ในที่สุดอัลบัมที่สามของสาว Meghan Trainor ก็ได้ปล่อยออกมาให้ฟังกันสักที 🎉 กับอัลบัมที่มีชื่อว่า ‘TREAT MYSELF’ ตอนแรกอัลบัมนี้มีกำหนดปล่อยตั้งเเต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วนู่น แต่ด้วยการโปรโมทที่มากมายกลับสวนทางกับกระแสที่น้อยนิด แถมยังมีกระแสตีกลับอีกด้วย ซิงเกิลเปิดอัลบัม (เดิม) อย่าง No Excuses ก็ไต่ชาร์ตสูงสุดเพียงอัลบัม 46 ใน Billboard Hot 100 (ในขณะที่ซิงเกิลเปิดตัวอัลบัมแรกอย่าง All About That Bass สามารถพิชิตอันดับ 1 ได้ และในอัลบัมที่สอง เพลง No ที่เป็นซิงเกิลแรกก็ยังพาตัวเองไปถึงอันดับ 3 ได้) ยิ่งไปกว่านั้น ซิงเกิลที่สองที่ชื่อ ‘Let You Be Right’ ยังไม่สามารถเข้าชาร์ตได้ด้วยซ้ำ ทำให้ทางค่ายและตัวนางตัดสินใจพับแผนอัลบัมไว้ก่อน
หลังจากที่ได้ไปเฝ้าคิด พิจารณา ไตร่ตรองว่าที่ผ่านมานั้นมีจุดบกพร่องอะไร รวมถึงปรับเปลี่ยนแนวทางของอัลบัมใหม่ ในที่สุดอัลบัมนี้ก็ได้วางขายสักที (พร้อมหน้าปกอัลบัมที่ดูดีขึ้น ปกเก่าเหมือนหางเครื่องเพลงหมอลำ) โดยหลายๆ เพลงที่นางปล่อยมาก่อนหน้านี้ เช่น After You หรือ Genetics ได้มีการเอานักร้องอื่นมาช่วยร้องด้วย ช่วยสร้างสีสันให้อัลบัมมากขึ้น ส่วนหลายๆ ซิงเกิลไม่ว่าจะเป็น Treat Myself หรือ All The Ways ทั้งคู่ถูกเอาไปไว้ในส่วนของ Target Version แทน (แอบเสียดาย) เอาเป็นว่า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปฟังอัลบัมนี้กันเลย ~
เพลงแรกในอัลบัม ‘Wave’ ที่ได้ Mike Sabath มาร่วมร้องด้วย เพลงนี้เป็น lead single ของอัลบัมที่เอามาปรับปรุงใหม่ชุดนี้ เป็นเพลงช้าที่ดีสำหรับใช้เปิดอัลบัม ด้วยการร้องของทั้งสองคนบวกกับโปรดักชั่นก็คือทำออกมาได้ไม่เลวเลย ที่สำคัญเพลงนี้ทำให้เมแกนดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เห็นว่านางไม่ได้ร้องเป็นแต่ bubblegum pop อย่างเดียวนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
เพลงที่ 14 ‘No Excuses’ อดีต lead single เดิมของอัลบัมที่โยนทิ้งไปแล้ว เพลงนี้เอาจริงมันก็ไม่เหมาะเป็นเพลงเปิดอัลบัมตั้งเเต่แรกนั่นแหละ ด้วยความที่ได้เนื้อเพลงแนวๆ เพลง No รวมถึงบีทที่แนวๆ เดียวกับ All About That Bass การปล่อยซิงเกิลนี้ออกมา มองจากดาวอังคารก็ดูออกว่าต้องการเอาแนวเพลงเดิมที่เคยดังมาใช้ใหม่ และผลลัพธ์ก็คือแป้กหนัก เพลงนี้โปรดักชั่นไม่ได้ดีด้วยซ้ำอ่ะ ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่กับการที่อัลบัมจะแป้ก เพราะซิงเกิลแรกของอัลบัมก็คือไม่ได้ดีอะไรเลย ตอนฟังครั้งแรกแอบผิดหวัง ดีที่นางและค่ายกลับใจกันใหม่