12 ม.ค. 2020 เวลา 04:33 • ประวัติศาสตร์
“โศกนาฏกรรมเรือเหาะฮินเดนเบิร์ก (Hindenburg Disaster) โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ทางอากาศรายแรกๆ ในประวัติศาสตร์การบิน” ตอนที่ 6
จุดเริ่มต้นของหายนะ
บนเรือเหาะฮินเดนเบิร์กนั้นมีห้องโดยสารเล็กๆ กว่า 25 ห้อง ห้องหนึ่งห้องนั้นจะมีเตียงสองชั้น นอนห้องละสองคน รวมทั้งมีห้องอาบน้ำ
บนโถงกลางนั้นเป็นห้องโถงที่หรูหรา ทางเดินยาวสำหรับให้ผู้โดยสารเดินเล่นนั้นอยู่ทั้งสองด้านของเรือเหาะ โดยที่ทางเดินยาวนั้นมีเก้าอี้และหน้าต่างให้ผู้โดยสารมองเห็นวิวข้างนอก
สำหรับห้องนั่งเล่นนั้นมีทั้งบาร์เครื่องดื่มและเปียโน ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นห้องสำหรับอ่านหนังสือหรือทำงาน
ภายในเรือเหาะฮินเดนเบิร์ก
ห้องอาหารนั้นประดับด้วยดอกไม้ และตกแต่งอย่างหรูหรา อาหารเองก็ล้วนแต่อลังการ
ห้องครัวนั้นล้วนแต่ต้องเตรียมเสบียงไว้จำนวนมาก มีการเตรียมเนื้อสดขึ้นมาบนเรือเหาะฮินเดนเบิร์กจำนวน 200 กิโลกรัม เนยจำนวน 100 กิโลกรัม และไข่จำนวน 800 ฟอง
1
นอกจากนั้นยังมีการสร้างห้องสำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะ เนื่องจากการเกิดประกายไฟแม้เพียงนิดเดียวนั้นมีความเสี่ยงมาก จึงต้องมีการสร้างห้องสูบบุหรี่ต่างหาก ซึ่งห้องสูบบุหรี่นี้ก็มีระบบรักษาความปลอดภัย แยกต่างหากจากส่วนอื่นๆ
ห้องสูบบุหรี่
ของทุกอย่างบนเรือเหาะฮินเดนเบิร์กนั้นต้องมีน้ำหนักเบาที่สุด เก้าอี้นั้นทำมาจากกระบอกอลูมิเนียม กำแพงห้องนอนก็ทำมาจากโฟมหุ้มด้วยผ้า
เรือเหาะฮินเดนเบิร์กนั้นบินอย่างเบาและเงียบเชียบ ผู้โดยสารแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำขณะเรือเหาะบินขึ้น
สำหรับเที่ยวบินแรกของฮินเดนเบิร์กนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่เรือเหาะฮินเดนเบิร์กบินผ่านนิวยอร์ก ฝูงชนต่างเชียร์ ปรบมือกึกก้อง และกัปตันก็บังคับเรือเหาะให้บินต่ำลง ผ่านตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building)
1
ในปีแรก เรือเหาะฮินเดนเบิร์กเดินทางไปกลับระหว่างเยอรมนีและสหรัฐอเมริกากว่า 20 เที่ยว และก็ได้ปิดฤดูกาลด้วย “ไฟลท์เศรษฐี (Millionaires’ Flight)”
ไฟลท์เศรษฐีนี้เป็นไฟลท์ที่เชิญมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในสหรัฐอเมริกากว่า 72 คน ขึ้นมาเดินทางกับเรือเหาะฮินเดนเบิร์ก
ฤดูกาลแรกของเรือเหาะฮินเดนเบิร์กนั้นประสบความสำเร็จอย่างดี เต็มเกือบทุกเที่ยวบิน ปัญหาหนักก็ไม่มี
เมื่อประสบความสำเร็จอย่างนี้ บริษัทเซปเปลินจึงวางแผนสร้างเรือเหาะลำใหม่ และวางแผนจะบินไปทั่วโลก อีกทั้งยังคิดถึงขนาดที่จะสร้างเรือเหาะอีกกว่า 40 ลำภายในปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
3 พฤษภาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) เรือเหาะฮินเดนเบิร์กได้ออกเดินทางเป็นเที่ยวแรกของฤดูกาลที่สอง โดยในเที่ยวบินนี้มีเจ้าหน้าที่ของนาซีเดินทางไปด้วย แต่ผู้โดยสารส่วนมากก็เป็นนักธุรกิจ นักข่าว รวมทั้งสามีภรรยาวัยเกษียณ
พนักงานบนเครื่องมีการตรวจเช็คความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการชั่งน้ำหนักสัมภาระของผู้โดยสารไม่ให้มีน้ำหนักมากเกินไป และไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ หรืออะไรก็ตามที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟได้นั้นถูกยึดหมด
แม้แต่รถถังเด็กเล่นของผู้โดยสารที่เป็นเด็กก็ยังถูกยึด เนื่องจากล้อของรถถังทำให้มีประกายไฟ
1
เที่ยวบินนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นนัก อากาศค่อนข้างขุ่นมัว เมฆครึ้ม มองไม่เห็นทิวทัศน์
อีกสามวันต่อมา 6 พฤษภาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) เรือเหาะฮินเดนเบิร์กได้มาถึงสหรัฐอเมริกา
ขณะนี้เรือเหาะช้ากว่ากำหนดหลายชั่วโมง และตามกำหนดการ จะต้องบินกลับไปยุโรปในคืนนี้
กัปตันนั้นเริ่มจะหงุดหงิดกับความล่าช้า แต่ภาคพื้นดินก็ได้แจ้งว่าสภาพอากาศในนิวเจอร์ซีย์นั้นไม่เหมาะกับการนำเครื่องลง กัปตันจึงบังคับให้เรือเหาะบินลงต่ำ พาผู้โดยสารชมทิวทัศน์ของแมนฮัตตันเป็นการฆ่าเวลา
เมื่อถึงเวลาที่จะนำเครื่องลง กัปตันนั้นรีบร้อนและหันหัวเรือเหาะกว้างเกินไป และท้ายของเรือเหาะก็อยู่ต่ำเกินไป
กัปตันจึงปล่อยน้ำออกจากตัวเรือเหาะเพื่อให้เรือเหาะเบาขึ้น แต่ก็ยังคงหนักอยู่ดี กัปตันจึงสั่งปล่อยน้ำอีกครั้ง
เรือเหาะฮินเดนเบิร์กค่อยๆ ลอยลงช้าๆ โดยมีการปล่อยเชือกลงมาเพื่อให้คนบนภาคพื้นดินคอยจับและประคองเรือเหาะ
เหล่าผู้โดยสารต่างโบกมือให้กับเพื่อนๆ ที่มารอรับบนพื้นดิน
ดูเหมือนว่าฮินเดนเบิร์กจะลงจอดอย่างปลอดภัยและราบรื่นอีกแล้ว
แต่ในเวลา 19:25 น. ก็ได้เกิดเสียงประหลาดขึ้น
ได้เกิดเหตุอะไรบางอย่างที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล
ตอนต่อไป เป็นตอนจบของซีรีย์ชุดนี้แล้วนะครับ จะเป็นอย่างไรต่อ ฝากติดตามตอนต่อไปนะครับ
โฆษณา