21 ธ.ค. 2019 เวลา 14:32 • ความคิดเห็น
พระราชพงศาวดาร ร.1 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์(ขำ บุนนาค)กล่าวถึงพระนามร.1ว่า
"ในกาลครั้งนั้น สมเด็จพระสังฆราช&พระคณะราชาผู้ใหญ่ประชุมพร้อมกัน ได้คิดขนานพระนามถวายจารึก ลงในพระสุพรรณบัฎว่า พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิปดี ธรณินทราธิราช รัตนากาสภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร ตรีภูวเนตรวรนารถนายก ดิลกรัตนาราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สกลจักรวาฬาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร์ ภูมินทรปรมาธิเบศร โลกเชษฐวิสุทธิ์ รัตนมงกุฏประเทศคตา มหาพุทธางกูรบรมบพิตร"
ส่วนพระราชพงศวดาร ร.2ฉบับสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ กล่าวถึงพระนามที่อาลักษณ์ จารึกลงในพระสุพรรณบัฎ ว่าเหมือนพระนามจารึกของร.1ทุกประการ ร.1&ร.2จึงทรงพระนามเดียวกัน
ร.3คนทั้งหลายเรียกร.1ว่า"แผ่นดินต้น" เรียกร.2ว่า"แผ่นดินกลาง" ร.3ทรงไม่พอพระทัยหากจะเรียกสมัยของพระองค์ว่า"แผ่นดินปลาย" ฟังแล้วไม่เป็นมงคล
พศ.2385&ต้นปีพศ.2386
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า. โปรดให้สร้างพระพุทธรูปขึ้น2องค์ เป็นพระพุทธรูปยืน6ศอก มีลักษณะเหมือนกัน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เป็นแกนใน หุ้มด้วยทองคำองค์ละ16ชั่ง 15ตำลึง ทรงพระเครื่องต้นอย่างดี ลงยาราชาวดี ประดับด้วยเนาวรัตน์
เมื่อสร้างเสร็จโปรดให้ อัญเชิญประดิษฐาน ในอุโบสถวัดพระศรีศาสดาราม หน้าพระแก้วมรกต องค์ที่อยู่ด้านเหนือ ถวายพระนามว่า"พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" ทรงพระราชอุทิศถวายแด่ร.1 ผู้เป็นพระอัยกา
ส่วนองค์ด้านใต้ถวายนามว่า"พระพุทธเลิศหล้านภาลัย" ทรงพระราชอุทิศถวายแด่ร.2 ทรงพร้อมพระราชหฤทัย กับเจ้าฟ้ามงกุฎ(พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)ขณะทรงผนวช&จำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร เลือกพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ภายใน2องค์ โปรดให้มีการสมโภช พศ.2391
ฉะนั้น"พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก&พระพุทธเลิศหล้านภาลัย"จึงเป็นนามของพระพุทธรูป ไม่ใช่นามพระมหากษัตริย์ จากนั้นทรงโปรดให้เรียกสมัยร.1ว่า"แผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" ให้เรียกสมัยร.2ว่า"แผ่นดินพระพุทธเลิศหล้านภาลัย"
สมัยร.4ทรงพระราชดำริว่า ควรมีพระนามเรียกพระมหากษัตริย์ ทั้งอดีต&ปัจจุบัน จึงโปรดให้เรียกร.1&ร.2ว่า"พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก"&"พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย" เรียกร.3ว่า"พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว" (จากนามเดิม"พระองค์เจ้าทับ"(นั่งทับอยู่บนเกล้า) เรียกพระองค์เองว่า"พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"
แต่เดิมพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา จัดปีละ2ครั้งตามแบบอยุธยา โดยเหล่าขุนนางจะมาถือน้ำกันที่วัดพระแก้ว แล้วเข้าไปถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระที่นั่ง อมรินทร์วินิจฉัย มิได้เสด็จมาร่วมพระราชพิธีที่อุโบสถด้วย แต่ร.4ได้เสด็จมาให้ถวายบังคม ในพระราชพิธี ที่อุโบสถ ทรงมีราชปรารภถึงพระพุทธรูป2องค์ว่า
แต่ก่อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน เคยเสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ให้พระบรมวงศานุวงศ์&ข้าราชการใหญ่-น้อย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานน้ำพิพัฒสัตยา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า
พระพุทธรูป2องค์ทั้ง พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก&พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นพระในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาไว้ฉลองพระเดชพระคุณ ทั้งพระอัยกา&พระบรมราชชนก ประดิษฐานเป็นพระประธาน ในอุโบสถวัดพระแก้ว เหมือนพระเชษฐบิดร ซึ่งเป็นพระฉลองพระองค์ สมเด็จพระรามาธิบดี อันเป็นปฐมราชาธิราช ในกรุงเทพทวารวดี ศรีอยุธยามหานคร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็ขึ้นเป็นปฐมราชาธิราช เช่นกัน&จนพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น เมื่อสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จมาปราบดาภิเษก นั้นก็เสด็จพระราชดำเนิน ตามเสด็จมาพร้อมกันแต่เดิมองค์เดียว ควรมีพระเกียรติยศอยู่พร้อม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกด้วยกัน เหตุที่ทรงเคารพพระปฎิมาปกรณ์ ที่ทรงพระราชอุทิศแด่ร.1&ร.2 จึงพระราชดำเนินออกมาให้ พระบรมวงศานุวงศ์&ขรก.ใหญ่-น้อยทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน ถวายบังคมรับพระราชทาน น้ำพระพิพัฒน์สัตยาพร้อมกัน
การเสด็จมาร่วมถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ในอุโบสถต่อหน้าพระแก้วมรกต พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก&พระพุทธเลิศหล้านภาลัย"จึงเป็นประเพณีสืบต่อมาจนปัจจุบัน เหตุที่มีคำว่า"พระพุทธ"ในพระนามของร.1&ร.2 ก็ด้วยประการฉะนี้
โฆษณา