ชีวิตพระ
ตอนที่ ๓๐ ช้างนาฬาคิรี
พระเทวทัต ยังไม่ละความพยายาม ยังคิดต่อไปว่า
“จะทำอย่างไรดี จึงจะปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าได้ ถ้าส่งคนไป พระพุทธองค์ก็คงโปรดอีก จะซุ่มปลงพระชนม์ด้วยตัวเอง พระภิกษุทั้งวัดเวฬุวันก็ทราบหมดแล้ว คงช่วยกันระมัดระวังป้องกันภัยให้พระองค์เต็มที่
มีอีกช่องทางหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ ใช้กำลังของสัตว์เดรัจฉาน สติของสัตว์เดรัจฉานไม่เท่ามนุษย์ พระพุทธเจ้าไม่น่าจะโปรดได้”
คิดแล้ว จึงตรงไปยังโรงช้างของพระราชา บอกกับผู้ดูแลที่นั่นว่า
“อาตมา เป็นญาติกับพระราชา สามารถบอกพระราชาให้เลื่อนขึ้นตำแหน่งให้ท่านได้ เพิ่มเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนให้พวกท่านได้ ถ้าพวกท่านปล่อยช้างตัวที่มีกำลังมากที่สุดในนี้ ให้ไปปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า”
ผู้ดูแลช้างที่นั่น พอทราบเรื่องความคุ้นเคยระหว่างพระราชากับพระเทวทัตอยู่บ้าง อีกทั้งยังไม่ได้เลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เห็นแก่ยศตำแหน่งและเบี้ยเลี้ยงเงินเดือน จึงเลือกช้างที่มีกำลังมากที่สุดในนั้นให้ทำงานตามคำบอกของพระเทวทัต ช้างนั้นชื่อว่า “นาฬาคิรี”
หากใครได้อ่านตอนที่ ๒๖ จะพบว่า ผู้เขียนพูดถึงพระเทวทัตว่ามีกำลังขนาดต่อสู้เอาชนะช้างธรรมดาๆ ด้วยมือเปล่าได้ ไม่ใช่เฉพาะพระเทวทัตเท่านั้น แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็มีพละกำลังมากพอที่จะเอาชนะช้างธรรมดาๆ ด้วยมือเปล่าได้เช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น พระเทวทัตส่งช้างนาฬาคิรีไปปลงพระชนม์พระพุทธองค์ทำไม
คำตอบก็คือ ก็เพราะช้าง “นาฬาคิรี” ไม่ใช่ช้างธรรมดาๆ น่ะสิ
เรามารู้จัก เรื่องช้างกันสักนิด
ในคัมภีร์เก่าแก่ของศาสนาพราหมณ์ (คัมภีร์พราหมณ์ มีมาก่อนพุทธ) ได้บันทึกเรื่องราวของช้าง ๑๐ ตระกูลเอาไว้
๑. ช้างตระกูลฉัททันต์ มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลอุโบสถ ๑๐ เชือก ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราสมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์สร้างบารมีอยู่ ก็เคยเสวยพระชาติเป็นช้างตระกูลนี้
๒. ช้างตระกูลอุโบสถ มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลเหมหัตถี ๑๐ เชือก ถือว่าเป็นยานพาหนะของพระเจ้าจักรพรรดิ (ไม่ใช่พระเจ้าจักรพรรดิตามประเทศต่างๆ ที่เราเข้าใจในปัจจุบัน เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ไว้ค่อยกล่าวในภายหลัง)
๓. ช้างตระกูลเหมหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลมงคลหัตถี ๑๐ เชือก
๔. ช้างตระกูลมงคลหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลคันธหัตถี ๑๐ เชือก
๕. ช้างตระกูลคันธหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลคันธหัตถี ๑๐ เชือก
๖. ช้างตระกูลปิงคถหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลตัมพหัตถี ๑๐ เชือก
๗. ช้างตระกูลตัมพหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลปัณฑรนาเคนทร์ ๑๐ เชือก
๘. ช้างตระกูลปัณฑรนาเคนทร์หรือปัณฑรหัตถี มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลเคยยนาเคนทร์ ๑๐ เชือก
๙. ช้างตระกูลเคยยนาเคนทร์ หรือ คังไคย มีกำลังเท่ากับช้างตระกูลกาฬวกะ ๑๐ เชือก
๑๐. ช้างกาฬวกะหัตถี หรือ กาลาวกหัตถี มีกำลังเท่ากับชายวัยฉกรรจ์ ๑๐ คน
ช้างนาฬาคิรี เป็นช้างตระกูลไหนไม่ได้บันทึกไว้ แต่มีตำแหน่งเป็นถึงช้างทรงของพระราชา ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าช้างตระกูลที่ ๔ คือ มงคลหัตถี เพราะเหตุนี้แหละพระเทวทัตจึงใช้กำลังของช้างนาฬาคิรีไปปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าคิดก็คือ เรื่องนี้ พระเทวทัต ทำเองโดยไม่ได้ทูลขออนุญาตพระราชาอชาตศัตรูก่อน ไม่ทราบเป็นเพราะคิดว่าไม่จำเป็นยังไงพระราชาก็คงอนุญาตอยู่แล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะพระราชาเริ่มไม่ค่อย OK กับพระเทวทัตแล้ว (เพราะต้องทุกข์ใจกับเรื่องที่ปลงพระชนม์พระบิดาด้วยคำยุยงของพระเทวทัต) ก็มิอาจทราบได้
แต่จะเป็นเหตุใดก็ตาม ผลที่ตามมาจากเรื่องนี้ ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างพระเทวทัต กับ พระราชาอชาตศัตรู ขาดผึง ทันที
ตอนต่อไป เราจะมาดูกันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทรงจัดการกับช้างนาฬาคิรีอย่างไร .... จบตอนที่ ๓๐
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
