7 ก.พ. 2020 เวลา 14:23 • บันเทิง
𝗿𝗲𝘃𝗶𝗲𝘄 𝗯𝘆 𝗰𝗮𝗸𝗲. 𝗘𝗣.𝟭𝟮
released date: 31 Jan 2020
𝗧𝗿𝗲𝗮𝘁 𝗠𝘆𝘀𝗲𝗹𝗳 (album) - 𝗠𝗲𝗴𝗵𝗮𝗻 𝗧𝗿𝗮𝗶𝗻𝗼𝗿
ในที่สุดอัลบัมที่สามของสาว Meghan Trainor ก็ได้ปล่อยออกมาให้ฟังกันสักที 🎉 กับอัลบัมที่มีชื่อว่า ‘TREAT MYSELF’ ตอนแรกอัลบัมนี้มีกำหนดปล่อยตั้งเเต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วนู่น แต่ด้วยการโปรโมทที่มากมายกลับสวนทางกับกระแสที่น้อยนิด แถมยังมีกระแสตีกลับอีกด้วย ซิงเกิลเปิดอัลบัม (เดิม) อย่าง No Excuses ก็ไต่ชาร์ตสูงสุดเพียงอัลบัม 46 ใน Billboard Hot 100 (ในขณะที่ซิงเกิลเปิดตัวอัลบัมแรกอย่าง All About That Bass สามารถพิชิตอันดับ 1 ได้ และในอัลบัมที่สอง เพลง No ที่เป็นซิงเกิลแรกก็ยังพาตัวเองไปถึงอันดับ 3 ได้) ยิ่งไปกว่านั้น ซิงเกิลที่สองที่ชื่อ ‘Let You Be Right’ ยังไม่สามารถเข้าชาร์ตได้ด้วยซ้ำ ทำให้ทางค่ายและตัวนางตัดสินใจพับแผนอัลบัมไว้ก่อน
หลังจากที่ได้ไปเฝ้าคิด พิจารณา ไตร่ตรองว่าที่ผ่านมานั้นมีจุดบกพร่องอะไร รวมถึงปรับเปลี่ยนแนวทางของอัลบัมใหม่ ในที่สุดอัลบัมนี้ก็ได้วางขายสักที (พร้อมหน้าปกอัลบัมที่ดูดีขึ้น ปกเก่าเหมือนหางเครื่องเพลงหมอลำ) โดยหลายๆ เพลงที่นางปล่อยมาก่อนหน้านี้ เช่น After You หรือ Genetics ได้มีการเอานักร้องอื่นมาช่วยร้องด้วย ช่วยสร้างสีสันให้อัลบัมมากขึ้น ส่วนหลายๆ ซิงเกิลไม่ว่าจะเป็น Treat Myself หรือ All The Ways ทั้งคู่ถูกเอาไปไว้ในส่วนของ Target Version แทน (แอบเสียดาย) เอาเป็นว่า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปฟังอัลบัมนี้กันเลย ~
เพลงแรกในอัลบัม ‘Wave’ ที่ได้ Mike Sabath มาร่วมร้องด้วย เพลงนี้เป็น lead single ของอัลบัมที่เอามาปรับปรุงใหม่ชุดนี้ เป็นเพลงช้าที่ดีสำหรับใช้เปิดอัลบัม ด้วยการร้องของทั้งสองคนบวกกับโปรดักชั่นก็คือทำออกมาได้ไม่เลวเลย ที่สำคัญเพลงนี้ทำให้เมแกนดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เห็นว่านางไม่ได้ร้องเป็นแต่ bubblegum pop อย่างเดียวนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
เพลงต่อมา ‘Nice To Meet Ya’ เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่สองของอัลบัมนี้ ได้สุดยอดแร็ปเปอร์สาว Nicki Minaj มาร่วมแจม ดูออกเลยว่าค่ายดันอัลบัมนี้เต็มที่มาก โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ลงทุนจ้างนิกกี้มาแร็ป แถมท่อนแร็ปไม่ใช่ไก่กา ได้ air time นานซะอีก แม่ไม่ได้มาเล่นๆ! ซึ่งเพลงนี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นท่อนฮุค - - รู้สึกว่ามันไม่ค่อย flow อ่ะ แต่ท่อนอื่นคือชอบมากเลยนะ รวมๆ แล้วเพลงฟังได้ (/สปอย เพลงนี้ติดหูกว่าหลายๆ เพลงในอัลบัม)
ป.ล. ชอบ MV Nice To Meet Ya มากกกกก แบบใช้งบน้อยแต่ดูดีมีสีสัน เมแกรดูหน้าเปลี่ยนไปมากกกก ส่วนนิกกี้คือผอมมาก 😂 รอแม่ comeback อยู่
เพลงที่ 3 ‘Funk’ เพลงนี้ดูเป็น typical ของเมแกนมากๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็น bubblegum pop แนวๆ เดียวกับที่นางถนัด ซึ่งเอาจริงๆ มันเป็นแนวที่มาเร็วไปเร็วนะ เพลงแนวนี้มันพีคสุดช่วง All About That Bass ที่นางดังนู่น ตอนนี้เพลงแนวนี้มันไม่ฮิตแล้ว (ซึ่งกระแสความดังของนางก็ลดลงเช่นกัน เส้า ;-;) นางทำท่าจะตัดเพลงนี้เป็นซิงเกิลที่สามด้วย ซึ่งดูทรงแล้วไม่น่าเวิร์ค บอกนางว่าไปพักก่อน
เพลงที่ 4 ‘Babygirl’ เพลงนี้เป็นเพลงช้า ที่มีความหมายค่อนข้างดี เป็นการพูดเกี่ยวกับการรักตัวเอง บอกให้รักตัวเองมากๆ ออกแนวเศร้าๆ นิดๆ ส่วนตัวเพลงก็คือชวนให้อินตามได้อยู่
เพลงที่ 5 ‘Workin’ On It’ เพลงนี้เป็น promotional single ของอัลบัม ได้ Lennon Stella และ Sasha Sloan มาร่วมร้อง เพลงรี้เราชอบที่สุดในอัลบัมเลยยยย ตัวเพลงทำได้ดีทั้งเสียงร้อง ทั้งสามคนเสียงสมูทมากกก แบบ blend กันสุดๆ ทำนองก็ทำได้ดีเข้ากับเสียงร้อง และเนื้อเพลงที่พูดเกี่ยวกับการเชื่อใจคน ซึ่งทำออกมาได้ดีเลย เลิฟ เพลงนี้ควรดังกว่านี้!
เพลงที่ 6 ‘Ashes’ เพลงนี้แนวยังคล้ายๆ สองเพลงที่ผ่านมา ซึ่งเลยทำให้คิดว่าไม่ค่อยมีความพิเศษมากนัก ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้พิเศษ (แต่จัดว่าดีถ้าเทียบกับ bubblegum pop ของนาง)
เพลงที่ 7 ‘Lie To Me’ เพลงนี้เหมือนเพลงประกอบหนังการ์ตูนอ่ะ 😂 หรือเป็นเพราะปกติเมแกนร้องเพลงประกอบการ์ตูนเยอะก็ไม่รู้นะ เพลงนี้ mixed feelings มาก บางท่อนชอบ บางท่อนไม่ชอบ โดยท่อนที่ไม่ชอบนี่เพราะมันให้ความรู้สึกเด็กอ่ะ เด็กน้อยไปนิด
เพลงที่ 8 ‘Here To Stay’ เพลงนี้ให้ฟีลอัลบัมก่อนของนางมาก เป็นเพลงฟังสบายๆ ไม่หวือหวา ให้ฟีลฟังเพลินๆ จิบกาแฟ นั่งชิวๆ ทำนองเหมือนเพลงในร้านกาแฟ ไม่พีคแต่ก็ไม่น่าเบื่อ
เพลงที่ 9 ‘Blink’ เพลงนี้กลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากดูเนือยๆ เศร้าๆ มาหลายเพลง ตัวเพลงเป็น typical bubblegum pop สไตล์ถนัดของเมแกนอีกแล้ว แต่เพลงนี้ทำได้ดีกว่า Funk นะ บีทติดหูกว่า แต่เราก็ยังชอบเพลงแนวช้าๆ ของนางมากกว่าอยู่ดี
เพลงที่ 10 ‘Genetics’ เพลงนี้เคยปล่อยเวอร์ชั้นร้องคนเดียวออกมาแล้ว ซึ่งคิดว่าตอนนั้นน่าจะลองเชิงดูตลาดว่ากระเเสจะเป็นไง ซึ่งผลออกมาคือแป้กสนิท ทางค่ายเลยตัดสินใจเรียกกระแสโดยการเอา The Pussycat Dolls วงเกิร์ลกรุ๊ปในตำนานที่เพิ่งกลับมารวมวงอีกครั้งมาร่วมร้องด้วย โดยเสียงของนิโคล (นักร้องนำของวง PCD) ก็คือเสียงเข้ากับเมแกนดีนะ แต่บางท่อนรู้สึกว่าเสียงมันกลืนๆ กันไปจนแยกความแตกต่างไม่ออก เทียบกับต้นฉบับที่ร้องเดียวแล้วคือไม่ค่อยต่าง แต่ถ้าดูกันในแง่การตลาดนี่น่าจะเรียกแฟนคลับ PCD ได้เยอะอยู่ เพราะนี่คือเพลงแรกของวงในรอบ 12 ปีเลยนะ อมก
เพลงที่ 11 ‘Evil Twin’ เพลงนี้เป็นเพลงแนวถนัดของเมแกนเช่นเคย แต่เพลงนี้มันมีซัมติงที่ไม่ค่อยเหมือนเพลงอื่นนะ ไม่ค่อยน่าเบื่อ และเราก็ค่อนข้างชอบเนื้อเพลง อารมณ์ที่ทำเรื่องบ้าๆ ไปเนี่ยมันไม่ใช่ฉันนะ มันเป็นแฝดนรกด้านมืดของฉันเอง 555 ตลก ฟังได้อยู่ ไม่มองบน
เพลงที่ 12 ‘After You’ เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่เคยปล่อยออกมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งกระแสก็เงียบสนิทเช่นกัน (วงวาร) คราวนี้นางกลับมาด้วยการเอา AJ Mitchell มาร้องด้วย เราชอบเพลงนี้มากเลยนะ ชอบตั้งเเต่ตอนปล่อยออกมาครั้งแรกแล้ว คือซึ้งอ่ะ เวลาเมแกนทำเพลงซึ้งแล้วก็อินอยู่นะ นางควรทำเพลงแนวนี้มากขึ้น!! เวอร์ชั่นใหม่นี้พอได้เสียงผู้ชายมาอยู่ในเพลงด้วยแล้วช่วยเพิ่มความอินเข้าไปอีก ควรทำเอ็มวีเผื่อจะดังเหมือน If I’m Gonna Lose You
เพลงที่ 13 ‘Another Opinion’ เพลงนี้ฟีลย้อนกลับไปอัลบัมแรกของนางเลย แอบให้ฟีลเพลงเก่ามารีไซเคิลใหม่นิดๆ ไม่มีอะไรหวือหวาหรือน่าจดจำ เปิดผ่านไป
เพลงที่ 14 ‘No Excuses’ อดีต lead single เดิมของอัลบัมที่โยนทิ้งไปแล้ว เพลงนี้เอาจริงมันก็ไม่เหมาะเป็นเพลงเปิดอัลบัมตั้งเเต่แรกนั่นแหละ ด้วยความที่ได้เนื้อเพลงแนวๆ เพลง No รวมถึงบีทที่แนวๆ เดียวกับ All About That Bass การปล่อยซิงเกิลนี้ออกมา มองจากดาวอังคารก็ดูออกว่าต้องการเอาแนวเพลงเดิมที่เคยดังมาใช้ใหม่ และผลลัพธ์ก็คือแป้กหนัก เพลงนี้โปรดักชั่นไม่ได้ดีด้วยซ้ำอ่ะ ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่กับการที่อัลบัมจะแป้ก เพราะซิงเกิลแรกของอัลบัมก็คือไม่ได้ดีอะไรเลย ตอนฟังครั้งแรกแอบผิดหวัง ดีที่นางและค่ายกลับใจกันใหม่
เพลงสุดท้าย ‘Have You Now’ เพลงนี้ไม่ควรเอามาเป็นเพลงปิดอัลบัมอ่ะ ไม่ได้สรุปคอนเส็ปใดๆ ของอัลบัม และไม่ได้มีความซึ้ง ความพิเศษอะไรขนาดนั้น สรุปคือจบอัลบัมไม่ค่อยโอเค ควรเอา Babygirl มาปิดอัลบัมมากกว่า
โดยสรุปแล้ว อัลบัมนี้ไม่ได้มีความพิเศษหรือโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ในทางกลับกันก็ไม่ได้เป็นอัลบัมที่แย่จนฟังไม่ได้ อัลบัมนี้เหมาะกับการฟังเพลินๆ ไม่เหมาะกับการฟังจริงจังหรือเน้นอิน อันนี้ไม่เหมาะ ถ้าเทียบกับสองอัลบัมก่อนของนางเราว่าอัลบัมนี้ดีน้อยที่สุด เพราะอัลบัมแรกของนางทำไว้ดีงามตามมาตรฐานของนางมาก (หรือเพราะช่วงนั้น bubblegum pop กำลังดังก็ไม่รู้ ฟังเพลงไหนก็ดูใหม่ไปหมด) แต่พอมาอัลบัมสองกับสามนี่เหมือนนางยังหนีแนวเพลงเดิมไม่ออก ยังวนอยู่ในอ่างอยู่ เพลงไม่ค่อยพัฒนาตามสมัยมากนักเลยเป็นที่มาว่าทำไมนางดังน้อยลง เมื่อพูดถึงชื่อ Meghan Trainor ทุกคนก็ยังนึกถึงแต่ All About That Bass อยู่ดี การลบภาพนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำโดยการพัฒนาแนวเพลงของนาง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นศักยภาพของนางบ้าง (ซึ่งเราคิดว่านางมีแน่ๆ จากการทำเพลงช้าต่างๆ) อยากให้นางกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง
ป.ล. นางได้แกรมมี่สาขา Best New Artist ประจำปี 2016 ด้วยนะ นางต้องมีของบ้างแหละ ถ้านางไม่มีแกรมมี่นี้ค่ายคงลอยแพนางไปนานละ เศร้า
Treat Myself (album): 7/10
average.
top tracks: wave, nice to meet ya, workin’ on it, evil twin, after you

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา