Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
16 ก.พ. 2020 เวลา 11:33 • ปรัชญา
#10 เล่ม 1 บทที่ 1 หน้า 68 ~ 71
...
ในความสัมพันธ์ขั้นสูง
"สิ่งที่ดำรงอยู่จะไม่มีขั้วตรงข้าม"
*ทั้งหมดคือหนึ่งเดียว*
ทุกสิ่งไหลเคลื่อนจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งเป็นวัฏจักรอันไม่สิ้นสุด
...
`เวลา` ก็เป็น `มิติขั้นสูง` ที่ว่านั้น
1
สิ่งที่เธอเรียกว่า อดีต ปัจจุบัน และอนาคตนั้น
1
"มีความสัมพันธ์ขึ้นต่อกัน"
ทว่านั่นก็ `ไม่ใช่สิ่งตรงข้าม`
หากแต่เป็นหลากส่วนของบูรณภาพเดียว
คือ `ความก้าวหน้าของแนวคิดเดิม`
`วัฏจักรของพลังงานเดิม`
`ลักษณ์ต่างๆของความจริงที่ไม่แปรเปลี่ยน`
หากเธอสรุปตรงนี้ว่า...อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ล้วนเป็นเวลาเดียวกันละก็ `เธอเข้าใจถูกต้อง` แล้วล่ะ (แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะคุยเรื่องนี้ เราจะลงรายละเอียดมากกว่านี้เมื่อสำรวจแนวคิดทั้งหมดเรื่องเวลา ซึ่งจะทำกันในภายหลัง)
โลกเป็นแบบที่เป็นเพราะไม่อาจเป็นแบบอื่นแล้วยังคงดำรงอยู่ในโลกกายภาพ`ขั้นหยาบ`ได้ แผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน อุทกภัย (น้ำท่วม) และทอร์นาโด หรือเหตุการณ์ทั้งหลายที่เธอเรียกว่า `ภัยธรรมชาติ` นั้น เป็นเพียงการขับเคลื่อนของมวลธาตุจากขั้วหนึ่งไปสู่อีกขั้ว
1
*วัฏจักรของการ เกิด-ตาย ก็เป็นหนึ่งในนั้น*
3
นี่คือ "ท่วงทำนองของชีวิต"
ทุกสิ่งในโลกความจริงขั้นหยาบล้วนขึ้นต่อสิ่งนี้
เพราะว่า `ชีวิต` ในตัวมันเอง
ก็คือ `ท่วงทำนอง`
คือ `ลูกคลื่น`
คือ `การสั่นสะเทือน`
คือ "ชีพจรจากหัวใจของสิ่งทั้งหมด"
`ความป่วยไข้และโรคภัย` คือสิ่งตรงกันข้ามกับ `พลานามัยและสุขภาวะ` อีกทั้งเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงของเธอ *ด้วยคำสั่งของเธอเอง*
1
`เธอไม่อาจป่วยได้` หาก `ไม่ทำให้ตัวเองเป็นอย่างนั้นในระดับใดระดับหนึ่ง` และเธอก็ `สามารถหายดีอีกครั้งได้` เพียงแค่ *ตัดสินใจที่จะหาย*
1
"ความรันทดหมดหวังอย่างลึกล้ำในหมู่ผู้คน"
เกิดจากการตอบสนองที่พวกเขาได้ *เลือก*
1
"ภัยพิบัติต่างๆ" คือ *ผลลัพธ์ของจิตสำนึกโดยรวมบนโลก*
1
คำถามของเธอแฝงนัยว่า..."ฉันคือ`ผู้เลือก`ให้เกิดเหตุการณ์พวกนั้น" ว่ามันควรเกิดขึ้นเพราะเป็นเจตจำนงและความปรารถนาของฉัน
แต่ "ฉันไม่ได้อยากให้อะไรพวกนั้นเกิดขึ้น" เลยนะ
ฉันเพียงแต่`คอยสังเกต`พวกเธอทำให้เกิดขึ้นมาเอง และก็จะไม่ทำอะไรเพื่อจะยับยั้งมันด้วย
เพราะการทำอย่างนั้นเท่ากับ
"ไปขัดเจตจำนงของเธอ"
1
ซึ่งในทางกลับกันจะเป็นการกีดกันเธอจากประสบการณ์การเป็นพระเจ้าอันเป็นประสบการณ์ที่เธอและฉันได้ร่วมกันเลือก*
1
[*พระเจ้า คือ ผู้สร้าง และเราที่เป็นส่วนหนึ่งของพระองค์ก็มีอำนาจแบบเดียวกัน ที่ `มีอิสระจะสรรค์สร้างสิ่งใดก็ได้` ขึ้นตามเจตจำนงของเรา
ถ้าพระองค์ยับยั้งไม่ให้เรา `สร้างสิ่งใดก็ตามที่เราปรารถนา` ก็เหมือนเป็นการขัดขวางตัวของพระองค์เอง ที่ปรารถนาจะมีประสบการณ์ถึงตัวเอง "เป็นผู้สร้างแต่ไม่ให้สร้าง" (ไม่ว่าจะสร้างอะไรขึ้นมาก็ตาม) มันจะเป็นไปได้อย่างไร! ~ แอดมิน]
1
ด้วยเหตุนั้น...อย่าได้`ก่นด่าประฌาม`สิ่งต่างๆที่เธอบอกว่า`เลวร้าย`ในโลก
แต่ "จงถาม" ตัวเองว่า สิ่งที่เธอ`ตัดสินว่าเลวร้ายนี้`มีอะไรบ้างไหมที่เธอ *ปรารถนาจะเปลี่ยนแปลง*
1
จงสืบค้น`ภายในไม่ใช่ภายนอก`
1
โดยถามว่า ส่วนใดของตัวฉันที่อยากให้มีประสบการณ์ท่ามกลางหายนะภัยพวกนี้ ตัวตนด้านไหนของฉันที่เลือกจะดึงออกมา
เพราะชีวิตทั้งมวล... "ดำรงอยู่ในฐานะเครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์ของเธอ" ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเพียงแสดงตัวออกมาเพื่อให้โอกาสเธอได้ตัดสินใจว่า *เธอคือใคร* เท่านั้นเอง
1
1
นี่คือ `ความจริงสำหรับทุกดวงวิญญาณ`
1
ฉะนั้นเธอจะเห็นว่า...
*ไม่มีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในจักรวาลนี้*
*มีเพียงผู้สร้างเท่านั้น*
คุรุทั้งหลายที่เคยมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ต่างรู้ดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมไม่ว่าจะเป็นคุรุคนใดไม่มีใครเลยที่คิดว่าตนต้องตกเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย แม้หลายคนจะถูก `ตรึงกางเขน` ก็ตาม
1
ทุกดวงวิญญาณคือครู
แม้ว่าวิญญาณบางดวงจะจดจำที่มาหรือบ้านเกิดของตนไม่ได้
ทว่าวิญญาณแต่ละดวงจะสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ชีวิตที่เอื้อต่อจุดประสงค์สูงสุดของตน
1
รวมทั้งเพื่อการจดจำตนเองให้เร็วที่สุดขึ้นมาในแต่ละห้วงเวลาที่เรียกว่าปัจจุบัน
1
เพราะฉะนั้น `จงอย่าตัดสิน` "เส้นทางกรรม (การกระทำ) ที่ผู้อื่นได้ย่างก้าว" "อย่าริษยาในความสำเร็จ" หรือ "เวทนาผู้ล้มเหลว"
1
เพราะเธอไม่รู้หรอกว่าสิ่งใดเรียกว่า "ล้มเหลว" สิ่งใดคือ "ความสำเร็จ" จากมุมมองของวิญญาณดวงนั้น
อย่าเรียกสิ่งใดว่า "ความวิบัติ" หรือ "เหตุการณ์แสนสุข" จนกว่าเธอจะตัดสินใจหรือประจักษ์ว่า "มันถูกใช้เพื่อสิ่งใด"
เป็น`ความวิบัติ`หรือ "ถ้ามีคนตายเพียงหนึ่งแต่กลับสามารถช่วยชีวิตคนนับพัน?"
1
เราจะเรียกชีวิตหนึ่งว่าเป็นเหตุการณ์`แสนสุข`หรือ "หากมันไม่นำสิ่งใดมาให้เลยนอกจากความทุกข์ระทม"
แม้แต่เรื่องนี้เธอก็ `ไม่ควรตัดสิน`
1
จงเก็บความเห็นของเธอไว้กับตัวแล้วปล่อยให้คนอื่นทำอย่างนั้นด้วย
1
นี่ไม่ได้หมายความว่า "ให้เธอเพิกเฉยต่อการร้องขอความช่วยเหลือ" หรือ "ละเลยแรงกระตุ้นจากจิตวิญญาณที่ให้ลุกขึ้นทำการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือสถานการณ์" หรอกนะ
แต่หมายความว่า "ให้เลี่ยงการ `ประทับตรา` และ `การพิพากษา` ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม"
เพราะแต่ละเหตุการณ์คือของกำนัล
และแต่ละประสบการณ์ซุกซ่อนสิ่งล้ำค่า
1
*
กาลครั้งหนึ่ง...
มีวิญญาณดวงหนึ่ง `รู้ว่าตนคือแสงสว่าง`
มันเป็นวิญญาณใหม่จึงร้อนรนกระวนกระวายที่จะมีประสบการณ์ว่า "ฉันคือแสงสว่าง"
วิญญาณดวงนั้นพูด "ฉันคือแสงสว่าง"
แต่สิ่งที่มัน`รู้`และพูดมาทั้งหมดก็ไม่อาจทดแทนประสบการณ์ได้
จากโลกที่วิญญาณผุดขึ้นนั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากแสงสว่าง
"ทุกดวงวิญญาณล้วนงามสง่า"
"ทุกดวงวิญญาณล้วนมหัศจรรย์"
"ทุกดวงวิญญาณเรืองรองด้วยแสงอันน่าเกรงขาม`ของฉัน`"
ดังนั้น...วิญญาณน้อยดวงนี้จึงเปรียบเสมือนเทียนเล่มหนึ่งในดวงอาทิตย์
ณ ใจกลางของแสงสว่างอันโอฬาร
ในฐานะที่เป็น`ส่วนเสี้ยวเล็กๆ`
มันไม่อาจแลเห็นตัวเอง ไม่อาจมีประสบการณ์ถึงตนเองได้ว่าแท้จริงแล้ว *ตนคือใครและเป็นอะไร*
วิญญาณดวงนี้ร่ำร้องจะรู้จักตนเอง ความปรารถนานั้นแรงกล้าจนฉันพูดขึ้นในวันหนึ่งว่า
~~~
God : "เจ้าตัวเล็ก เจ้ารู้ไหมว่าอะไรที่จะตอบสนองเสียงร่ำร้องนี้ของเจ้าได้?"
soul : "โอ พระเจ้า! ข้าต้องทำอะไรบ้าง ข้าพร้อมจะทำทุกอย่าง"
God : "เจ้าต้อง`แยกตัวเองออกไปจากพวกเราที่เหลือ` แล้วเจ้าก็ต้องเรียกตัวเองว่า `ความมืด`"
1
soul : "อะไรคือ ความมืด พระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์?"
God : "คือสิ่งที่เจ้า`ไม่ได้เป็น`นั่นล่ะ"
1
~~~
และวิญญาณน้อยก็เข้าใจ
วิญญาณดวงน้อยจึงได้แยกตัวเองออกจากทั้งหมดเพื่อไปยังอีกโลกหนึ่ง
ในโลกนั้นวิญญาณมีอำนาจที่จะมีประสบการณ์ทุกอย่าง `เกี่ยวกับความมืด` และมันก็ทำอย่างนั้น
ท่ามกลางความมืดนั้นเอง มันได้ร้องออกมาว่า
~~~
พระบิดา พระบิดาเจ้าข้า...
เหตุใดจึงทอดทิ้งข้าพระองค์
แม้จะอยู่ในช่วงเวลามืดมิดที่สุด
ฉันก็ไม่เคยทิ้งเธอเลย
แต่อยู่เคียงข้างเธอเสมอ
และพร้อมจะย้ำเตือนให้เธอระลึกว่า...
แท้จริงแล้วเธอคือใคร!
ฉันพร้อมและพร้อมอยู่ตลอดเวลา...
ที่จะเรียกเธอกลับบ้าน!
ดังนั้น...`จงเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืด`
และ `อย่าสาปแช่งเลย`
1
จงอย่าลืม!!! *ว่าเธอคือใคร*
ในโมงยามที่ `ถูกห้อมล้อมด้วยสิ่งที่ไม่ใช่เธอ`
1
จงสรรเสริญ!!! *การสร้างนั้น*
แม้เธอจะพยายามหาทางเปลี่ยนแปลงก็ตาม
และขอให้รู้ว่าสิ่งที่เธอได้ทำในช่วงแห่งบททดสอบอันยิ่งใหญ่จะเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน
1
เพราะ `ทุกประสบการณ์ที่เธอสร้าง` คือสิ่งบ่งบอกว่าเธอคือใครและใครที่เธอปรารถนาจะเป็น!!!
1
~~~
ฉันเล่านิทานอุปมา "วิญญาณน้อยกับดวงตะวัน" เรื่องนี้ให้ฟังเพื่อเธอจะได้เข้าใจว่า...
*ทำไมโลกถึงเป็นอย่างนี้*
และเพื่อบอกว่า...โลกสามารถ `เปลี่ยนแปลงได้ทันทีที่ทุกคนจดจำสัจจะแห่งพระเจ้าได้ในความจริงสูงสุดของตน`
มีผู้ที่บอกว่าชีวิตคือโรงเรียน
สิ่งต่างๆที่เธอ `สังเกต` และ `มีประสบการณ์`
ล้วนเป็นไปเพื่อการเรียนรู้ของเธอ
ซึ่งฉันเคยพูดมาก่อนหน้านี้และจะพูดอีกครั้ง
เธอ`เข้าสู่ชีวิตนี้`
*โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรเลย*
เธอเพียงแต่ต้อง *แสดงสิ่งที่เธอรู้ออกมา*
และในการแสดงออกนั้นเธอจึงได้ `ทำหน้าที่`
และ `สร้างสรรค์ตัวเองขึ้นมาใหม่ผ่านประสบการณ์ของเธอ`
เมื่อนั้นเธอจึงได้ให้`เหตุผลกับชีวิต`
และทำให้ `บรรลุวัตถุประสงค์`
เช่นนั้นแล้ว *เธอจึงทำให้มันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา*
...
...
...
เรา เข้าสู่ชีวิตนี้
โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรเลย
เพราะ "เรารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว"
และ เรา `ลืม` ว่าเราเป็น `ส่วนหนึ่งของพระเจ้า`
ก็เพื่อที่เราจะได้..."สร้างสรรค์ความเป็นพระเจ้าของเราขึ้นมาใหม่" และมีประสบการณ์ถึงมัน
1
แอดมิน
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย