13 ก.พ. 2020 เวลา 12:14 • หนังสือ
#8 เล่มหนึ่ง บทที่ 1 หน้า 60 ~ 64
...
ส่วนหนึ่งของพระเจ้าที่สร้าง`อีกครึ่ง`ที่เหลือของสมการ "ทั้งหมด/ความว่าง" นี้ "ได้ระเบิดออกเป็นหน่วยย่อยนับไม่ถ้วนจำนวนอนันต์"
1
"หน่วยพลังงาน" เหล่านี้เอง
ที่เธอเรียกว่า ✨จิตวิญญาณ✨
...
บางตำนานความเชื่อทางศาสนาของเธอระบุว่า "พระบิดา" มีบุตรแห่งจิตวิญญาณมากมาย สิ่งนี้คล้ายคลึงกับประสบการณ์ของมนุษย์เกี่ยวกับการเพิ่มทวีของชีวิต ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่มหาชนจะเข้าใจ "แนวคิดของการอุบัติขึ้นอย่างฉับพลัน" หรือ "การมีอยู่ในทันใดของบรรดาจิตวิญญาณมากมายเหลือคณาแห่งอาณาจักรสวรรค์" ได้
ในกรณีนี้ตำนานหรือคติปรัมปราของเธอก็ "ไม่ห่างไกลจากความจริงสูงสุดนัก" เพราะตามนัยของจักรวาลแล้ว "ดวงวิญญาณจำนวนอนันต์" ซึ่งประกอบขึ้นจาก "คุณสมบัติทั้งหมดที่เป็นฉัน" นี้ก็คือบุตรของฉันนั่นเอง
วัตถุประสงค์ศักดิ์สิทธิ์ของฉันในการ "แบ่งภาคตัวเองจนพอเพียง" นั้นก็เพื่อฉันจะได้ "รู้จักตัวเองเชิงประสบการณ์"
มีอยู่ "ทางเดียว" ที่ผู้สร้างจะได้มีประสบการณ์ถึงตัวเองในฐานะผู้สร้าง นั่นก็คือ "ฉันต้องสร้าง"
ฉันจึงมอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์แก่ส่วนต่างๆที่มีจำนวนเหลือคณาของฉัน (นั่นคือ แก่บุตรแห่งจิตวิญญาณทุกคนของฉัน) ซึ่ง "เป็นพลังเดียวกับที่ฉันมี"
นี่คือสิ่งที่หลายๆศาสนาของเธอหมายถึงเมื่อพวกเขากล่าวว่า "เธอถูกสร้างเหมือนและตามอย่างพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า" ไม่ได้หมายความอย่างที่ใครบางคนบอกว่าร่างกายของเราเหมือนกัน (แม้ว่าพระเจ้าจะเนรมิตรร่างได้ทุกรูปแบบตามวัตถุประสงค์เฉพาะ)
แต่หมายความว่า "แก่นแท้ของเราเป็นอย่างเดียวกัน" "เราประกอบด้วยสิ่งเดียวกัน" "มีคุณสมบัติและความสามารถแบบเดียวกัน" รวมทั้ง ✴️ความสามารถที่จะสร้างความจริงทางกายภาพขึ้นจากความว่างเปล่าด้วย✴️
บุตรแห่งจิตวิญญาณของฉันเอ๋ย❗
จุดประสงค์ของฉันในการสร้างเธอขึ้นมาก็เพื่อให้ฉันได้รู้จักตัวเองในฐานะพระเจ้าและไม่มีหนทางอื่นที่จะทำได้นอกจากผ่านทางเธอ
จึงอาจพูดได้ว่า (และเคยพูดมาแล้วหลายครั้งครา) จุดหมายของฉันในเธอก็คือ
🌟เธอควรจะรู้จักตัวเองในฐานะพระเจ้า🌟
นี่อาจฟังดูง่ายดายน่าอัศจรรย์ แต่จะค่อยๆซับซ้อนขึ้นด้วยว่า "มีทางเดียวที่เธอจะรู้จักตัวเองว่าคือฉัน" นั่นก็คือ "เธอจะต้องรู้จักตัวเองว่าไม่ใช่ฉันก่อนในเบื้องแรก"
ตอนนี้ลองทำความเข้าใจตามนี้ก่อน พยายามตามให้ทันนะ เพราะตรงนี้ค่อนข้างซับซ้อน พร้อมหรือยัง❓
N : ครับ ผมคิดว่า
G : ดี จำไว้ เธอถามหาคำอธิบายนี้และรอมาหลายปีแล้ว* เธออยากได้คำตอบสำหรับคนธรรมดา ไม่ใช่แบบลัทธิอภิปรัชญาหรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
*หมายถึง`คุณ`ที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ด้วย
~ แอดมิน~
1
N : ครับ ผมรู้ครับว่าผมถามอะไรไปบ้าง
G : และเมื่อถามเธอจะได้รับคำตอบ
1
ทีนี้ เพื่อให้ง่ายขึ้น ฉันจะใช้แบบจำลองตามคติปรัมปราที่ว่า "เธอคือบุตรของพระเจ้า" เป็นฐานการพูดคุยของเราก็แล้วกัน เพราะเธอคุ้นเคยดี และไม่ห่างจากความจริงในหลายๆทาง
เพราะฉะนั้นกลับไปยังจุดที่ว่า กระบวนการแห่งการ "รู้จักตนเอง" จะสัมฤทธิผลได้อย่างไร
มีวิธีหนึ่งที่ฉันจะให้บุตรแห่งจิตวิญญาณ "รู้ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของฉัน" ซึ่งก็เพียงแค่ "บอกออกไปเลย" และฉันก็ทำอย่างนั้นด้วย
แต่เธอเห็นไหมละว่ามัน`ยังไม่พอ`สำหรับวิญญาณที่จะ "รู้จักตัวเองในฐานะพระเจ้า" หรือ "รู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า" หรือ "เป็นบุตรของพระเจ้า" หรือ "ทายาทแห่งอาณาจักรสวรรค์" (หรืออะไรก็สุดแท้แต่เธอจะเลือกใช้ตามคติความเชื่อของเธอ)
อย่างที่อธิบายไปแล้ว `การรู้` กับ `การมีประสบการณ์` นั้น "ไม่เหมือนกัน"
1
🔸วิญญาณปรารถนาจะรู้จักตนเองเชิงประสบการณ์🔸(เหมือนที่ฉันปรารถนา❗)
การตระหนักรู้เชิงความคิดยังไม่พอสำหรับเธอ
ดังนั้น "ฉันจึงคิดกลอุบายขึ้น"
เป็น `ความคิด` ที่พิเศษสุดในจักรวาล
เป็น `การร่วมมือ` อันน่าตื่นเต้นที่สุด
ฉันใช้คำว่า "ร่วมมือ" เพราะว่าพวกเธอทุกคนร่วมอยู่ในแผนการนั้นกับฉันด้วย
ใน "แผนการ" นั้น เธอในฐานะจิตวิญญาณบริสุทธิ์จะเข้าสู่จักรวาลทางกายภาพที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น
ที่เป็นแบบนี้เพราะโลกกายภาพเป็นทางเดียวที่เธอจะมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอรู้เชิงความคิดได้
ที่จริงแล้วนั่นคือเหตุผลที่ฉัน "สร้างจักรวาลทางกายภาพ" และ "ระบบสัมพันธภาพที่ขับเคลื่อนมันขึ้นมา" รวมถึง "สิ่งอื่นๆทั้งหมดตั้งแต่แรก"
ในจักรวาลทางกายภาพนั้นเองที่เธอผู้เป็นบุตรแห่งจิตวิญญาณของฉันจะสามารถมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับตัวเองได้
แต่อันดับแรกเธอจะต้อง "ได้รู้สิ่งตรงข้ามเสียก่อน"
2
อธิบายอย่างรวบรัดก็คือ "เธอไม่อาจรู้ว่าตัวเองสูงจนกว่าจะรู้จักเตี้ย" "เธอไม่อาจมีประสบการณ์ที่เรียกว่าอ้วนจนกว่าเธอจะรู้จักผอม"
เมื่อนำเข้าสู่`ตรรกะขั้นสุดยอด`แล้วก็คือ เธอไม่สามารถมีประสบการณ์ว่าตัวเธอคือใครจนกว่าเธอจะเผชิญกับอะไรที่ไม่ใช่ตัวเธอ
1
✴️ นี่คือจุดประสงค์ของ `ทฤษฎีสัมพัทธภาพ` และของ `ทุกชีวิตทางกายภาพ`✴️
จากอะไรที่ "ไม่ใช่ตัวเธอ" นี่เอง ที่จะทำให้ตัวตนของเธอ "ได้รับการบ่งชี้ลงไป"
1
ทีนี้ "ในการรู้ขั้นสุดยอด" หรือ "การรู้จักตนเองในฐานะผู้สร้าง" นั้น
เธอไม่สามารถมีประสบการณ์ถึงตัวเองในฐานะผู้สร้างได้จนกว่าเธอจะสร้างอะไรขึ้นมา
แต่เธอก็ "ไม่อาจสร้างตัวเองได้" จนกว่าเธอจะ "ไม่เป็นตัวเอง" เสียก่อน ในความหมายหนึ่งก็คือเธอจะต้อง "ไม่เป็น" เสียก่อน เพื่อที่จะ "เป็น" ได้
2
ตามทันไหม❓
N : ผมคิดว่า...
G : งั้นต่อเลย แน่นอน "ไม่มีทางที่เธอจะไม่เป็นตัวเองจริงๆหรอก" เธอเป็นอย่างนั้นอยู่เอง (เป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์และสร้างสรรค์) เธอเป็นมาเสมอ และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
ดังนั้น "เธอจึงทำสิ่งที่ดีที่สุดขั้นต่อไป" นั่นคือ ทำให้ตัวเองลืมเลือนว่าตัวเธอที่แท้จริงคือใคร
เมื่อเข้าสู่โลกทางกายภาพ "เธอละทิ้งความจำเกี่ยวกับตัวเอง" ซึ่งทำให้เธอมีโอกาส "เลือก" ที่จะเป็นตัวตนที่แท้จริง แทนที่จะ `ตื่นขึ้นมาพบความจริงนี้เลย` ทำนองนั้น
"การเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าแทนที่จะเพียงได้รับการบอกเฉยๆนี้เอง" ที่ทำให้ "เธอมีประสบการณ์ถึงตัวเองในฐานะผู้มีสิทธิ์เลือกโดยสมบูรณ์"
ซึ่งตามนิยามก็หมายถึง "พระเจ้า" นั่นเอง
"แล้วเธอจะมีทางเลือกให้กับบางสิ่งได้อย่างไรถ้าไม่มีอะไรให้เลือก"
ไม่มีทางที่เธอจะไม่เป็นบุตรของฉัน ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างหนักเพียงใด แต่ว่าเธอ 🔸ลืม🔸 ได้
เธอเป็น(อย่างที่เป็นมาเสมอและจะเป็นตลอดไป) "อณูศักดิ์สิทธิ์จากบูรณาภาพอันศักดิ์สิทธิ์" เป็น "ส่วนหนึ่งของพระวรกาย"
1
นี่เองที่ทำให้ "การกลับมารวมกับสิ่งทั้งหมด" หรือ "การกลับไปสู่พระเจ้า" เรียกว่า
✨การรำลึก✨
1
แท้จริงก็คือ 🔸เธอเลือกจะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เธอเป็นจริงๆอีกครั้ง🔸
1
หรือ
🔸เลือกผนวกกับส่วนอื่นๆของเธอเพื่อจะมีประสบการณ์ถึงทั้งหมดของตน ซึ่งก็คือ "ทั้งหมดของฉัน" นั่นเอง🔸
ดังนั้น "ภารกิจของเธอบนโลกนี้จึงไม่ใช่การเรียนรู้" (เพราะเธอรู้อยู่แล้ว❗)
✴️ แต่คือการจดจำให้ได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร — และจดจำให้ได้ว่าคนอื่นที่เหลือนั้นคือใครด้วย ✴️
✴️ นี่คือเหตุผลที่ว่า "ภารกิจสำคัญอีกอย่างของเธอ" คือ 🔸การเตือนความจำให้ผู้อื่นหวนระลึก🔸 เพื่อว่าพวกเขาจะได้จำได้และกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดเช่นเดียวกับเธอ ✴️
1
คุรุทางจิตวิญญาณผู้สูงส่งทุกคนทำอย่างนั้น
มันเป็น 🔸จุดหมายเดียวของเธอ🔸
พูดอีกอย่างก็คือว่า :
นี่เป็น ✨จุดมุ่งหมายของวิญญาณเธอ✨
N : พระเจ้า❗ มันเข้าใจง่ายจัง แล้วก็สมเหตุสมผล ผมหมายความว่า มันอธิบายได้สอดคล้องไม่มีขาดมีเกิน อยู่ๆมันก็ชัดเจนเหมาะเจาะ ผมเห็นแล้วภาพที่ไม่เคยนำมาต่อเข้าด้วยกันก่อนหน้านี้
G : ดีแล้ว ดีแล้ว นั่นล่ะวัตถุประสงค์ของการสนทนาของเรา "เธอร้องขอคำตอบจากฉันและฉันก็สัญญาว่าจะมอบให้"
เธอจะนำบทสนทนานี้ไปพิมพ์เป็นหนังสือเรื่องหนึ่ง "เธอจะนำคำพูดของฉันส่งไปถึงผู้คนมากมาย" มันเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของเธอ
ตอนนี้เธอมีคำถามมากมาย มีเรื่องต้องสืบค้นหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต เราได้วางรากฐานไว้ตรงนี้แล้ว ได้ปูพื้นสำหรับทำความเข้าใจเรื่องอื่นๆอีก ไปต่อคำถามอื่นกันเถอะ
และ "ไม่ต้องกังวลไปหากเธอไม่ค่อยเข้าใจบางอย่างที่เราพูดคุยกันนัก" "เธอจะค่อยๆเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเองในไม่ช้า"*
*รวมทั้งคุณที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ด้วย
~ แอดมิน ~
1
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา