17 ก.พ. 2020 เวลา 11:35 • หนังสือ
#12 เล่ม 1 บทที่ 1 หน้า 76 ~ 81
...
N : หยุดตรงนี้ให้ผมหายใจหายคอซักครู่ได้มั๊ยครับ? พระองค์พูดว่า ไม่มีคำว่า "ควร" กับ "ไม่ควร" ในโลกของพระเจ้าใช่หรือเปล่า?
G : ใช่
N : เป็นแบบนั้นได้ยังไงครับ ถ้าในโลกของพระองค์ไม่มี แล้วมันไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
G : นั่นสิ อยู่ไหน...?
N : ผมขอทวนคำถามนะครับ คำว่า "ควร" กับ "ไม่ควร" ปรากฏขึ้นได้ยังไงถ้ามันไม่มีในโลกของพระเจ้า?
G : *ในจินตนาการของเธอ*
N : แต่ว่าผู้คนที่สอนผมมาทั้งหมดเรื่องความถูก-ผิด สิ่งที่ทำได้-ทำไม่ได้ สิ่งที่ควร-ไม่ควร
ทุกคนบอกว่ากฏทุกข้อมาจากพระองค์...
มาจากพระเจ้านะครับ
G : ถ้าอย่างนั้นพวกที่สอนเธอก็ผิดแล้วล่ะ
ฉันไม่เคยบัญญัติ "ถูก" กับ "ผิด" หรือ "ทำได้" กับ "ทำไม่ได้" หรอกนะ
การทำอย่างนั้นก็เหมือนไปจำกัดเธอไว้จาก`ของกำนัลยิ่งใหญ่`
ซึ่งก็คือ "โอกาสในการทำตามที่เธอพอใจและมีประสบการณ์ถึงผลลัพธ์"
"จำกัดโอกาสในการสร้างสรรค์ตัวเธอขึ้นใหม่ตามจินตภาพและฉายาลักษณ์ของตัวตนที่แท้จริงของเธอ"
"จำกัดโอกาสสำหรับผลิตความจริงที่สูงส่งยิ่งขึ้นของตัวเธอซึ่งมีที่มาจากความคิดอันสง่างามที่สุดของเธอต่อสิ่งที่เธอสามารถเป็นได้"
การบอกว่าความคิด ถ้อยคำ หรือการกระทำใดๆเป็นสิ่ง "ผิด" ก็เท่ากับห้ามไม่ให้เธอทำสิ่งนั้น
การบอกไม่ให้เธอทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็คือ "การสั่งห้าม"
"การห้ามเธอคือการจำกัดตัวเธอ"
1
การจำกัดสิทธิของเธอหมายถึง "การปฏิเสธความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ"
1
และยังเป็น "การปฏิเสธโอกาสในการสร้างและมีประสบการณ์ถึงความจริงนั้นของเธอด้วย"
1
หลายคนบอกว่า "ฉันได้มอบเจตจำนงเสรีแก่เธอ"
แต่คนกลุ่มเดียวกันนี้กลับอ้างว่า ถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉันเธอจะต้องตกนรก
เจตจำนงเสรีอะไรแบบนั้น?
นี่ไม่ใช่การหยามหยันพระเจ้าหรอกหรือ?
ยังไม่ต้องพูดเลยว่ามันได้บอกถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเราบ้างหรือเปล่า
N : ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่เรื่องที่ผมอยากจะคุย มันเกี่ยวกับเรื่อง "สวรรค์และนรก" เท่าที่ผมฟังมานะครับ ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่านรกเลย
G: "มีนรก"
แต่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก
และเธอก็จะไม่มีประสบการณ์ถึงมันด้วยเหตุผลแบบที่พวกเขาบอกเธอด้วย
N : นรกคืออะไรครับ?
G : คือประสบการณ์ของผลลัพธ์เลวร้ายที่สุด
ที่เป็นไปได้จาก "การเลือก" "การตัดสินใจ" และ
"การสร้างสรรค์" ของเธอ
2
เป็นผลสืบเนื่องตามธรรมชาติของความคิดใดก็ตามที่ปฏิเสธฉัน
หรือปฏิเสธตัวตนที่เธอเป็นในความสัมพันธ์กับฉัน
คือความเจ็บปวดที่เธอต้องทนทุกข์เนื่องจากการคิดผิด
แต่จะบอกว่า "คิดผิด" ก็ไม่ถูกเท่าไหร่เพราะไม่มีอะไรที่ผิด
"นรก" ตรงข้ามกับความเบิกบาน
1
`มันคือการไม่เต็ม`
`คือการรู้ว่าเธอคือใครและคืออะไร
แต่ไม่อาจมีประสบการณ์ถึง`
`คือการมีอยู่อย่างพร่อง`
นั่นล่ะนรก
และไม่มีอะไรจะร้ายแรงสำหรับวิญญาณเธอไปกว่านี้อีกแล้ว
ทว่านรกไม่ได้มีอยู่เยี่ยง`สถานที่`ตามจินตนาการของเธอ ที่ซึ่งเธอจะถูกไฟร้อนแผดเผาชั่วกัปกัลป์หรือถูกทอดทิ้งชั่วนิรันดร์หรอก
*ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?*
แม้ฉันจะมี `ความคิดอันแสนจะไม่เป็นพระเจ้า`
ว่าเธอไม่ "สมควร" แก่สวรรค์
แต่ทำไมฉันถึงต้องหาวิธีแก้แค้นหรือลงโทษในความผิดพลาดของเธอด้วยเล่า?
ไม่ง่ายกว่าหรือถ้าฉันจะทำลายเธอทิ้งไปเลย
ส่วนเสี้ยวอันโหดร้ายใดของฉันที่ทำให้ต้องเลือกทัณฑ์ทรมานเหนือคำบรรยายชั่วนิจนิรันดร์อย่างนั้นกับเธอ?
หากเธอตอบว่าเพื่อความยุติธรรม
แล้วแค่ปฏิเสธไม่ให้เข้าแผ่นดินสวรรค์อยู่ร่วมกับฉันยังไม่ยุติธรรมพอหรืออย่างไร?
การลงทัณฑ์ตลอดกาลจำเป็นด้วยหรือ?
ฉันจะบอกเธอให้ว่าไม่มีประสบการณ์หลังความตายแบบที่พวกเธอสร้างขึ้นตามทฤษฎีเทววิทยาที่เกิดจาก "ความกลัวของพวกเธอเอง" หรอก
ทว่ายังมีประสบการณ์ของดวงวิญญาณที่ไร้สุข
วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์พร่องไม่เต็ม
วิญญาณซึ่งพรากจากความเบิกบานล้นพ้นของพระเจ้าเสียจนนั่นแหละคือนรกสำหรับวิญญาณเธอ
แต่ขอบอกว่าฉัน "ไม่ได้ส่งเธอไปที่นั่น"
และก็ "ไม่ได้เป็นคนทำให้ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นกับเธอด้วย"
เธอ...ตัวเธอต่างหากที่สร้างประสบการณ์นี้ขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่เธอแยกตัวเอง`จากความคิดสูงสุด`ที่มีต่อตัวเอง
เธอ...เธอนั่นแหละสร้างประสบการณ์นี้ขึ้น
ขณะ`ปฏิเสธตัวเอง`และเพิกถอนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
แม้แต่ประสบการณ์นี้ก็ไม่ได้ยาวนานชั่วนิรันดร์
`มันเป็นอย่างนั้นไปไม่ได้` เพราะไม่ใช่แผนการของฉันที่จะให้เธอพรากจากไปตลอดกาล
*ที่จริงแล้วเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ*
เพราะการจะเป็นอย่างนั้นได้ไม่เพียงแต่เธอจะต้องปฏิเสธตัวตนที่เธอเป็นเท่านั้นนะ
ฉันเองก็ต้องทำแบบเดียวกันด้วย
*ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฉันจะไม่มีวันทำ*
ตราบใดที่เราคนใดคนหนึ่งยังยึดมั่นความจริงแห่งตัวเธออยู่
ความจริงนั้นย่อมจะชนะวันยังค่ำ
N : ถ้าไม่มีนรก ก็หมายความว่าผมสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ผมต้องการ ทำตามใจปรารถนา ทำความชั่วได้โดยไม่ต้องกลัวโทษทัณฑ์?
G : ต้องใช้ "ความกลัว" ใช่ไหม เธอถึงจะ `เป็น` `ทำ` หรือ มีสิ่งที่ถูกต้องดีงามในตัวเองน่ะ?
เธอต้องถูกข่มขู่ด้วยหรือเพื่อที่จะเป็นคนดี?
อะไรเล่าคือคนดี?
ใครคือคนชี้ขาดเรื่องนี้?
ใครเป็นคนขีดแนวทาง?
ใครกำหนดกฎเกณฑ์?
ฉันขอบอกเธอว่า...
"เธอนั่นแหละเป็นคนสร้างกฎให้ตัวเอง"
2
"เธอวางแนวทางและตัดสินว่าเธอทำดีแค่ไหนแล้วและกำลังทำดีขนาดไหนอยู่"
เพราะ "เธอคือคนเดียวที่จะตัดสินว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร"
1
หรือ "ตัวตนแบบไหนที่เธออยากจะเป็น"
มีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะประเมินได้ว่าเธอกำลังทำได้ดีเพียงใด
1
"ไม่มีใครพิพากษาเธอหรอก"
1
เพราะพระเจ้าจะพิพากษาสิ่งที่ตัวเองรังสรรค์ขึ้นว่าเลวได้อย่างไรและเพื่ออะไร?
1
หากฉันต้องการให้เธอทำทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์แบบละก็
ฉันคงจะละเธอไว้ในสภาพสมบูรณ์อย่างสิ้นเชิงซึ่งเป็นที่ที่เธอจากมาไปแล้ว
จุดใหญ่ใจความทั้งหมดของกระบวนการนี้ก็เพื่อให้เธอ :
`ได้ค้นพบตัวเอง`
`สร้างสรรค์ตัวเองขึ้นตามที่เธอเป็น`
และ `ที่ปรารถนาจะเป็นอย่างแท้จริง`
แต่เธอไม่อาจเป็นสิ่งนั้นได้จนกว่าเธอจะมีตัวเลือกในการเป็นสิ่งอื่นด้วย
เหตุนั้นฉันจึงควรลงโทษที่เธอได้เลือกตัวเลือกซึ่งฉันเป็นคนจัดวางไว้ให้อย่างนั้นหรือ?
ถ้าฉันไม่อยากให้เธอเลือกตัวเลือกที่สองแล้วทำไมฉันถึงสร้างตัวเลือกที่นอกเหนือจากอันแรกขึ้นมาด้วยเล่า?
นี่คือ "คำถามที่เธอควรถามตัวเอง" ก่อนจะออกมาบอกว่าฉันคือพระเจ้าแห่งการลงทัณฑ์
คำตอบที่ตรงที่สุดต่อคำถามของเธอก็คือ `ใช่`
เธออาจทำตามที่ปรารถนาได้โดยไม่ต้องกลัวโทษทัณฑ์
แต่จะเป็นประโยชน์ต่อเธอเองถ้าจะตระหนักถึง
*ผลสืบเนื่องที่จะตามมา*
1
ผลสืบเนื่อง ก็คือ "ผลลัพธ์"
เป็นผลที่ปรากฏขึ้นตามธรรมชาติ
ต่างจากการลงโทษหรือเวรกรรมตามสนอง
1
"ผลลัพธ์" คือ `สิ่งที่เป็นเช่นนั้นเอง`
คือ `ผลที่เป็นไปตามกฏธรรมชาติ`
คือ `สิ่งที่บังเกิดขึ้นในฐานะผลสืบเนื่องจากสิ่งที่ได้เกิดไปแล้ว` และมักจะทำนายได้
ทุกชีวิตทางกายภาพล้วนดำเนินไปตามกฏธรรมชาติ
เมื่อเธอ "จดจำกฏเหล่านี้และนำไปปฏิบัติ"
เธอก็จะเป็นนายของชีวิตในระดับกายภาพ
สิ่งที่ดูเหมือนการลงโทษสำหรับเธอ (หรืออะไรที่เธอเรียกว่าความชั่วร้ายหรือโชคร้าย) ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการทำงานของ `กฏธรรมชาติ`
N : แล้วถ้าหาก *ผมรู้จักกฏพวกนี้และทำตาม* มันล่ะ ผมจะไม่มีช่วงเวลาที่ประสบปัญหาเลยใช่มั๊ยครับ พระองค์กำลังบอกอย่างนี้ใช่มั๊ย?
G : เธอจะไม่มีวันมีประสบการณ์ว่าตัวเองตกอยู่ในสิ่งที่เธอเรียกว่าปัญหาเลย
เธอจะไม่มองสถานการณ์ชีวิตใดๆว่าเป็นปัญหาและจะไม่เผชิญสถานการณ์ต่างๆด้วยความสั่นสะทก
เธอจะ`ยุติ`ทุกความหวั่นวิตก สงสัย และหวาดกลัว
และจะมีชีวิตอย่างที่เธอจินตนาการว่าอดัมกับอีฟได้ใช้ชีวิต ไม่ใช่ในแบบที่เป็นวิญญาณปราศจากร่างในโลกสัมบูรณ์นะ แต่เป็นวิญญาณที่มีกายสังขารในโลกสัมพัทธ์
และเธอ `จะมีอิสระทุกๆอย่าง`
1
`มีความเบิกบานทั้งหมด`
`ความสงบสุขทั้งมวล`
และ `สติปัญญาทั้งหลาย`
"มีความเข้าใจถึงพลังอำนาจของวิญญาณ
ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเป็น"
1
เธอจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตระหนักรู้อย่างเต็มเปี่ยม*
2
[*ถ้าจำกฏธรรมชาติได้และทำตาม ~ แอดมิน]
นี่เองคือ "เป้าหมายของดวงวิญญาณเธอ"
นี่คือ "จุดประสงค์ของมัน"
คือ "การตระหนักรู้เต็มเปี่ยมในตนขณะสถิตอยู่ในกาย" เพื่อจะเป็นรูปธรรมทางกายภาพของทั้งหมดที่เป็น
นี่คือ `แผนการของฉันสำหรับเธอ`
นี่คือ `อุดมคติของฉัน`
อุดมคติที่ว่าฉันควรได้รับการตระหนักรู้ผ่านตัวเธอ
ดังนี้เองที่ *ความคิดจะเปลี่ยนเป็นประสบการณ์*
*เพื่อฉันจะได้รู้จักตัวเองเชิงประสบการณ์*
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา