Crash at my place คำว่า crash ก็ให้ความหมายกำกวมครับ มันใช้สองแง่สองง่ามได้ เพราะเพลงนี้มีคำว่า crash มีคำว่า my place มีคำว่า ride me like a cruise มันก็พอจะมองไปในทางสองแง่สองง่ามได้เลยครับ แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ ถ้า ride me like a horse (ม้า) นี่ใช่แน่นอน แต่นี่เป็น cruise (ล่องเรือ) ก็เลยทำให้ดีกรีความเป็นสองแง่สองง่ามไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น ดังนั้น crash จะแปลว่าตบะแตกก็ได้ครับ crash (ชน), wreck (พินาศ), losing your grip (เสียการยึดเกาะ), trip (สะดุด), tilt (เอียง) คำเหล่านี้จะให้ความหมายไปในทางเดียวกันตลอดทั้งเพลงครับ ความหมายรวมๆก็คือตบะแตก ฟิวส์ขาด เสียศูนย์ ประมาณนี้นั่นเอง แต่ที่แปลไปข้างบนผมใช้คำว่าแพ้ไป ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่ให้มันลงสระไอเท่านั้นเอง :D losing grip ก็เลยแปลเป็นเหลืออด screaming at my face ตะโกนใส่หน้า แสดงถึงความแรงครับ ผมเอามาใส่ในคำแปลไม่ได้เพราะคำมันเกินจังหวะโคลงกลอน (แน่ใจเหรอว่าที่แปลข้างบนนั้นคือโคลงกลอน) แซวตัวเองเข้าไปนั่น การตะโกนใส่หน้ากันแสดงถึงการฟิวส์ขาดอย่างสูงครับ เอาคำว่า trip มาใช้ทำให้นึกถึงคัทเอาท์เบรกเกอร์ที่เวลาไฟช๊อตแล้วสวิชท์ของตัวเบรกเกอร์มันจะตัดลงมา นั่นเค้าก็ใช้คำว่าเบรกเกอร์มัน trip ครับ ในที่นี้เหมือนว่าเธอตบะแตกแรงขนาดนั้นนั่นเอง
Someone took a big L ตรงนี้ซ่อนความเกรงใจเอาไว้ครับ แทนที่จะพูดตรงๆว่า "ก็เธอถูกมองว่าขี้แพ้" ซึ่งถ้าแฟนกันพูดคำนี้ให้ฟังคงเสียความรู้สึกเสียใจมากๆถึงแม้จะเป็นคนอื่นมองมาพูดเข้ามาก็เถอะ เค้าเลยใช้คำว่า someone แทน "ใครก็ไม่รู้" ถูกมองว่า "ขี้แพ้" จะพูดคำว่าขี้แพ้ก็เกรงใจขึ้นมาอีก ซึ่ง L ก็น่าจะมาจากคำว่า Loser นั่นแหล่ะครับ ก็เลยเปลี่ยนเป็นพูดว่า Big L แทน ความหมายก็เดียวกันนั่นแหล่ะ เพียงแต่ไม่ได้พูดตัวจริงของมันออกไปเท่านั้นเอง ก็เพื่อถนอมน้ำใจแฟนนั่นเองครับ
Looking at you sideway มองเธอทางด้านข้าง ภาษาไทยคือ "ชำเลือง" ครับ ถ้ามองนางตรงๆมีโดนกินหัวอย่างแน่นอน ปลอดภัยไว้ก่อนคือต้องแค่ชำเลืองก็พอ แล้วถึงได้รู้ว่าเพื่อนเสียศูนย์ไปแล้ว (tilt) นางเสียศูนย์ไปแล้ว party ก็คือเพื่อน party ก็คือนาง ตรงนี้ใครเล่นเกมออนไลน์คงจะรู้นะครับว่า party คืออะไร ถ้าเอาไปถามกูเกิ้ล พ่อพ่นคำนามออกมามากกว่าสิบคำนะเออ
ก็คนมันโกรธมันตบะแตกนี่ครับ เป็นธรรมดาเลย ปฏิเสธไม่ได้แน่นอนว่าอยากหาที่ลง (can't refuse) ก็เป็นแฟนกันนี่เธอรับหน่อยไม่ได้เหรอ? แหมรู้นะอยากมาลงกับชั้นใช่มั้ย (wanna ride me) ให้เพลินไปเลยสินะ (like a cruise) คือลักษณะของการล่องเรือมันลื่นไหลครับ มันแสดงถึงความง่ายความเพลินนั่นเอง แหมๆจะมาลงก็รู้หรอกนะ แต่โดนมาบ่อยแล้วนะ (ก็เธอมันร้าย) ก็ใช่ว่าจะยอมกันได้บ่อยๆ ชั้นไม่แพ้หรอกนะ (I'm not tryna lose) tryna ก็คือ try to นั่นแหล่ะครับ
คราวนี้ก็ถึงท่อนสร้อยซะที left in the dust หมายถึงทิ้งไป หนีไป แล้วที่อยู่ตรงนั้นมันเลยเหลือแต่ฝุ่นครับ หายจ้อย :D ดูเค้าใช้คำสิ จากไปจนเหลือแต่ฝุ่น ก็เธอนะมันร้ายก็เลยไม่มีใครเอา ไม่มีใครต้องการ ความหมายประมาณนั้นครับ ไม่มีใครอยากอยู่กับเธอหรอก เว้นแต่ชั้นคนนี้นี่แหล่ะที่ยังติดอยู่กับเธอน่ะ (stuck) เห็นความดีของชั้นบ้างมั้ยเนี่ย! บ่นเธอแล้วก็เปรียบเทียบครับ เธอมันก็เหมือนเป็นดอกทานตะวัน ดอกทานตะวันก็ต้องอาศัยตะวันถึงจะหันไปตามตะวันได้ ความหมายก็คือเธอก็มีชั้นเป็นตะวันให้งัย ต้องมีชั้นคอยรองรับตลอด ต้องให้ชั้นนำพาเวลาควบคุมตัวเองไม่ได้ ความรักของเธอมันเป็นยังไงกันนะ มันจะธรรมดาๆกับเค้าบ้างได้มั้ย? ความรักแบบนี้ของเธอมันจะเยอะไปมั้ย? นั่นคือความหมายใน perception ของ I think your love would be too much ครับ นึกถึงความดีของชั้นบ้างรึเปล่า? เคยขอบคุณชั้นบ้างรึเปล่า?
โดนบ่อยๆก็ไม่อยากจะอยู่นะครับ บอกแล้วว่าชั้นเองก็พินาศเหมือนกัน ทีนี้ชั้นจะไปแล้วนะ แต่ทุกครั้งที่ชั้นจะไปทำไมเธอต้องทำให้มันยากด้วย! (you don't make it easy เธอไม่ทำให้มันง่ายเลย) ไอ้ชั้นก็อยากจะเป็นคนดีของเธออยากจะทำเพื่อเธอน่ะนะ อยากจะไปอยู่ตรงนั้นกับเธอในทุกครั้งที่เธอต้องการเลย แต่บอกชั้นหน่อยเถอะ ขอเหตุผลดีๆซักข้อได้มั้ย ให้ชั้นอยากไปอยากทำสิ่งนั้นให้เธอซักหน่อย (give me a reason to go) เริ่มมองเห็นความเศร้าบ้างรึยังครับ ทุกๆครั้งที่ชั้นเริ่มเดินจากไปก็เหมือนจะได้ยินเสียงของเธอร้องเรียกให้หันกลับมา (I can hear you telling me to turn around) ยื้อชั้นไว้ (fighting for my trust) ตรงนี้แสดงความเป็นสุดตัวเพราะจะใช้คำว่า fighting for me staying ก็ได้ my stay ก็ได้ แต่แค่ stay มันยังไม่พอครับ มันยังไม่สุดตัว trust ความเชื่อใจนั้นแสดงถึงระดับของจิตใจที่ลึกยิ่งขึ้นไปอีก และความเป็นสุดตัวอีกอย่างคือ won't back down จะไม่ถอยลง (แปลตรงตัวก็จะดูแปลกๆแบบนี้แหล่ะ) จะไม่ถอยกลับ ดังนั้นชั้นก็เลยต้องทนฝืนสู้กับความรู้สึกอยากไปของตัวเอง แต่ก็รู้ว่าหากกลับไปก็ต้องเป็นเหมือนอย่างเดิมอีก แต่ก็ยังใจดีนะครับ หรือว่าจะลองเสี่ยงอีกครั้งด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี (risk it all) เพราะชั้นรู้ดีว่าเธอน่ะกลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียว (scare) เพราะคนเดียวลำพังมันเหงา มันโดดเดี่ยว (alone) ซึ่งเธอเองยังไม่เข้าใจสิ่งนี้ (unknown) เธอเลยกลัวสิ่งที่เธอยังไม่รู้ แต่ชั้นน่ะแฟนเธอนะ ชั้นน่ะรู้ดี
ชั้นยอมรับนะ (I know) ว่าชั้นเองก็ไม่ได้อยู่กับเธอตลอด (always come and go) เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ก็อยากอยู่ด้วยตลอดเหมือนกันหรอกนะแต่ช่วยไม่ได้อ่ะมันเกินควบคุม (out of my control) (ก็เธอมันร้าย)
แต่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยอยู่นะครับ หากขืนเป็นแบบนี้ต่อไป วันใดชั้นทนไม่ไหวจริงๆขึ้นมา เธอก็คงต้องถูกทิ้งแน่เลย (And you'll be left in the dust) เว้นแต่จะมีชั้นติดอยู่กับเธอด้วย... เฮ้อ... ก็เพราะเธอน่ะเป็นดอกทานตะวันนี่นา ก็เธอน่ะ เป็นแม่ดอกทานตะวันของชั้น