18 ก.พ. 2020 เวลา 05:43 • ธุรกิจ
Winter is Coming !! (เมื่อฤดูหนาวเข้ามาเยือน)
กลยุทธ์ “หมีจำศีล” หรือ “กบจำศีล” แบบไหน เหมาะกับธุรกิจคุณ ?
โดย Savvy Investor (แซฟวี่ อินเวสเตอร์)
“Slow Life แต่ไม่ Slow Rich”
The Winter is coming!!! ฤดูหนาวกำลังเข้ามาเยือน
( อารมณ์คล้ายๆตอนเริ่มต้นของเรื่อง Game of Thrones ที่ฤดูหนาวคือความน่ากลัวครับ 555 )
พายุหิมะใกล้เข้ามา อาหารล้วนหายากขึ้น สัตว์น้อยใหญ่ล้มตาย แต่ก็มีสัตว์บางชนิด ที่สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการ “จำศีล” (Hybernation = ไฮเบอเนชั่น)
แล้วเมื่อเราเจอ วิกฤติเศรษฐกิจ มาพร้อมโรคระบาดล่ะ จะเอาตัวรอดอย่างไร!?! เราจะ จำศีล บ้างได้ไหม?
Winter is coming !!
The Winter is coming!!! ฤดูหนาวกำลังเข้ามาเยือน
ทั้ง กบและหมี ต่างตุนอาหาร และพลังงานไว้ในร่างกาย ให้อยู่ในรูปไขมัน เพื่อเผชิญกับฤดูหนาวที่ยาวนาน ระหว่างที่จำศีลนั้น ร่างกายใช้พลังงานน้อยมาก อุณหภูมิในร่างกาย ก็จะต่ำลง หัวใจก็เต้นช้าลง เพื่อใข้พลังงานให้น้อยที่สุด เพื่อผ่านฤดูหนาวไปได้
หมีน้อยจำศีล (Animal Hybernation )
สิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือ กบขุดหลุมลงไปใต้ดินโคลน ลึกลงไปเป็นโพรงเหลือช่องไว้หายใจเพียงเล็กน้อย และจะจำศีลยาวๆ จนผ่านฤดูหนาวและแล้งไป จนเข้าหน้าฝน เมื่อมีน้ำมาหล่อเลี้ยง จึงตื่นขึ้นมา
ส่วนหมี จะหลับไม่นานเท่ากับกบ และพร้อมจะตื่นทุกเมื่อ (ตื่นง่ายกว่ากบมาก) เมื่อมีใครมา รบกวน หรือ กำลังมีศัตรูเข้ามาทำร้าย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะร่างกายหมีอาจเก็บสะสมพลังงานได้มากกว่ากบ จึงทำให้ ไม่ต้องเข้าโหมด Hybernation หรือจำศีล นานๆ
ลูกหมีน่ารัก
ในสภาวะอันบีบคั้น ณ. ปัจจุบัน การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะรับรู้ ถึงผลกระทบได้เร็วมาก (เริ่มจากใน Social Media ก่อนเลย 555)เพราะว่า ปัจจัยลบ เข้ามามากมาย กระหน่ำซ้ำเติม ราวกับ มาตามนัด...
ผมเห็นหลายธุรกิจ ปิดตัว ลงอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น รถยนต์เชฟโรแลต ของบริษัท GM ที่เพิ่งประกาศปิดโรงงาน สิ้นปีนี้ สดๆร้อนๆ, โรงแรมบางแห่งที่รับแต่ทัวร์จีนเป็นหลัก ปิดกิจการ หรือ ให้พนักงาน หยุดโดยไม่จ่ายเงิน (leave without pay) ตั้งแต่ 15 วัน ถึง 3 เดือน หรือไม่ก็เชิญ พนักงานออกเอาดื้อๆ ซึ่งก็น่าเห็นใจพวกเขาเหล่านั้น
1
ผมเห็น บางท่านทำงานให้กับองค์กร มานับสิบปี สร้างรายได้มาด้วยกันไม่รู้เท่าไหร่ พอมีเหตุการณ์ไวรัส Covid19 ทำให้ นทท. หายไป ทำให้ องค์กรนั้นเริ่มขาดรายได้ไม่ถึง 1 เดือน ท่านผู้บริหารก็เริ่มดำเนินมาตรการอันหนักหน่วงทันที โดยไม่ส่งสัญญาณก่อนล่วงหน้าที่นานมากพอให้ พนักงานเตรียมตัวเตรียมใจ ( ณ. ตอนนี้ เราจะเห็นกันว่า ใครเป็นใคร อย่างไร หรือ งานประจำมั่นคงจริงไหม ก็คราวนี้แหละ 555 )
1
เพื่อไม่ให้ บริษัทคุณ หรือกิจการ ของคุณต้องทำสิ่งที่ไม่ควรทำ กับพนักงาน ที่เคยช่วยคุณสร้างธุรกิจร่วมกันมา และยังสามารถรักษาองค์กรไว้ได้ คุณในฐานะผู้นำ หรือผู้บริหารองค์กร จึงควรเร่งวิเคราะห์สถานการณ์ และประเมินผลกระทบ ที่มีต่อองค์กรของคุณให้รอบคอบและรวดเร็ว เพื่อที่จะได้กำหนดมาตรการ จากเบาไปหนัก เพื่อลดผลกระทบ ต่อทุกชีวิตในองค์กร รวมถึงตัวคุณเองด้วย ให้เหลือน้อยที่สุด และที่สำคัญ ให้ทุกคนมีเวลาเตรียมตัว
2
ก่อนอื่น ต้องวิเคราะห์ 2 ด้านเป็นหลักว่า องค์กรของคุณ จะได้รับผลกระทบเชิงลบ จากวิกฤติ นี้ จะ “สั้นหรือยาวนาน” และ ผลกระทบ “หนัก หรือ เบา” โดยแบ่งเป็น 4 Scenarios ดังนี้ (แต่หากใครได้ผลกระทบ เชิง บวก แบบประมาณว่า วิกฤติของเพื่อน คือโอกาสของเรา ก็ดีใจด้วยครับ 555 มีนะครับ ธุรกิจที่กำไรมากขึ้น ยอดขายโตขึ้น เมื่อเกิดวิกฤติการณ์ อยากรู้ตามไปอ่านใน ลงทุนแมน ได้ครับ )
2
1. ผลกระทบ “เบา” และ “สั้น” : แบบนี้ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ครับ คุณไม่จำเป็นต้อง “จำศีล” ใดๆ เพียงแค่พยายามให้ลดต้นทุน จากการดำเนินงานด้านต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการลดเงินเดือนบุคลากร เพื่อรักษาขวัญกำลังใจทีมงานไว้ครับ
2. ผลกระทบ “เบา” และ “ยาว” : คุณไม่จำเป็นต้อง “จำศีล” ใดๆ เช่นกัน แต่คุณต้องสื่อสาร และกำหนดเป้าหมาย อย่างเป็นรูปธรรม ถึงการเพิ่มรายได้ เพื่อชดเชยในส่วนที่หายไป และลดรายจ่าย อย่างมีนัยยะสำคัญ ตามเงื่อนเวลาที่คุณกำหนด แต่ทุกอย่าง ค่อยเป็นค่อยไปครับ
3. ผลกระทบ “หนัก” และ “สั้น” : คุณควรใช้ กลยุทธ์ แบบ “หมีจำศีล” คือลดค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว (คล้ายๆการลดการใช้พลังงานระหว่างหมีจำศีล แต่พร้อมจะตื่นได้ทุกเมื่อ) แต่ต้องไม่กระทบต่อศักยภาพ หรือ กำลังการผลิต ในระยะกลางถึงยาว (ส่วนใหญ่คือบุคคลากร) นั่นคือ ต้องพร้อมจะกลับมาลุย อีกครั้งก่อนใคร เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เช่นระหว่างวิกฤติ แทนที่จะให้ ลูกน้องหยุดงานแบบไม่จ่ายเงินเดือน แต่ควร ส่งพวกเขาไปอบรม เพิ่มความรู้ ความสามารถ ในระหว่างวิกฤติ ในช่วงสั้นๆ เมื่อพายุฝนผ่านพ้นไป เราก็จะได้พร้อมตื่นมาสู้ต่อและเป็นฝ่ายรุก ได้ทันที ครับ (ในขณะที่ คู่แข่ง อาจจะปลดพนักงานออกมากมาย เมื่อจะกลับมาเริ่มต้นใหม่จึงช้าและยากกว่าครับ) ซึ่งยังทำให้เราได้ใจลูกน้องด้วยครับ และหากคุณทำตรงกันข้ามแบบเกินกว่าเหตุ เช่นให้พนักงาน Leave without Pay ในช่วงวิกฤติ มากเกินไป แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่พอ วิกฤติเศรษฐกิจนั้นหายไป องค์การคุณ จะเจอวิกฤติศรัทธา แทน เพราะทุกคนจะขาดความมั่นใจ และขาด “ใจ” ที่จะมุ่งมั่นไปพร้อมกับองค์กร และ(พนักงานดีๆ)พร้อมจากไปยามเศรษฐกิจดี คราวนี้แหละ “วิกฤติของจริง” (ที่เกิดกับคุณคนเดียว ) กำลังมาเยือน
3
มีตัวอย่างตลกร้ายรื่องหนึ่งครับ
มี CEO ท่านหนึ่ง กล่าวไว้ เมื่อมีคนมาถามว่า “ ท่านCEO ครับ การส่งพนักงานไปอบรมเยอะๆ ท่านไม่กลัวว่า เมื่ออบรมเสร็จแล้ว เขามีความรู้มากขึ้นแล้ว แล้วพนักงานเหล่านั้นจะลาออกหรอครับ?”
1
CEO ท่านนั้น เลยตอบกลับไปว่า “แล้วถ้าผมไม่ส่งให้เขาไปเรียนให้ฉลาดขึ้น เก่งขึ้น แต่เขาเหล่านั้นยังอยู่กับองค์กรล่ะ ? จะเกิดอะไรขึ้น? (แปลไทยเป็นไทยว่า ถ้าลูกน้องยังไม่ฉลาด ไม่เก่ง แล้ว ยังอยู่กับองค์กรล่ะ เขาจะสร้างความ “ฉิบหาย” ให้กับองค์กร ขนาดไหน !?! )
4. ผลกระทบ “หนัก” และ “ยาว” : คุณควรใช้ กลยุทธ์ “กบจำศีล” คือเตรียมตัวเผชิญหน้าหนาวที่ยาวนาน กล่าวคือ ต้องเร่งลดต้นทุนทุกส่วน (รวมถึงต้นทุนด้านบุคลากรด้วย) และ เร่งสื่อสารกับทีมงาน ว่า วิกฤติแบบนี้ น่าจะ “ยาวนาน” และ “รุนแรง” อันนี้นอกจากพยายามลดต้นทุน ทุกขั้นตอนงองการดำเนินธุรกิจ รวมถึงบุคคลด้วย สิ่งสำคัญคือ ต้องสื่อสารกับทีมงานถึงสภาวะความเป็นจริง เพิ่อให้พนักงานส่วนใหญ่เข้าใจ และเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ทันแต่เนิ่นๆครับ อย่างน้อย ทุกคนสามารถว่างแผนชีวิตได้ ไม่เดือดร้อนเกินไป และองค์กร ก็อาจจะต้องจำศีล ยาวๆไป ทำกิจกรรมน้อยลง เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่ได้ในช่วงมรสุมที่ยาวนาน นาทีนี้ อาจจะต้องพิจารณา “ยอมตัดหนวด หรือตัดนิ้วเพื่อรักษาชีวิต” ครับ
และหากถึงที่สุดแล้ว แม้องค์กรจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ก็ขอให้คิดถึง เรื่องสามก๊ก ในตอน ก่อนขงเบ้งจะตาย จริงๆ ขงเบ้งยังคำนึงถึง ความอยู่รอดปลอดภัยของลูกน้องส่วนใหญ่ ขงเบ้งได้สร้างอุบาย หลอกสุมาอี้ เพื่อรักษาไพร่พล ทหารก๊กของตัวเองให้ ถอนทัพกลับเข้าดินแดนของตน อย่างปลอดภัย โดยนำหุ่นตัวเองขึ้นรถบัญชาการ หลอกให้สุมาอี เข้าใจว่าเป็นกลลวง จนทำให้ สุมาอี้ ถอยทัพหนีแทบไม่ทัน จึงมารู้ที่หลังว่า ขงเบ้งตายจริงๆ เมื่อทัพ จ๊กก๊ก ของขงเบ้ง หนีไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว ( ทำให้ สุมาอี้ ถึงกลับกล่าวชื่นชม ว่า “ ขงเบ้ง นั้นฉลาดมาก ขนาดตายไปแล้ว ยังสามารถ สร้างกลลวงข้าได้” )
สุดท้ายนี้ วิกฤติ คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยส่วนตัว เชื่อว่า...
“อะไรที่ฆ่าเราไม่ตาย ล้วนทำให้เรา แข็งแรงขึ้นครับ “
“ หาเงินได้ แค่เป็นเรื่องสนุก ชีวิตยังอยู่ได้ใช้เงินคือชัยชนะ …
… ยศศักดิ์​ตำแหน่ง​แค่ชั่วครู่​ชั่วคราว สุขภาพดีนั่นแหละคือจุดหมาย …
ดังนั้น การเอาตัวเอง ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงให้รอด ชีวิตยังอยู่ได้ ก็ถือเป็นชัยชนะแล้วครับ ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ
*** ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ รบกวนช่วยกด Like กด ติดตาม และแชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
โฆษณา