24 ธ.ค. 2019 เวลา 06:33 • ความคิดเห็น
พระสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ไม่ว่าจะสถิตย์อยู่ที่ใด ก็สามารถเสด็จออกจากที่ และเพิ่มปริมาณขึ้นได้เอง อย่างน่าอัศจรรย์ กล่าวกันว่า บางครั้งก็แสดงปาฎิหารย์ ปรากฎเป็นแสงสีเขียวปนเหลืองนวลๆ เท่าผลส้มเกลี้ยง&ใหญ่เท่าลูกมะพร้าวก็มี
สมัยโยนกนคร(เชียงแสน) "ตำนานสิงหนวติกุมาร"กล่าวว่า เมื่อมหากัสสปเถระอายุได้120ปีบริบูรณ์ เห็นควรจะเข้าสู่นิพพานแล้ว
"พระมหาเถรเจ้า ก็เอาธาตุกระดูกด้ามมีด(กระดูกไหปลาร้า) ก้ำซ้ายแห่งองค์พระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง กับธาตุเจ้าทั้งหลาย3สถาน คือ มหันตามัชชิมาทุททกาทั้งปวง 500 พระองค์ ใส่ลงในพระโกศแก้วธรรมราชแล้ว มาสู่เมืองโยนกนครช้างแสน"
พระมหาเถรเจ้าได้นำพระโกศ พระมหาธาตุขึ้นสู่จอมดอยดินแดง ตำนานกล่าวต่อว่า
"มหากัสสปเถรเจ้า ก็ยกเอาพระโกศมหาธาตุ ขึ้นตั้งเหนือหินก้อนหนึ่ง อันพระพุทธเจ้านั่งเมื่อครั้งก่อนนั้น มหากัสสปเถรเจ้า อฐิษฐานให้พระมหาธาตุจมลงในหินก้อนนั้น ครั้งนั้นพระมหาธาตุเจ้าแผ่ปาฎิหารย์ ทั่วเมือง7วัน7คืน แล้วจมลงในหินราว8ศอก กาลนั้นพระมหาเถรเจ้า ก็อฐิษฐานคันธง บูชาพระมหาธาตุไว้หนขวา เมื่อกางขึ้นสูง8000วา ธงห่าง7000วา กว้าง500วา แต่นั้นมาคนจึงเรียกที่นี่ว่าดอนธง"
นี่คือตำนานของพระธาตุดอยตุง ที่อ.แม่จัน จ.เชียงราย พศ.561
พศ.660
สมัยพระมังรายนราช ได้อัญเชิญพระบรมธาตุ 150องค์ บรรจุเพิ่งที่พระธาตุดอยตุงอีก ตำนานสิงหนวติกุมารกล่าวว่า
"ในกาลนั้น พระธาตุเจ้าแสดงปาฎิหารย์ ส่องรัศมีทั่วทิศานุทิศ แคว้นโยนกนครทั้งมวล แล้วจมลงไปในก้อนหินราว7ศอก บนพระธาตุเจ้าศอกหนึ่ง"
พระมังรายนราชได้โปรดให้ก่อพระเจดีย์ สูง7ศอกครอบพระบรมธาตุไว้ แล้วทำบุญฉลองถึง3เดือน งานยุติลงในวันพุธ ขึ้น15ค่ำ เดือน4 ปีมะเส็ง พศ.660
สมัยกรุงสุโขทัย ศิลาจารึกหลักที่2(จารึกวัดศรีชุม) ได้กล่าวถึงปาฎิหารย์ของ พระบรมธาตุไว้ว่า
"พระมหาเถรศรีศรัทธา เป็นโอรสของพญาคำแหงพระราม ซึ่งเป็นอนุชาของพ่อขุนผาเมือง เจ้าศรีศรัทธาจึงเป็นหลานปู่ ของพ่อศรีนาวนำถม เป็นหลานลุงของพ่อขุนผาเมือง เมื่อมีโอรสองค์เดียวก็สิ้นพระชนม์ ตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าศรีศรัทธาจึงออกผนวชธุดงค์ผ่านอินเดีย จนถึงลังกา ผนวชอีกครั้งที่ลังกา ได้รับความนับถือจากชาวสิงหลดุจเทพเจ้า เมื่อเข้าวัยชราแล้วได้เสด็จกลับกรุงสุโขทัย ทรงนำพระบรมธาตุ&กิ่งศรีมหาโพธิ์มาด้วย ได้รับโปรดเกล้าเป็นพระสังฆราช สมัยพญาเลอไท ซึ่งพระพุทธศาสนารุ่งเรืองเพราะมหาเถรศรีศรัทธาองค์นี้"
หลักจารึกวัดศรีชุมชำรุดอยู่หลายตอน กล่าวถึงปาฎิหาริย์พระบรมธาตุ ซึ่งเกิดกับมหาเถรศรีศรัทธา ขณะสร้างพระเจดีย์ที่ลังกา ความว่า
"กูมีศรัทธาพยายาม...อิฐประกิดเข้าจทายปูนมีถ่องถ้วน เมื่อทาปูนแต่ยอดแก่กม(ที่สุด) ถึงดินใหญ่ขาวงาม ดังเขาไกรลาส ทาต่อตีนต่อมือต่อทั้งตนพระพุทธรูปหลายแห่ง ทำหอนั่งก่อแล่นเป็นตนพระพุทธรูปหินงามแก่กม กูหากใช้ตนกูกระทำการบุญ สมภารวันเดียว28การ พระมหาธาตุเจ้าจึงเสด็จแสดง ปาฎิหาริย์ระลอกฝนตกห่าใหญ่ รัศมีลางอันดังพันสะจรวจสวาย(ฝนชะมะม่วง) สูภาลูกาบุสปธารา(ธารน้ำสะอาดประหนึ่งดอกไม้)
รัศมีลางอันเลื่อมดังดวงดาวค่ำ เลื่อมดังน้ำทองไหลจรัสไปทุกแห่ง รัศมีลางอันขาวดัง...รัตนดงดอกซ่อนดอกพุดเห็นแก่ตาดาษไปทั่วทั้งจักรวาล พระเกตุธาตุเสด็จแสดงปาฎิหารย์ ...ดังสายฟ้าแลบ ดังแพวน้ำแล่นในกลางหาว อัศจรรย์ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือตะวัน ...ออกเขียวดังสุงเผาหม้อเผาไฟ พระคีวาธาตุ(กระดูกคอ) เสด็จจากเจดีย์ทอง พุ่งขึ้นไปยัง...เห็นดังตะวันสองอันเรืองใสงามหนักหนาแพ้(ชนะ) พระอาทิตย์...ดูพระคีวาธาตุ...เป็นกลองเงินอันใหญ่ รอบนั้นด้วยกว้าง
แสงจรัสโอภานล...ควรแลว่ามีฉัพพรรณรังสี เหลือง แดง ดำ เขียว ขาว ภาว(ผ่องแผ้ว) จรัสส่องในโลกธาตุ ทุกแห่งหนแต่แดดอุ่นถึง2ชั้น ฉายจักใกล้เที่ยง ชาวสิงหล5บ้าน(หมู่บ้าน) ข้ามน้ำคงคามาสาธุการ เสียงร้องโกลาหลหนักหนา เขาอาราธนาพระบมีเสด็จลงมา เขาให้กูอาราธนาพระ จึงลงมาประทักษิณรอบเจดีย์ทอง แล้วผยองเมื่อขึ้นเลา(ขึ้นไป)
กูมีศรัทธาหนักหนา กูจึงทอดตน กูโอยทานให้ชีวิตขาดว่า จะทำศาสนาในลังกาทวีป จักฟังคำพระเป็นเจ้าทุกอันแล พระเป็นเจ้าจึงลงมาก รอบวัดสุวรรณเจดีย์ รัศมีกระเลียก(แลดู) งามหนักหนาดังวงเวียนแก้ว พระคีวาธาตุ จึงเสด็จเข้าไปในโกศทอง ฝูงพระธาตุจึงเข้ามาสู่เจดีย์ ดังผึ้งเข้ามาสู่รังนั้นแล
กูจึงลุกขึ้นอัญชลี...ลองมา...มาพระศรีรัตนมหาธาตุเจ้ากู ลูกหนึ่งมีพรรณงามดังทองรัศมีเท่าลูกหมาก เสด็จมาแต่กลางหาว ลงมาฉวัดรอบตนท่านแล จึงเสด็จขึ้นอยู่เหนือหัว พระรัตนธาตุจึงเสด็จมากึ่งหน้าผาก พระศรีศรัทธาราชจุลามุนีศรีลังกาทวีป จึงยอ2มือรับเอา&ไหว้ พระเกศาธาตุ เส้นหนึ่งงามเลื่อมคว้าง มาแต่บนสพัดเหนือหัว พระศรีศรัทธาราชจุลามุนี
ญีน(รู้สึก) ศรัทธาน้ำตาถั่งตก หนักหนาบูชาทั้งตน อกเข่าซองทั้งหลาย บมีว่าถีเลย ชาวสิงหลทั้งหลายเห็นอัศจรรย์ดังอัน เขาจึงชันตนทอดไหว้ สนนทพัดเบญจางค์ นอนพกชังตีน พระศีศรัทธาราาชจุลามุนี คนทั้งหลายไหว้ ....เต็มแผ่นดิน
อุปมาดังเรียงร้อยท่อนอ้อย ไว้มากดามดาสเต็มสถานที่นั้นแล เขาจึงขึ้นบังคม ลางคนว่าเจ้าราชกุมารมหาสามี นี้หน่อพุทธางจริงแลนะ เขาจึงเอาน้ำมาล้างตีน พระมหาสามีสุมเอาน้ำกิน ขุดเอาดินที่มหาสามีศรีศรัทธาราชจุลามุนี เหยียบที่ใดย่อตีนที่นั่น ขุดเอาดินที่อันนั้น ค้นเอาไปไหว้บูชา
รุ่งนั้นพระมหาธาตุ2ลูกเรือง ...ดังดาวคอยเสด็จไปกลางหาวก่อน พระศรีศรัทธาราชจุลามุนี จึงข้ามน้ำคงคาไป...ชั่วคืนหนึ่ง พระเจ้าเสด็จเข้าไปในโกศ ....ส่งแล้วเมื่อรุ่งจึงเสด็จออกอยู่บัดแมง(สักประเดี๋ยว) ให้คนทั้งหลาย เห็นศรัทธาสาธุการแล จึงเสด็จคืน
เรืองเท่ากงจักรกลิ้งไปกลางหาว สู่....เจดีย์ทองที่เก่า รัศมีถูกซ่านต้องพรายงาม ซึ่งแสงอาทิตย์เมื่อพุ่งขึ้น พระเป็นเจ้าที่นั้นปาฎิหารย์ได้31วัน เหียมพระเป็นเจ้าปาฎิหารย์ดังอัน เพื่อจัดสำแดงแก่คนทั้งหลาย ให้ไปช่วยธรรมในลังกาทวีป เป็นมหากุศลอันใหญ่ ให้ปรากฑแก่พุทธศาส...."
โฆษณา