2 มี.ค. 2020 เวลา 12:08 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภูมิใจเสนอ นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเพจ MovieTalk
“เงาวายุ” บทที่ 14
ความเดิม
ไช้ตื้อเซ้งกลับขึ้นไปบนชั้นแปดของหอคอยมังกรฟ้า และสั่งการให้งั่งเจงทำทุกวิถีทางเพื่อให้อ๋องเอี๊ยยอมเปิดประตูคลังมังกร งั่งเจงจึงจำเป็นต้องใช้วิชาลับเพื่อสยบจิตอันแข็งแกร่งของอ๋องเอี๊ย ซึ่งเริ่มสั่นคลอนแล้ว
ขณะเดียวกันอี่ทงฮวงที่หลบหนีมาได้ แต่ก็ถูกยื่อต๊อติดตามได้อย่างไม่ลดละ โดยอี่ทงฮวงไม่รู้ว่ามีผุ่นละอองนำทางร่องรอยของตนเองไปทุก ๆ ที่
“เงาวายุ” บทที่ 14 พันธมิตร ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทย
อี่ทงฮวงตระเตรียมจะทรุดลงโคจรพลังลมปราณที่เริ่มไม่ปะติดปะต่อ แต่แล้วก็สัมผัสได้ถึงพลังกดดันแผ่พุ่งตรงมาทางนี้ ต้องลอบครุ่นคิดในใจ
“ประหลาดแท้ ทำไมมันถึงค้นพบอุโมงค์ลับรวดเร็วปานนี้ มิหนำซ้ำมันสามารถล่วงรู้ได้อย่างไร?”
ขณะครุ่นคิด สัมผัสได้ถึงพลังกดดันที่มุ่งใกล้เข้ามา อี่ทงฮวงจำต้องหยัดกายลุกขึ้น วิ่งตะลึงร่างอย่างเหนื่อยล้า และเต็มฝืน
อี่ทงฮวงวิ่งปราดมาถึงทางแยกอุโมงค์แบ่งเป็นสี่สาย ตนเองหยุดยืนครุ่นคิดชั่วครู่ แต่แล้วก็กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง อี่ทงฮวงจึงรีบสกัดจุดบนทรงวงอกและท้องน้อย แรงกดทำให้จี้หยกสตรีเปลือยที่พกติดตัวไว้ตกลงพื้น
อี่ทงฮวง
ทันทีที่จี้หยกกระทบพื้น ฝุ่นละอองก็ฟุ้งกระจายออกมาจากตัวจี้หยก ปรากฏประกายวาววับชั่วครู่
อี่ทงฮวงหยิบจี้หยกขึ้นมาเขย่าดู ปรากฏได้ยินเสียงกระพรวนดังแว่วเบาบางดังขึ้นจากตัวจี้หยก
“ที่แท้ จี้หยกนี้ซุกซ่อนฝุ่นประกายไว้ และฝังกระพรวนติดตาม เมื่อเคลื่อนไหวมันจึงส่งทั้งเสียงและฝุ่นละออง ด้วยทักษะการใช้หูทิพย์ของยื่อต๊อ ย่อมได้ยินตลอดทางที่เราไป”
ฝุ่นประกายเป็นผงละอองที่มองไม่เห็นกระทั่งกระทบพื้นผ่านไปชั่วครู่ จึงส่องประกายให้เห็น จึงเป็นสาเหตุให้อี่ทงฮวงไม่ทราบนั่นเพราะมันจะส่องประกายภายหลังนั่นเอง
ส่วนกระพรวนที่ฝังในตัวจี้หยกสตรีเปลือย ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทักษะการใช้หูทิพย์ของยื่อต๊อโดยเฉพาะ ดังนั้นไม่ว่ารุดไปทิศทางใด หากพกติดตัวไว้ ต่อให้ไปสุดหล้าฟ้าเขียวยื่อต๊อก็ยังติดตามได้เช่นเดิม
อี่ทงฮวงถอนหายใจ
“ซิงโท่ยท่านช่างร้ายกาจนักแม้กระทั่งวาระสุดท้าย เราอี่ทงฮวงนับว่าเสียทีท่านแล้วจริง ๆ “
อี่ทงฮวงเก็บจี้หยกสตรีเปลือยซุกไว้ที่เข็มขัดอีกครั้ง จำแนกทิศทางแล้วิ่งปราดออกไป
ครั้งนี้อี่ทงฮวงออกมาที่เรือนท้ายตำหนักมังกรฟ้า ตำแหน่งเบื้องหน้าคือคลังเก็บสรรพอาวุธ
อี่ทงฮวงเดินหายเข้าไปในเรือนหลังเล็กที่ก่อสร้างอย่างมั่นคง ผลักประตูแล้วเดินหายเข้าไป
ยื่อต๊อที่ติดตามมาจนถึง เมื่อมุดออกจากอุโมงค์ลับ ก็เพ่งสายตามองหาฝุ่นประกาย และใช้ใบหูอันใหญ่โตเงี่ยหูฟัง
ประกายสีเงินวาววับโปรยปรายหายเข้าไปในเรือนหลังเล็ก
ยื่อต๊อ
ยื่อต๊อฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางครุ่นคิดในใจ
“อี่ทงฮวง เจ้าหลบหนีเข้าไปในเรือนหลังนี้ คิดหรือว่าเราไม่อาจพบ ดี...เราจะใช้เรือนหลังนี้เป็นที่กลบฝังเจ้า”
จบคำสาวเท้าพุ่งปราด ถึงกับถีบประตูจนพังทลายก่อนเข้าไปด้วยความระแวดระวัง
ภายในเรือนกลับมืดมิด เย็นยะเยียบ แทบมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากแสงไฟจากภายนอกที่ส่องเข้ามาตามช่องระบายลม
ฝุ่นประกายส่องประกายวาววับสะท้อนขึ้นจากพื้นอันมืดมิด ประกายแวววับโปรยเป็นทางไปสิ้นสุดที่มุมหนึ่งของห้อง
ฝุ่นประกายหายไปด้านหลังของกองกระสอบใหญ่เรียงสูงจนเกือบจนเพดานห้อง
ยื่อต๊อหยุดฝีเท้า ใช้วิชาหูทิพย์ ได้ยินเสียงกระพรวนดังแว่วมาจากด้านหลังของกองกระสอบใหญ่
ยื่อต๊อไม่กล้าประมาทเลินเล่ออีก ตัดสินใจหยุดรอชั่วครู่ แล้วจึงเอ่ยขึ้น
“อี่ทงฮวง เราทราบว่าเจ้าหลบอยู่ด้านหลังกระสอบใบนั้น คิดให้เราเข้าไปหากระนั้นหรือ? ฮา...เราไม่ตกหลุมพรางของเจ้าเป็นแน่ ทางที่ดีเจ้าออกมารับความตายจากเราเถอะ”
ไม่มีเสียงตอบรับอันใดจากด้านหลังกระสอบที่อี่ทงฮวงซุกซ่อนตัวอยู่
ยื่อต๊อขบกรามด้วยความขุ่นแค้น
“อี่ทงฮวง เจ้าออกมาเถอะ อย่าให้เราต้องเปลืองแรงเข้าไปหาเลย”
ยังคงไม่มีการตอบรับใด ๆ เกิดขึ้น ยื่อต้อเริ่มครุ่นคิดอีกครั้ง
“มันหลบอยู่ด้านหลังไม่ผิดแน่ เราเห็นฝุ่นประกายหายไปด้านหลังกองกระสอบ เสียงกระพรวนก็ดังแว่วอยู่ ขณะนี้มันก็ทราบว่าเรามาถึงแล้ว ยังไม่กังวลสนใจ หรือ มันคิดให้เราอดทนรอไม่ไหว แล้วผลุนผลันเข้ากับดักของมัน...”
“อี่ทงฮวง เราไม่หลงกลเจ้าแล้ว เราจะพาลรอเจ้าอยู่ที่นี่ ดูสิว่าเจ้าจะทำอย่างไร”
จบคำยื่อต๊อเกร็งลมปราณตระเตรียมรอรับการจู่โจมจากอี่ทงฮวง ประสาทของมันเขม็งเครียดพร้อมจะต้านรับและโต้กลับในทุกเมื่อ
แต่ผ่านไปชั่วครึ่งก้านธูป สมองยื่อต๊อพบว่าผิดท่า
“หรือมันจงใจให้เรารั้งรอเพื่อหลอกล่อให้เรารอคอย ระหว่างนี้มันเดินลมปราณรักษาอาการบอบช้ำ...”
“ไม่ผิดแน่...มันถึงไม่ตอบรับเราเพราะมันรักษาตนเองอยู่เป็นแน่”
ยื่อต๊อหัวเราะแล้ว
“อี่ทงฮวง เราเข้าใจแผนการของเจ้าแล้ว เจ้าคิดถ่วงเวลาให้เรารอคอยตรงนี้ รอจนเจ้ารักษาอาการบอบช้ำทุเลา เราทั้งไม่เข้าไปหา และไม่รั้งรอแล้ว”
จบคำโคจรลมปราณรวมไว้ที่สองฝ่ามือ เตรียมใช้พลังสิบส่วนเพื่อฟาดในครั้งเดียว
ชั่วพริบตาที่ยื่อต๊อสะบัดฝ่ามือทะลักลมปราณทั้งหมดออกไปเพื่อทำลายกองกระสอบไปพร้อมกับอี่ทงฮวง
กำลังภายในมหาศาลไหลทะลักออกไป
พริบตาชั่วเสี้ยววินาทีเดียวกัน เข็มบินเล่มหนึ่งพุ่งผ่านความมืดจากช่องลมด้านข้าง
ปลายเข็มบินมีเปลวไฟพวยพุ่ง ดูไปคล้ายหิ่งห้อยตัวน้อยในความมืดมิด
เข็มบินปลายติดไฟพุ่งไปที่กองกระสอบนั้น
ทันทีที่เข็มปักที่กระสอบ ประกายไฟก็พวยพุ่งขึ้น พร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้อง
หลังคาของเรือนหลังนั้นพังทลายลงมา
อี่ทงฮวง
เงาร่างสายหนึ่งยืนอยู่บนหลังคาของเรือนหลังใหญ่ ที่เห็นคือหลังคาของเรือนหลังเล็กยุบตัวลงทั้งหมดพร้อมกับเปลวไฟพวยพุ่ง
เป็นอี่ทงฮวงนั่นเอง
“ยื่อต๊อ เป็นท่านประมาทเกินไป ท่านมั่นใจในหูทิพย์และฝุ่นประกายของท่านเกินไป ท่านคาดว่าเราไม่อาจล่วงรู้เรื่องจี้หยก และท่านก็ประมาทที่ไม่ใช้จมูกสูดดมกลิ่ม ถึงกับไม่รู้ว่ากระสอบเหล่านั้นบรรจุดินปืนไว้”
อี่ทงฮวงเบนสายตาไปที่เบื้องหน้า
หอคอยมังกรฟ้าอยู่ตรงเบื้องหน้าอี่ทงฮวงแล้ว
อี่ทงฮวงพลิ้วลงแตะพื้น เดินสาวเท้ามาหยุดที่เทวรูปหวังต้าเซียนที่ด้านหน้า
อี่ทงฮวงขยับกระถางธูป ปรากฏอุโมงค์ลับสายหนึ่งขึ้นที่ฐานของเทวรูป
อี่ทงฮวงเดินหายเข้าไป และรีบสาวเท้าเดิน อุโมงค์เส้นนี้ทิศทางกลับแตกต่างจากเส้นอื่นตรงที่กลายเป็นทางลาดขึ้น
เมื่อเดินสุดทางมีบันไดให้ไต่สูงขึ้นไปข้างบน
อี่ทงฮวงกัดฟันปีนบันไดนั้นขึ้นไปจนสุด ดึงสลักกลไกออก
เมื่ออกมาจากอุโมงค์เป็นห้องมืดมิด มืดมิดขนาดยื่นมือออกไปก็ยังไม่เห็น
อี่ทงฮวงหยิบพหูโอสถทิพย์ขึ้นมารับประทาน พร้อมกับโคจรลมปราณทั่วร่าง
พหูโอสถมีสรรพคุณครอบจักรวาล ใช้รักษาอาการบอบช้าให้ทุเลาเร็วกว่าปกติด ทั้งยังสามารถเพิ่มพูนลมปราณที่สูญเสียไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังป้องกันพิษร้ายนานาชนิด แต่ไม่สามารถทานเกินสองเม็ดต่อหนึ่งวันได้ นี่คือเม็ดที่สองแล้ว
สีหน้าของอี่ทงฮวงซีดเซียว ซีดเซียวดุจเช่นกระดาษขาว
แต่ตลอดร่างกายของอี่ทงฮวงเกิดเป็นไอเย็นขึ้นห่อหุ้มอี่ทงฮวงไว้ภายใน
ทั่วร่างมีมวลไอเย็นห่อหุ้มปกคลุมร่างของอี่ทงฮวงไว้
อี่ทงฮวงกำลังรักษาอาการบอบช้ำของตนเอง และฟื้นฟูลมปราณ
....
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นแว่วมาถึงที่หอคอยมังกรฟ้า
ไช้ตื้อเซ้ง
ไช้ตื้อเซ้งผุดลุกขึ้น สีหน้าปรากฏแววกังวลขึ้นวูบหนึ่ง ในใจคล้ายมีเค้าลางเลวร้ายขึ้น พลางครุ่นคิดขึ้น
“เสียงระเบิดดังมาจากด้านหลังของหอคอย...”
พลางกวาดตาดูโดยรอบ ระดับลิ่วล้อของเกียอุ้ยนึ้งเหลืออีกเพียงสิบนายเท่านั้น หากสั่งการให้ออกไปตรวจสอบก็จะทำให้การคุมเชิงที่นี่อ่อนกำลังลง มิสู้ตั้งรับศึกที่จะมาถึงจะดีกว่า
ไช้ตื้อเซ้งคืนสู่ความสงบนิ่งอีกครั้ง ถึงกับทรุดกายนั่นลงที่บัลลังก์เช่นเดิม
มั้วเง็กที่อยู่ในกลุ่มก็ได้ยินเสียง อดปรากฏแววประหวั่นใจไม่ได้เช่นกัน
ที่นางไม่อาจรับรู้คือ อี่ทงฮวงเป็นตายร้ายดีเช่นไร
มั้วเง็ก
แต่ในใจมั้วเง็กกลับมีประกายแสงแห่งความหวัง
จนถึงบัดนี้ยังไม่มีเบาะแสใดยืนยันว่าอี่ทงฮวงพลาดท่าเสียที
มั้วเง็กเชื่อมั่นในอี่ทงฮวง
ในสถานการณ์คับขัน อี่ทงฮวงยังคงเอาตัวรอดได้เสมอ
เป็นเช่นนั้นเสมอ
เพราะนี่คืออี่ทงฮวงที่มั้วเง็กชื่นชมและเชื่อมั่น
โปรดติดตามตอนต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา