17 ก.พ. 2020 เวลา 12:09 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภูมิใจเสนอ นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเพจ MovieTalk
“เงาวายุ” บทที่ 12
ความเดิม
อี่ทงฮวงที่ย้อนกลับมาที่ตำหนักทักษิณอีกครั้ง ทำให้ได้พบกับมั้วเง็กที่หลบหนีออกมาได้ แต่แล้วพวกของยื่อต๊อและอาเฉ่าก็รุดมาถึงพอดีเช่นกัน อี่ทงฮวงประมือกับนักฆ่าชุดดำทั้งสิบ และโค่นล้มลงได้ ในขณะที่ยื่อต๊อค้นพบจุดอ่อนของ
อี่ทงฮวง นั่นคือ มั้วเง็ก ที่อี่ทงฮวงจะต้องปกป้องนาง แต่แล้วเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมั้วเง็กประทับฝ่ามือใส่หน้าอกด้านซ้ายและปล่อยพลังลมปราณเข้าทำร้ายหัวใจของอี่ทงฮวงจนกระอักโลหิตและล้มลง ที่เบื้องหน้าศัตรู
“เงาวายุ” บทที่ 12 พันธมิตร ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทย
เบื้องหน้าที่อี่ทงฮวงเห็นคือความมืดมิด
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตาย
เมื่อพลาดก็หมายถึงชีวิต
เมื่อพลาดก็มีแต่หนทางตาย!
อี่ทงฮวงล้มลงแล้ว...เป็นล้มลงจริง ๆ!
เบื้องหน้าอี่ทงฮวงคือ ยื่อต๊อ และอาเฉ่าที่ยืนทะมึน ใบหน้ามีรอยยิ้มลี้ลับ
อี่ทงฮวงเห็นเงาร่างอ้อนแอ้นสายหนึ่งเดินไปสมทบข้างกายของยื่อต๊อ
เมื่อเพ่งดูอย่างชัดเจนกลับเป็นมั้วเง็ก!
เสียงหัวร่อสดใสกังวาน แต่วังเวงดังขึ้นจากมั้วเง็ก นางเอ่ยขึ้น
“อี่ทงฮวงแม้ท่านมากความสามารถ แต่ยังประมาทเลิ่นเล่อได้เช่นกัน
กับคนข้างกายที่ท่านเชื่อใจ เจ้าจึงไม่ระแวดระวัง
วันนี้หากต้องตายก็อย่าโทษผู้ใดเลย”
จบคำมั้งเง็กผนึกลมปราณ ผิวหนังผิวกายล้วนมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
เพียงชั่วครู่ใบหน้าสะคราญแสนสดใสของมั้วเง็ก
กลับมลายหายไป ที่ปรากฏตรงหน้าเวลานี้คือสตรีเลอโฉม ปากยั่วยวนสวยงามชวนลุ่มหลง เรือนร่างร้อนแรงคล้ายดั่งเปลวเพลิงราคะแฝงอยู่ในที
ฉุ่ยยี้
อี่ทงฮวงที่เพ่งมองชั่วอึดใจ แล้วถึงกับตะเบ็งหัวเราะดังกึกก้องสลับกับเสียงไออย่าง
บอบช้ำ
เป็นความบอบช้ำทางร่างกาย หรือจิตใจกันแน่?
“อี่ทงฮวงเอ๋ยอี่ทงฮวง.. เจ้าช่างโง่งมยิ่งนัก ไฉนลืมเลือนในเกียอุ้ยนึ้งมีฉุ่ยยี้โกว้เนี้ย ที่มีความสามารถเลิศเลอเปลี่ยนโฉมหน้าและร่างกายเป็นผู้ใดก็ได้ คราวนี้นับว่าสมควรตายจริง ๆ”
ฉุ่ยยี้หัวร่อคิกคัก ชม้ายชายตาชำเลืองอี่ทงฮวงอย่างหยาดเยิ้มยั่วยวน
“ท่านเมื่อทราบเวลานี้ เกรงว่าสายเกินไปแล้ว ข้าพเจ้าเมื่อครู่ประทับฝ่ามือกับหน้าอกของท่าน ถึงกับแทรกลมปราณกระชากใจใส่ท่าน ตำแหน่งที่ข้าพเจ้าวางฝ่ามือพอเหมาะพอเจาะกับตำแหน่งหัวใจของท่าน อีกชั่วครู่ท่านคงไม่ได้กล่าววาจาแล้ว”
อี่ทงฮวงทราบว่าคราวนี้พลาดท่าเสียที สถานการณ์ตนเองอยู่ในช่วงคับขันเต็มที
กำลังภายในไม่ปะติดปะต่อกัน เนื่องเพราะลมปราณกระชากใจของฉุ่ยยี้แทรกซึมภายในร่าง คิดจะรักษาด้วยพหูโอสถในเวลานี้ก็ยังไม่เอื้ออำนวยพอ คิดจะช่วยเหลืออ๋องเอี๊ยว่ายากแล้ว ต้องผ่านพ้นสถานการณ์ความตายนี้ของตนเองยากยิ่งกว่า
อี่ทงฮวง
ในที่สุด อี่ทงฮวงฝืนกายยืนขึ้นอีกครั้ง
แม้ยากลำบาก แต่อี่ทงฮวงยังคงยืนขึ้น
บุคคลบางประเภท แม้ล้มลงกี่ครั้ง ก็จะลุกขึ้นทุกครั้ง
บุคคลที่มุ่งมั่น และพลังจิตใจกล้าแกร่งเท่านั้น
ที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายได้
อี่ทงฮวงคือคนประเภทนั้น
ผู้คนบนโลกนี้จำนวนไม่น้อยเป็นบุคคลประเภทเดียวกับอี่ทงฮวง
ถึงจะล้มกี่ครั้ง ก็จะลุกขึ้นทุกครั้ง!
ยื่อต๊อทั้งสามรู้สึกประหลาดใจที่อีทงฮวงยังสามารถยืนขึ้นมาได้
ฉุ่ยยี้อดประหลาดใจระคนสงสัยยิ่งกว่า
ฝ่ามือลมปราณกระชากใจของนาง แม้มิใช่ลมปราณสายแข็ง เป็นสายอ่อนหยุ่น แต่เมื่อแทรกซึมเข้าร่ายกายผู้ใดแล้ว ลมปราณจะมุ่งตรงไปกระแทกหัวใจคนผู้นั้นจนบอบช้ำสาหัส
แม้มีกำลังภายในกล้าแข็งเพียงใดก็ต้องล้มตาย
ชั่วพริบตาที่อี่ทงฮวงยังมิทันยืนหยัดมั่นงคง
ก็เกิดการเคลื่อนไหวแล้ว
ฝูงเข็มบินจำนวนสี่สิบเก้าเล่มหลายขนาด
ถูกซัดออกจากร่างกายของอี่ทงฮวง
แม้ตนเองไม่ได้สะบัดฝ่ามือ
เข็มบินทั้งสี่สิบเก้าเล่มสาดพุ่งออกไปทั้งทิศทางตรง และไร้ทิศทางแต่คล้ายตะข่ายฟ้า แผ่กระจายเต็มเบื้องหน้าของยื่อต๊อฉุ่ยยี้และอาเฉ่า
ฉุ่ยยี้รีบดีดกายไปอยู่ด้านหลังของยื่อต๊อ และอาเฉ่า ด้านกำลังภายในนางนับว่าอยู่
รั้งท้ายที่สุด พลังปกป้องตนเองก็น้อยยิ่ง
ยื่อต๊อ และอาเฉ่า กระชากอาวุธส่วนตัวออกมา ตวัดกวัดแกว่งต้านรับตะข่ายเข็มบิน
อี่ทงฮวงที่เห็นก็รับทราบทันที ฉุ่ยยี้มีฝีมืออ่อนด้อยกว่า
ยื่อต๊อทั้งสองตวัดฝ่ามืออีกครา
เข็มบินโค้งงอสาดพุ่งออกอย่างไร้ทิศทาง ไม่อาจจำแนกป้องกันได้
เข็มบินพุ่งวนก่อนจะลับหายไปในความมืดมิด
ฉุ่ยยี้
ยื่อต๊อและอาเฉ่าร่ายรำกระบวนท่าใช้อาวุธเบี่ยงเบนเข็มบินทั้งสี่สิบเก้าเล่มจนหมดสิ้น
เสียงกรีดร้องพลันดังขึ้นจากด้านหลังของมัน
ทั้งสอง ทำให้ท่าร่างหยุดชะงัก
ยื่อต๊อและอาเฉ่าเหลียวกลับไปดู ถึงกับตะลึงลาน
เข็มบินโค้งงอที่หายไปในความมืดมิด เวลานี้ปักตรึงบนร่างของฉุ่ยยี้
ร่างกายอ้อนแอ้นอรชรของนางคล้ายตัวเม่น เข็มบินโค้งงอทั้งสิบแปดเล่มปักตรึงบริเวณจุดชีพจรทั่วร่างของฉุ่ยยี้
เวลานี้ลมหายใจของนางรวยรินเต็มที ในสีหน้าของนางซีดเผือด คล้ายปรากฏแววพรั่นพรึง
แววคลางแคลงสงสัย
อี่ทงฮวงกล่าวขึ้น
“ลมปราณกระชากใจของท่านเป็นสายอ่อน ต้องให้ศัตรูตายใจเปิดโอกาสให้ท่านประทับฝ่ามือตรงบริเวณตำแหน่งหัวใจ ท่านจึงจะแทรกลมปราณอ่อนหยุ่นเข้าไปทำลายหัวใจศัตรูให้บอบช้ำได้ แต่ท่านคำนวณผิดไปบางประการ...”
ยื่อต๊อตวัดหน้ากลับมา สายตาเพ่งมองอี่ทงฮวงอย่างเคียดแค้น ขุ่นเคือง
“พวกเราคำนวณผิดพลาดเยี่ยงไร... เราเห็นฉุ่ยยี้นาบฝ่ามือตรงอกซ้ายเจ้าชัด ๆ ต่อให้กำลังภายในกล้าแข็งระดับไช้ตื้อเซ้ง จะมากจะน้อยหัวใจต้องบอบช้ำจนไม่อาจลงมือต่อสู้ได้อีก”
อี่ทงฮวงยิ้มแล้ว แม้จะเป็นเป็นรอยยิ้มที่ฝืนอย่างยิ่ง
“ข้าพเจ้าสวมใส่เกราะไหมใยเพชรไว้ภายใน”
เกราะไหมใยเพชรคือเสื้อเกราะอ่อนที่ถูกถักทอขึ้นเป็นพิเศษ ถึงกับใช้วัสดุที่มีแต่ดินแดนเปอร์เซียเท่านั้น เป็นเกราะที่ทนทานต่ออาวุธ และฝ่ามือได้ในระดับหนึ่ง
มีน้ำหนักเบาแนบไปกับรูปร่างของผู้สวมใส่
ที่อี่ทงฮวงสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว ไม่ใช่เพราะพหูโอสถเพียงอย่างเดียว แต่เพราะเกราะไหมใยเพชรที่สวมใส่มีส่วนดูดซับแรงกระแทกจากพลังภายในให้เบาบางลงด้วยเช่นกัน
ยื่อต๊อกล่าวต่อ
“ฟังว่าเกราะไหมใยเพชร แม้จะเป็นเครื่องป้องกันอย่างดีจากแดนเปอร์เซีย แต่มันป้องกันกำลังภายในสายแข็ง แต่ลมปราณกระชากใจเป็นสายอ่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ย่อมสามารถแทรกซึมเข้าไปได้บ้างเช่นกัน...แต่ทำไม...”
มันไม่ได้กล่าวต่อ คล้ายรอคอยให้อี่ทงฮวงเฉลย
“นั่นก็จริง เกราะไหมใยเพชรป้องกันพลังภายในของฉุ่ยยี้โก้วเนี้ยได้บางส่วนจริง แต่ที่ข้าพเจ้าหัวใจไม่บอบช้ำเพราะข้าพเจ้าเกิดมาประหลาดกว่าบุคคลอื่น...”
“เจ้ามีอันใดประหลาด หรือเจ้าไม่มีหัวใจ?”
ยื่อต๊อย้อนถาม
“ข้าพเจ้ามีหัวใจ แต่ตำแหน่งหัวใจของข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ตรงที่ฉุ่ยยี้โก้วเนี้ยประทับฝ่ามือ...”
อี่ทงฮวงไม่ได้กล่าวต่อ
อี่ทงฮวง
ที่แท้อี่ทงฮวงเกิดมาผิดแปลกกว่าบุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไปมีตำแหน่งหัวใจอยู่ด้านซ้าย
แต่อี่ทงฮวงมีตำแหน่งหัวใจอยู่ด้านขวา!
นี่จึงนับเป็นวาสนาในคราวเคราะห์อย่างแท้จริง
ฉุ่ยยี้ประทับฝ่ามือแทรกลมปราณกระชากใจ
อี่ทงฮวงสวมเกราะไหมใยเพชร และตำแหน่งหัวใจอยู่ด้านขวา
ท้งหมดล้วนบังเอิญ หรือ ชะตาฟ้ากำหนด?
ลมปราณของนางก่อกวนให้อี่ทงฮวงบอบช้ำภายใน
แต่ทำลายหัวใจของอี่ทงฮวงไม่ได้
คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตจริง ๆ
อาเฉ่าที่อยู่ข้างกายฉุ่ยยี้กล่าวขึ้น
“อาการฉุ่ยยี้เกรงว่าต้องถ่ายพลังให้แล้ว...”
ความหมายนี้เท่ากับหากต้องการรักษาชีวิตฉุ่ยยี้ ต้องให้คนใดคนหนึ่งถ่ายทอดกำลังภายในรักษา กรุยทางชีพจร และใช้ลมปราณสายแข็งผลักดันเข็มบินทั้งสิบแปดเล่มออกมาจากร่างกายของนาง จึงจะอาการทุเลา
ยื่อต๊อผงกศรีษะ ไม่กล่าวกระไร
ฉับพลัน คมดาบโค้งในมือยื่อต๊อเปล่งประกายวาววับขึ้นวูบหนึ่ง
อาเฉ่าตะลึงลาน
อี่ทงฮวงก็ตะลึงลาน
แต่ที่ตะลึงลานที่สุดกลับเป็น...ฉุ่ยยี้
แววตาของนางคล้ายไม่เชื่อ...ไม่เชื่อว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับนาง
มีแต่ยื่อต๊อที่ไม่ตะลึงลาน เพราะมันเป็นคนลงมือ
คมดาบโค้งสะบั้นหลอดลมของฉุ่ยยี้ขาดในพริบตา
ฉุ่ยยี้ถึงกับตายอย่างไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน
ตายตาไม่หลับ!
อี่ทงฮวงถอนหายใจ ยืนมองด้วยสายตาเวทนา
“อันที่จริง ขอเพียงท่านคนใดคนหนึ่ง ถ่ายทอดพลังขับเข็มบินออกจากร่างกายของฉุ่ยยี้โก้วเนี้ย ก็จะรักษาชีวิตของนางไว้ได้แล้ว เพียงแต่นางจะสิ้นสูญพลังฝีมือเท่านั้น”
อี่ทงฮวงยังคงเป็นอี่ทงฮวง ที่ให้โอกาสผู้คนเสมอ
แม้ตนถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต ก็ยังให้โอกาสแก่คนผู้นั้น
เพราะอี่ทงฮวงเชื่อมั่นว่า คนเลวทรามชั่วช้าหาใช่จากสันดานไม่
เป็นที่สภาวะแวดล้อม ความจำเป็น การสอนสั่งชี้นำที่ทำให้คนผู้หนึ่งกลายเป็นคนเลว
หากได้รับการโอกาสและการชี้แนะที่ถูกต้อง
ย่อมสามารถวางดาบประหารชีวิต เดินสู่เส้นทางธรรมะได้
อี่ทงฮวงเพียงต้องการดึงความสนใจให้คนหนึ่งพัวพันช่วยเหลือฉุ่ยยี้
เพื่อให้เหลืออีกหนึ่งคนที่ประมือได้ เพื่อหาช่องทางหลบหนีได้
แต่อี่ทงฮวงคิดผิด คนเลวทรามชั่วช้าที่มาจากสันดานดิบด้านมืด
กลับมีตัวตนอยู่จริง และยื่อต๊อคือคนผู้นั้น
อี่ทงฮวงพบว่า ชายร่างแคระนี้ไม่เพียงเลวทรามชั่วช้า
แต่ยังฉลาดล้ำลึกย้อนแย้งจากรูปกายมันอย่างแท้จริง
ในเกียอุ้ยนึ้ง ด้านสติปัญญาไช้ตื้อเซ้งเป็นอันดับหนึ่ง แต่อันดับสองคือยื่อต๊อ
ที่ยื่อต๊อเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม เหนือกว่าไช้ตื้อเซ้ง มีเพียงประการเดียว
ความอำมหิต!
ยือต๊อชมชอบฆ่าคน ชมชอบทำร้ายผู้คน
ชมชอบทรมานผู้คนก่อนตาย
อาจเพราะมันถูกทำร้ายตั้งแต่วัยเยาว์
อาจเพราะผู้คนดูถูกดูแคลนมันแต่วัยเยาว์
เพาะบ่มคนผู้หนึ่งเป็นอสูรร้ายบนแดนดิน
ยื่อต๊อ
ยื่อต๊อแสยะยิ้มกล่าวขึ้น
“เราทราบแต่แรกว่าเข็มบินของเจ้าทั้งสิบแปดเล่มมิใช่เอาชีวิต เจ้าคิดให้เราคนหนึ่งปลีกตัวช่วยเหลือนาง เพื่อให้เจ้ามีหนทางป้องกันและหลบหนีง่ายขึ้น น่าเสียดาย เราประเมินแผนเจ้าออก”
อี่ทงฮวงรู้สึกท้อแท้ขึ้นวูบหนึ่ง ยามนี้เริ่มรู้สึกหน้ามืดตาลายอีกครั้ง
ถึงกับโลหิตไหลมาจุกที่ลำคอแล้ว แต่อี่ทงฮวงกล้ำกลืนไว้
อี่ทงฮวงซัดเข็มบินอีกครั้ง
เข็มบินอีกสี่สิบเก้าเล่มถูกซัดออกไป พร้อมกับเข็มบินผกผันโค้งงออีกสิบแปดเล่ม
ยื่อต๊ออดประหลาดใจมิได้ที่เห็นอี่ทงฮวงยังคงใช้ลวดลายเดิมจู่โจมพวกตน
ยามนี้เปลี่ยนท่าร่างหันหลังชนกับอาเฉ่า มันตวัดฝ่ามือกวัดแกว่งดาบโค้งสองเล่ม
ปัดป้องเข็มบิน
เช่นเดียวกับอาเฉ่าที่ใช้ดาบหัวตัดเล่มใหญ่ขวางหน้าตัวเอง หมุนควงปัดป้อง
เข็มบินทั้งสี่สิบเก้าเล่ม และเข็มบินผกผันไม่สามารถทำร้ายทั้งสองได้
อาเฉ่า
“ฉึกกกกกก”
เสียงคมอาวุธดังขึ้นอย่างไร้ทิศทาง
หอกสองคมของอี่ทงฮวงถูกปักตรึงอยู่กลางกระหม่อมของอาเฉ่า
คมดาบฝังมิดเข้าไปถึงด้าม
โลหิตไหลรินเป็นทางย้อมร่างของอาเฉ่าเป็นสีแดง...แดงด้วยโลหิต!
ยังมิทันได้ป้องกัน อาเฉ่าก็จบชีวิตแล้ว
แม้มันเองก็ต้องพกพาความประหลาดใจนี้ไปสู่ยมโลกด้วย
ยื่อต๊อตะลึงลานครึ่งค่อนวันแล้ว!
ที่แท้อี่ทงฮวงดำเนินอุบายจริงเท็จ ซัดเข็มบินทั้งหมดออกไป ยื่อต๊อที่มีนิสัยรักตัวเองย่อมต้องย้ายร่างไปอยู่ด้านหลังอาเฉ่า ทางหนึ่งเพื่อให้อาเฉ่ารับคมอาวุธแทน อีกทางหนึ่งระวังด้านหลังของตนเอง
อาเฉ่าที่ฝีมือเป็นรองกว่ายื่อต๊อ ทุ่มเทความสนใจไปที่เข็มบินทั้งหมด สมาธิแน่วแน่ป้องกัน ไม่ทันพบเห็นว่าในกระบวนท่าซัดเข็มบิน อี่ทงฮวงลอบซัดหอกสองคมขึ้นสู่ฟากฟ้าอันมืดมิด
หอกสองคมทะยานขึ้นไปหายลับในความมืด กระทั่งหมดแรงส่งจึงพุ่งกลับลงมาด้วย
ความเร็วสุดแสน
ตำแหน่งที่ตกลงมาถูกคำนวณเป็นมั่นเหมาะ
ถึงกับปักใส่กลางกะโหลกศรีษะของอาเฉ่า
ยื่อต๊อที่หายตะลึงลาน กวาดตามากลับไม่พบเห็นอี่ทงฮวงอีกต่อไป
ใบหน้าของยื่อต๊อเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น ดวงตาทอแววอำมหิต
“อี่ทงฮวง ลวดลายเจ้าร้ายกาจนัก เราจะให้เจ้าชดใช้อย่างสาสม...”
จบคำ ยื่อต๊อใช้ใบหูอันใหญ่โตของมันรับฟัง
“แม้เจ้าหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว เราก็ตามหาเจ้าจนพบ”
ร่างกายสาดพุ่งออกไปในทันที
โปรดติดตามตอนต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา