29 ธ.ค. 2019 เวลา 08:51 • ประวัติศาสตร์
“สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I of England) พระประมุของค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ทิวดอร์ ตอนที่ 5
ชัยชนะของอังกฤษและความวุ่นวาย
สิงหาคม ค.ศ.1588 (พ.ศ.2131) กองเรือรบกองใหญ่ของสเปนได้มุ่งมายังอังกฤษ
กองเรืออาร์มาดา (Armada) ประกอบด้วยเรือกว่า 130 ลำ และมีอาวุธครบทุกลำ และเรือทุกลำก็มีเป้าหมายคือการบุกยึดอังกฤษ
แต่พระราชินีเอลิซาเบธก็ทรงเป็นพระประมุขที่เข้มแข็งและกล้าหาญ และพระองค์ก็ไม่ทรงยอมที่จะสละบัลลังก์ให้พระเจ้าฟิลิปที่ 2
ในเวลานั้น ทหารอังกฤษต่างประจำการอยู่ตามแนวชายฝั่งเพื่อรอรบกับพวกสเปน และพระราชินีเอลิซาเบธก็กำลังเสด็จมาหาเหล่าทหาร
ที่ปรึกษาของพระองค์ต่างไม่เห็นด้วยและทูลพระองค์ไม่ให้เสด็จไปยังพื้นที่การรบ เนื่องจากเกรงว่าพระองค์จะทรงได้รับอันตราย แต่พระราชินีเอลิซาเบธก็ไม่ทรงรับฟัง
พระราชินีเอลิซาเบธทรงม้าจากลอนดอน มาถึงจุดที่ทหารประจำการและตั้งค่าย
พระองค์ทรงต้องการจะไปอยู่เคียงข้างทหาร โดยพระองค์ทรงคิดว่าคำพูดของพระราชินีย่อมทำให้ทหารฮึกเหิมและมีกำลังใจ
พระองค์ทรงม้าผ่านทหารหลายนาย เข้าไปยังใจกลางเหล่าทหาร พระองค์ทรงอยากให้ทหารทุกนายได้ยินสิ่งที่พระองค์กำลังจะรับสั่ง
1
พระราชินีเอลิซาเบธได้มีพระราชกระแสรับสั่งกับทหาร โดยพระองค์รับสั่งว่าพระองค์เสด็จมาที่นี่เพื่ออยู่เคียงข้างและตายกับเหล่าทหาร
พระราชกระแสรับสั่งของพระองค์ได้จบท้ายว่า
1
“ข้ารู้ว่าข้านั้นมีร่างกายเป็นสตรีที่อ่อนแอ แต่ข้ามีหัวใจแห่งกษัตริย์ และเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ เราจะต้องได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่”
1
เมื่อทหารได้ฟังพระราชินีเอลิซาเบธ ต่างก็รู้สึกฮึกเหิมและตั้งใจรบเต็มที่
1
การรบทางทะเลนั้นกินเวลาเป็นสัปดาห์ แต่โชคนั้นเข้าข้างอังกฤษ
อังกฤษสามารถเผาเรือของสเปนได้ จากนั้นพายุก็ได้เข้ามาทางช่องแคบอังกฤษ ทำให้เรือของสเปนหลายลำชนกับหินและถูกทำลาย ทหารสเปนก็เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
กองเรือสเปนถูกทำลาย
พายุที่เข้ามาเป็นเหมือนกับความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระราชินีเอลิซาเบธได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพระองค์ทรงนำทัพได้ดีไม่ต่างจากกษัตริย์ และกองทัพเรืออังกฤษก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเข้มแข็งเพียงใด
ภายหลังสงคราม พระราชินีเอลิซาเบธก็ทรงเป็นพระราชินีที่เป็นที่รักของประชาชน ศิลปินได้วาดภาพพระองค์ ซึ่งพระองค์นั้นก็เป็นพระประมุขที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ
ในพระบรมสาทิสลักษณ์แต่ละภาพนั้น พระองค์จะแต่งองค์อย่างหรูหราอลังการ เครื่องประดับราคาแพงเต็มพระวรกาย เรียกว่าพระองค์เป็นพระราชินีที่ทรงโปรดแฟชั่นมากทีเดียว
นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงโปรดดนตรี การเต้นรำ และละครเวทีมาก มีการแสดงหน้าพระพักตร์พระองค์หลายต่อหลายครั้ง
1
ในเวลานั้น นักเขียนบทละครและกวีต่างก็รุ่งเรือง และที่โด่งดังที่สุดก็คือ “วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ (William Shakespeare)”
1
วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ (William Shakespeare)
ค.ศ.1600 (พ.ศ.2143) พระราชินีเอลิซาเบธมีพระชนมายุเกือบ 70 พรรษาแล้ว พระองค์ยังทรงโปรดการเดินเล่นและการขี่ม้า
ในงานเต้นรำนั้น พระองค์ยังคงเต้นรำอยู่เช่นเดิม เนื่องจากพระองค์ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าพระองค์ยังคงมีพระพลานามัยแข็งแรงและสดชื่น
พระราชินีเอลิซาเบธครองราชย์มานานเกิน 40 ปีแล้ว แต่ปีท้ายๆ ของพระองค์นั้นเป็นปีที่หนักหนาเอาการ
การเพาะปลูกในอังกฤษนั้นประสบปัญหามาเป็นเวลานาน ภาวะข้าวยากหมากแพงก็ทำให้ผู้คนล้มตายและเดือดร้อน
1
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชนบทต่างเข้ามาในลอนดอน ทำให้ราชสำนักหวั่นเกรงว่าจะเกิดการกบฎ
ด้วยภาวะเช่นนี้ ทำให้คำถามที่ว่าใครจะเป็นผู้ปกครองอังกฤษต่อจากพระราชินีเอลิซาเบธเป็นคำถามที่เร่งด่วนยิ่งกว่าเดิม
แต่ถึงแม้พระองค์จะมีพระชนมายุมากแล้ว แต่พระราชินีเอลิซาเบธก็ไม่ได้ทรงเลือกใครเป็นรัชทายาท พระองค์ไม่ทรงต้องการจะคิดเรื่องการสวรรคต และพระองค์ก็ไม่อยากจะคิดว่าจะมีใครมาปกครองประเทศแทนพระองค์
แต่สิ่งที่ทำให้พระองค์ทรงสะเทือนพระทัยที่สุด นั่นคือการที่คนที่พระองค์ทรงรักได้คิดหักหลังพระองค์
คนผู้นั้นจะเป็นใคร และเกิดอะไรบ้าง ติดตามได้ในตอนหน้า เป็นตอนจบของซีรีย์ชุดนี้แล้ว ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา