Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BookDojo
•
ติดตาม
10 มี.ค. 2020 เวลา 01:04 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตสู่ฟองคลื่น การต่อสู้อำนาจมืดที่แลกด้วยชีวิต
(บทความสดุดีท่าน คณากร เพียรชนะ)
หลังได้อ่านจดหมายฉบับล่าสุดของท่าน รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ที่คนๆหนึ่งได้ปลิดชีพของตนเพื่อความเชื่อที่ตนยึดถือ เป็นความกล้าหาญเกินประมาณ เหมือนคลื่นสูงที่ซัดเข้าฝั่งในวันคลื่นลมแรงที่คนมีชีวิตน้อยคนนักจะสร้างคลื่นลมเช่นนี้ได้
mthai
คลื่นนี้ดันกระทบข้าพเจ้าเข้าอย่างจังจนเราไม่อยากให้เพียงแค่กระทบฝั่งแล้วจางหายไป เราต้องเขียนอะไรบางอย่างเพื่อสร้างคลื่นลูกเล็กๆต่อไป
ในประวัติศาสตร์มีผู้ที่สละชีพเพื่อความเชื่อและเป้าหมายในชีวิตอยู่หลายท่าน ในห้วงคิดสุดท้ายท่านเหล่านี้คงได้เห็นความฝันที่กลายเป็นความจริงในห้วงเล็กๆของเวลา
11 มิถุนายน พ.ศ.2506
ภายใต้รัฐบาลของโง ดินห์ เดียม ที่นับถือศาสนาคริสต์ได้กดขี่ชาวพุทธโดยห้ามประดับธงสัญลักษณ์ของชาวพุทธในวันวิสาขบูชา นำมาซึ่งการประท้วง ส่งผลให้ชาวพุทธถูกกราดยิงเสียชีวิต 9 ราย
พระสงฆ์ 300 รูป นำโดยภิกษุติ๊ก กวง ดึ๊ก ได้เดินขบวนบนท้องถนนภายใต้การสอดส่องโดยเจ้าหน้าที่รัฐตลอดเวลา
กลางถนนท่านติ๊ก กวง ดึ๊กได้นั่งขัดสมาธิอย่างสงบ ให้ภิกษุอีกท่านราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา
ทางการพยายามเข้าไปดับไฟ แต่ภิกษุหลายรูปขวางรถดับเพลิงไว้ บางท่านนอนให้รถทับ
ท่านติ๊ก กวง ดึ๊ก นั่งอย่างสงบภายใต้กองเพลิงที่ลุกโชนคล้ายท่านกำลังเข้าฌานสมาธิที่แก่กล้า เวลาผ่านไป ร่างกายท่านหงิกงอ ไหม้เกรียม เป็นเถ้าถ่าน
wikipedia
การกระทำของท่านส่งผลกระทบให้เกิดแรงกดดันจากนานาชาติจนประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียมต้องปฏิรูปประเทศใหม่และสัญญาว่าจะไม่กดขี่อีก ผลกลับตรงกันข้าม รัฐบาลได้ทำการกดขี่ชาวพุทธหนักกว่าเดิม นำมาซึ่งการปฏิวัติโดยทหาร และจบลงด้วยการเสียชีวิตของประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียมในที่สุด
ท่านเขียนจดหมายไว้ก่อนที่จะจุดไฟเผาตนเองว่า
"ก่อนที่อาตมาจะหลับตาลง และมุ่งสู่เส้นทางของพระพุทธองค์ อาตมาวิงวอนท่านโง ดินห์เดียมด้วยความเคารพให้เห็นอกเห็นใจผู้คนในชาติและทำให้เกิดความเสมอภาคทางศาสนาเพื่อรักษาความมั่นคงของบ้านเกิดเมืองนอนสืบต่อไป อาตมาขอเชิญชวนผู้เคารพนับถือ คณะสงฆ์และฆราวาสชาวพุทธให้รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นเพื่อเสียสละเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา"
ท่านเป็นเหมือนคลื่นใหญ่ที่แผ่ไปทั้งประเทศจนข้ามฝั่งมหาสมุทรไปยังประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดีแห่งสหรัฐอเมริกา
"no news picture in history has generated so much emotion around the world as that one."
1 กันยายน พ.ศ.2533
สืบ นาคะเสถียร เป็นคนจังหวัดปราจีนบุรี ครอบครัวดี คุณพ่อเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด สืบเป็นลูกคนกลาง เรียนดี เวลาว่างช่วยที่บ้านทำนา
สืบจบปริญญาตรีและโท สาขาวนศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้รับราชการที่กรมป่าไม้ หลังจากนั้นมีโอกาสเรียนต่ออนุรักษวิทยาที่ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาทำงานอนุรักษ์สัตว์ป่า และได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก
หลังจากทำงานอยู่หลายปีได้ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์แต่ไม่ได้ไป ท่านตัดสินใจมาเป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ปัญหาเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สนใจการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า ชาวบ้านสนใจแต่ปากท้อง ผู้มีอิทธิพลเข้าไปตัดไม้และล่าสัตว์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกยิงเสียชีวิต
สืบ นาคะเสถียรได้ผันตัวจากนักวิชาการเป็นนักอนุรักษ์ ทุกครั้งที่ขึ้นพูดจะเริ่มด้วยคำว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า”
สืบ นาคะเสถียร เพียรพูดร้องตะโกนเพื่อสัตว์ป่า แต่ไม่มีใครได้ยินและตอบรับ
ท่านได้จบชีวิตของตัวเองลง วันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2533 ถัดจากนั้นสองสัปดาห์การประชุมข้าราชการเรื่องการอนุรักษ์ห้วยขาแข้งได้เกิดขึ้น ห่างจากบริเวณที่ท่านได้ยิงตัวตายเพียงไม่กี่เมตร
ประชาชนได้ยินเสียงเหล่านั้น เหมือนคลื่นที่กระทบฝั่ง ประชาชนพร้อมใจให้คลื่นนั้นไม่หายไปและยังซัดกระทบฝั่งอยู่จนทุกวันนี้
"หนึ่งคนตาย ล้านคนตื่น"
7 มี.ค. พ.ศ.2563
คณากร เพียรชนะ หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ไม่ได้ทำงาน ย้ายไปอยู่ที่บ้านพักจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่จัดแจงซ่อมแซมบ้านให้ภรรยาและลูกเรียบร้อยแล้ว ลูกปิดเทอมพอดีก็น่าจะถึงเวลาของเขาแล้ว เขาได้ยิงตัวตาย กระสุนตัดขั้วหัวใจ
เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
จำเลยทั้งห้ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้ในคดีก่อเหตุอาชญากรรมที่ถูกโยงไปถึงเรื่องความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ เขาเห็นอย่างนั้น
คำตัดสินได้ร่างเสร็จแล้วและเห็นว่าควรยกฟ้อง แต่ด้วยรัฐธรรมนูญใหม่ อธิบดีผู้พิพากษาภาคสามารถอ่านคำพิพากษาของเขาก่อน และได้มีเอกสารลับส่งมาให้แก้ไขคำตัดสินจากยกฟ้องเป็นผิดจริง โทษที่ผู้ต้องหาจะได้รับรุนแรงถึงการประหารชีวิต โดยมีผลต่อจำเลยทั้งสามคน และขณะที่อีกสองคนโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต
เหตุใดอธิบดีถึงส่งมาเป็นเอกสารลับ ไม่ส่งความเห็นแย้งแนบมากับสำนวนตามปกติ ทำไมถึงตัดสินโทษสูงสุดกับหลักฐานที่ไม่ชัดเจน และในเอกสารลับยังแสดงท่าทีว่าจะเอาเรื่องถ้าไม่ทำตาม เขารับไม่ได้
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก
ย้อนกลับไปอีก 7 เดือน ช่วงมีนาคม ปีที่แล้ว มีกรณีทหารยิงชาวบ้านเสียชีวิตบริเวณด่านตรวจ โดยตัวผู้ตายไม่ได้มีอาวุธ เขาเห็นว่าคดีนี้เกิดจากการทะเลาะวิวาทและพลั้งมือฆ่าโดยทหาร ครั้งนั้นอธิบดีแย้งว่าให้ลดโทษทหารด้วยเหตุผลว่า "ให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย"
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2562 นายคณากร เพียรชนะ ได้อ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งห้าคน อ่านเอกสาร 25 หน้าที่ได้ตระเตรียมมา ลุกขึ้น หันหลัง และยิงตัวเอง
สววรค์ยังไม่พรากชีวิตเขาไป คลื่นลมก่อตัวในฉับพลัน คลื่นนี้กลับแตกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งยกย่องท่านเป็นผู้กล้าหาญผู้เปิดโปงความจริงและความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมไทย อีกกลุ่มหนึ่งมองเป็นเรื่องการเมือง ต้องการดิสเครดิตศาล จัดฉาก ตั้งใจยิงแฉลบ และมีความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
ถ้ามองด้วยใจอย่างเป็นกลาง ผู้ที่กระทำเพื่อหวังผลทางการเมืองที่ควรก่นด่าสาปแช่งคือพวกที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง กระทำไม่สนผิดชอบชั่วดีเพื่อให้มาซึ่งอำนาจและเงินทอง
ผู้ที่กระทำเพื่อหวังผลทางการเมืองด้วยจิตใจที่แน่วแน่และอุดมการณ์ที่เด็ดเดี่ยว เพียงเพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรม เพื่อให้การตัดสินตอบสนองเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องประชาชน ผู้ที่ยอมสละสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับคนๆหนึ่ง นั่นคือ'ชีวิต'
เขาสมควรแล้วหรือที่ถูกคำปรามาท ประณาม มาดร้าย ด้อยค่าต่างๆนานาจากผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง หรือความเชื่อทางศาสนา
พระไพรวัลย์ วรวณโณ ได้พูดถึงเรื่องนี้ตอนหนึ่งไว้ว่า
"...เข้าวัดถ่ายรูปนั่งสมาธิ ไม่ได้หมายความว่าจะใจสูง สละชีพเพื่อผดุงความถูกต้องเป็นธรรม ไม่ได้หมายความว่าจะใจต่ำ
พระพุทธองค์ตรัสไว้ชัดว่า องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต แปลความว่า นรชน เมื่อเล็งเห็นประโยชน์สูงสุด พึงสละทั้งอวัยวะ ทั้งทรัพย์ และแม้แต่ชีวิต เพื่อรักษาธรรม"
คลื่นลมแรงครั้งนี้ได้ถูกตอกย้ำอีกครั้งจากความตายของมนุษย์ผู้หนึ่ง ข้าพเจ้าได้เพียงภาวนาให้คลื่นลมนี้ไม่เพียงแต่กระทบฝั่งแล้วจางหายไปตามวันเวลา แต่จะถูกฝากฝังร่องรอยไว้ตามโขดหิน และจะถูกตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหินทุกก้อนเกลี้ยงเกลา พวกเราคือคลื่นเล็กๆเหล่านั้น
1
ผู้กล้าที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ถูกกดดันจากอำนาจมืด ความอัดอั้นตันใจกัดกินเข้าไปถึงจิตวิญญาณ ผู้กล้าจึงนำชีวิตของตนแปรเปลี่ยนเป็นสารที่แจ่มชัด
สารที่เปรียบดั่งคลื่นใหญ่ที่ทิ้งฟองคลื่นไว้ในหัวใจของใครหลายคน ทั้งการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพในการนับถือศาสนา การต่อสู้เพื่อป่าไม้และสัตว์ป่า และ การต่อสู้เพื่อสถาบันศาลและความยุติธรรม
พลังชีวิตของเหล่าผู้กล้าได้กลายเป็นลมที่พัดพาม่านหมอกบังตาสลายมลายสิ้น
flickr
ref
https://www.seub.or.th/seub/biography/seub-story-1/
https://www.posttoday.com/social/general/602692
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Th%C3%ADch_Qu%E1%BA%A3ng_%C4%90%E1%BB%A9c
5 บันทึก
76
5
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
INEQUALITY
5
76
5
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย