1 มี.ค. 2020 เวลา 06:09 • ประวัติศาสตร์
“การสังหารแม่อยู่หัวท้าวศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาธิราช” กับ บทวิเคราะห์เหตุการณ์ เกิดขึ้นที่ใด บริเวณใด ในปัจจุบัน?
ภาพจำลอง การประหาร ภาพจากเว็บ mthai.com
’เจาะเวลาหาอดีต’ พาท่านผู้อ่านย้อนไปเจาะแผนการลับสุดยอดของเหล่าขุนนางกระทำการรัฐประหารครั้งสำคัญบนประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แผนร่วมมือสังหารแม่อยู่หัวท้าวศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาธิราช เพื่อให้พระเฑียรราชาขึ้นครองราชสมบัติ
หากจะย้อนไปดูมูลเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์สำคัญในครั้งนี้แล้ว ต้องย้อนไปช่วงที่สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าทรงเสด็จสวรรคต ตามกฏมณเฑียรบาลผู้ที่ได้สิทธิ์ครองราชย์ คือ พระยอดฟ้าพระชนม์ 11 พรรษา และ พระศรีสินพระชนม์ 5 พรรษา โอรสทั้งสองในสมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าและแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
เมื่อได้ถวายพระเพลิงพระไชยราชาธิราชเจ้า ฝ่ายพระเฑียรราชาซึ่งเป็นเชื้อสายพระวงศ์เห็นว่ากลัวจะมีภัยบังเกิดแก่ตนเอง จึงสละจากฆราวาสเข้าสู่พระพุทธศาสนา อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อให้พ้นจากอุปัทวันตราย ณ วัดราชประดิษฐาน
วัดราชประดิษฐาน อยุธยา
พระราชสำนักประชุมเชิญ พระยอดฟ้า เสด็จขึ้นครองราชย์สืบศรีสุริยวงศ์กรุงศรีอยุธยาต่อจากพระราชบิดา ซึ่งพระชนม์เพียง 11 พรรษา โดยมีแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์พระชนนีช่วยประคองราชการแผ่นดิน
ไม่นานจากนั้นแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เสด็จประพาส ณ หอพระที่นั่งพิมานรัตยา ได้ทอดพระเนตรเห็นพันบุตรศรีเทพผู้เฝ้าหอพระ จึงสั่งสาวใช้ให้เอาเมี่ยงห่อเช็ดหน้าไปพระราชทานให้พันบุตรศรีเทพ พันบุตรศรีเทพจึงส่งดอกจำปาให้สาวใช้ไปถวายแก่ท้าวศรีสุดาจันทร์
ท้าวศรีสุดาจันทร์ได้สั่งให้ พญาราชภักดี นำพันบุตรศรีเทพเปลี่ยนมารับตำแหน่งขุนชินราชเข้าไปรักษาหอพระข้างใน แล้วทั้งคู่ก็ร่วมรักสมัครสังวาสกันมาช้านาน
+(ขยายความ)+
2
**ขุนวรวงศาธิราชเกิดในตระกูลอำมาตย์ หรือพราหมณ์ ตำแหน่งเป็น พันบุตรศรีเทพ ผู้เฝ้าหอพระข้างหน้า มีหน้าที่เป็นผู้กระทำพิธีการต่าง ๆ**
(ในบันทึกของเจอเรมิส วันวลิต อธิบายลักษณะว่าเหมือนหมอผี) รวมถึงขับเสภากล่อมสมเด็จพระไชยราชาธิราช ให้บรรทมด้วย จึงสามารถเข้านอกออกในเขตพระราชฐานได้ ต่อมานางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ได้ให้พระยาราชภักดีเลื่อนพันบุตรศรีเทพเป็น ขุนชินราช (ในคำให้การชาวกรุงเก่าเรียกว่า ขุนเชียรราช) ผู้รักษาหอพระข้างใน ส่วนขุนชินราชคนเดิมให้ไปเป็นพันบุตรศรีเทพ
จากนั้นไม่นานท้าวศรีสุดาจันทร์ก็มีครรภ์กับขุนชินราช จึงเกิดดำริจะตั้งให้ขุนชินราชขึ้นเป็นขุนวรวงศาธิราชเจ้า และคิดการถึงขั้นจะให้ว่าการเป็นพระเจ้าแผ่นดิน โดยอ้างเหตุผลพระยอดฟ้าที่ยังเล็กและไม่สามารถว่าราชการแผ่นดินได้
2
ท้าวศรีสุดาจันทร์ได้ปรึกษากับเหล่าเสนบดีภายใน ก็ไม่มีใครกล้าขัดพระทัยเพราะกลัวถูกพระอาญาหรือถูกลอบสังหาร ดั่งพญามหาเสนาทำการเตือนเรื่องขุนชินราชจนถูกฆ่าตาย
เมื่อไม่มีผู้ใดกล้าขัดใจจึงออกคำสั่งให้ออกไปรับขุนวรวงศาธิราชเจ้า มาพระราชพิธีราชาภิเษก ยกขุนวรวงศาธิราชเจ้าขึ้นเป็นเจ้าพิภพกรุงศรีอโยธยา
***บางตำราจะไม่นับขุนวรวงศาเป็นพระมหากษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา แต่หากอิงตามพระราชพงศาวดารแล้ว ได้ปรากฏหลักฐาน ว่าขุนวรวงศาธิราชได้ผ่านพระราชพิธีราชาภิเษกแล้ว***
1
ต่อมาขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดินกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ คิดปรึกษากันให้นำพระยอดฟ้าไปสำเร็จโทษเสีย ณ วัดโคกพญา และเลี้ยงไว้แต่พระศรีสินน้องชายที่ยังเล็กอยู่เท่านั้น พระยอดฟ้าจึงอยู่ในราชสมบัติเพียงแค่ หนึ่งปีกับสองเดือน
3
ภาพจากภาพยนตร์ เรื่อง สุริโยทัย
เหตุการที่เกิดขึ้นทำให้ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพทั้งยังมีขุนอินทรเทพเชื้อพระวงศ์เดียวกัน หมื่นราชเสน่หาและหลวงศรียศ ปรึกษากันในที่ลับ หากจะปล่อยให้แผ่นดินเป็นทุรยศแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ จึงคิดแผนการจับตัวขุนวรวงศามาประหารชีวิต โดยปรึกษากันว่าหากกระทำการสำเร็จจะให้พระเฑียรราชาขึ้นปกครองประชาราษฏรสืบไป
ขุนพิเรนทรเทพ ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ จึงไปเข้าเฝ้าปรึกษาพระเฑียรราชาซึ่งเป็นภิกษุอยู่วัดราชประดิษฐาน ว่าข้าพเจ้าทั้งสี่คิดจะทำการจับตัวขุนวรวงศาฆ่าเสีย แล้วจะเชิญพระเฑียรราชาลาผนวชขึ้นครองราชสมบัติเห็นด้วยประการใด ฝ่ายพระเฑียรราชาก็เห็นด้วย
วัดป่าแก้วเดิมก็คือ วัดวรเชษฐ์อยู่กลางทุ่งประเชด
จึงได้ทำการเสี่ยงอธิษฐานเทียนต่อหน้าพระพุทธรูป ณ อุโบสถ วัดป่าแก้ว ซึ่งขุนพิเรนทรเทพไม่เห็นด้วยกับการเสี่ยงเทียนแต่ก็ขัดพระเฑียรราชามิได้
เมื่อจุดเทียนแล้วปรากฏว่าเทียนของขุนวรวงศาธิราชยาวกว่า ขุนพิเรนทรเทพจึงโกรธว่าห้ามแล้ว ยังขืนทำอีก แล้วคายชานหมากทิ้ง บังเอิญไปถูกเทียนขุนวรวงศาธิราชดับลง ทั้ง 5 คนจึงยินดีอย่างยิ่ง ขณะนั้นมีพระภิกษุลึกลับเข้ามาในอุโบสถ ให้พรว่าที่ปรารถนานั้นจะสำเร็จแน่ ออกจากอุโบสถก็หายตัวไป
1
ภาพจากภาพยนตร์ เรื่อง สุริโยทัย
ต่อมากรมการเมืองลพบุรีแจ้งราชสำนักว่าพบช้างมงคล (ช้างเผือก) ในเช้าตรู่วันต่อมาขุนวรวงศาธิราช แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ พระราชโอรส และพระศรีสิน จึงทรงเสด็จทางชลมาส พระราชดำเนินไปทางคลองสระบัว เพื่อไปทรงคล้องช้างเผือก
ขุนพิเรนทรเทพกับพวกได้จัดกองเรือออกสกัด เข้าจับขุนวรวงศาธิราช แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และพระราชโอรส ฆ่าเสียทั้งหมด เอาศพไปเสียบประจานไว้ ณ วัดแร้ง เว้นชีวิตไว้แต่พระศรีสิน แล้วเข้ายึดพระราชวัง ให้ส่งเรือพระที่นั่งชัยสุพรรณหงส์ไปรับพระเทียรราชาซึ่งลาสิกขาบทแล้วมาราชาภิเษกเป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า ครองกรุงศรีอยุธยาแทน
3
• วิเคราะห์ตามแผนการ •
ค่ำก่อนวันสังหารขุนพิเรนทรเทพ สั่งการให้หมื่นราชเสน่หาออกไปซุ่มที่ท่าเสือ คอยทำร้ายพระมหาอุปราชาน้องชายของขุนวรวงศา ขณะขี่ช้างไปเพนียด
5
ขุนพิเรนทรเทพ ยังได้สั่ง หมื่นราชเสน่หา หากพบกับ พญาพิชัย และพญาสวรรคโลก ให้บอกแผนการไปโดยความลับ เมื่อทั้งสองทราบถึงแผนการก็ดีใจรีบเดินทางมาสมทบช่วยเหลือ
ขุนพิเรนทรเทพและพวกดักซุ่มที่คลองบางปลาหมอ ครั้นหมื่นราชเสน่หาสำเร็จกิจปลิดชีพมหาอุปราชาด้วยปืน ก็รีบเดินทางมาสมทบกับขุนพิเรนทรเทพ วางแผนปิดล้อม ขบวนเรือราชพิธีที่กำลังจะมาถึงเช้าตรู่นี้ โดยมีพระราชพงศาวดารบันทึกไว้ว่า
4
ภาพจากเฟสบุ๊คเพจ กรุงเทพทราวดีศรีอยุธยา
“ …ครั้นเช้าตรู่ ขุนวรวงศาธิราชกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ แลราชบุตรซึ่งเกิดด้วยกันนั้น ทั้งพระศรีสินก็ลงเรือพระที่นั่งลำเดียวกันมาตรงคลองสระบัว ขุนอิทรเทพก็ตามประจำมา ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพ พญาพิชัย พญาสวรรคโลก หลวงศรียศ หมื่นราขเสน่หา ครั้นเห็นเรือพระที่นั่งก็ออกสกัด ฝ่ายขุนอินทรเทพเร่งฝีพายกระหนาบเรือที่นั่ง แล้วช่วยกันกลุ่มรุมจับขุนวรวงศาธิราชกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์แลบุตรซึ่งเกิดด้วยกันนั้นฆ่าเสีย แล้วให้เอาไปเสียบประจานไว้ ณ วัดแร้ง…”
20
ภาพโคก วัดแร้ง บริเวณที่สันนิษฐาน ว่าเป็นที่เสียบประจานพระศพ ตามพงศาสดาร
เส้นทางคลองบางปลาหมอคือบริเวณที่กลุ่มขุนพิเรนทรเทพดักซุ่ม และรอให้เรือราชพิธีเคลื่อนผ่านมาบนคลองสระบัว โดยมีเรือของขุนอินทรเทพสะกดรอยตามท้ายขบวนเรือพระราชพิธี อยู่ห่างๆ
แผนที่วัดเก่าในอยุธยาโดยมติชน มีการระบุว่าคลองบางปลาหมอ สามารถเชื่อมมาคลองสระบัวได้
วัดเจ้าย่า ภาพจาก go.ayudtthaya.go.th
หากวิเคราะห์เส้นทางจุดลอบสังการที่เกิดขึ้นในบริเวณใด ศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ได้ให้ความเห็นว่า มูลเหตุที่สันนิษฐานว่า บริเวณวัดเจ้าย่า น่าจะเป็นจุดที่ดักจับและสังหารเกิดขึ้น เพราะบริเวณนี้ไม่มีจุดเชื่อมคลองและแยก
ภาพคลองสระบัว บริเวณ วัดเจ้าย่า
หากเลยจากจุดนี้ไปจะพบกับคลองแยกที่สามารถไปเชื่อมอีกหลายสาย เป็นการยากในการตีเรือขนาบหน้าหลัง ซึ่งมีโอกาสพลาดทำให้ขบวนเรือราชพิธีหลบหนีไปได้
และเมื่อภาจกิจลุล่วงก็นำพระศพของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศามาเสียบประจาน ณ วัดแร้ง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเจ้าย่าไม่มากนัก
3
ศาลบริเวณโคก วัดแร้ง จุดเสียบประจาน
🙏กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ❤️
ขอบคุณข้อมูลจากชาแนลช่อง:Faiththaistory
และท่านสามารถติดตามชม
ยูทูป ช่อง :Faiththaistory ที่ลงสำรวจพื้นที่จริงได้นะครับ
อ้างอิง:
หนังสือพระราชพงศาวดารอยุธยา เล่ม 1 ฉบับ พระจักรพรรดิพงศ์ (จาด)
โฆษณา