให้แก่พ.ต.ตขุนพันธรักษ์ราชเดช
สาวชายหายสาบสูญไปเชื่อว่าคงถูกโจรร้ายฆ่าทิ้งเป็นแน่แท้
โฆษณา