Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
•
ติดตาม
25 มี.ค. 2020 เวลา 12:09 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภูมิใจเสนอ นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเพจ MovieTalk
“เงาวายุ” บทที่ 16
ความเดิม
งั่งเจงสามารถทำให้อ๋องเอี้ยบอกวิธีเปิดประตูคลังมังกรได้เป็นผลสำเร็จ พอดีกับไช้ตือเซ้งก็ขึ้นมาข้างบนตามกำหนดนัด เมื่อเปิดออกงั่งเจงต้องเสียทีถูกอี่ทงฮวงที่ซ่อนตัวอยู่ภายในคลังสมบัติสกัดจุดไว้ และในที่สุดนี่คือการเผชิญหน้ากันระหว่างไช้ตื้อเซ้งและอี่ทงฮวง
“เงาวายุ” บทที่ 16 พันธมิตร ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทย
พลังกดดันของทั้งสองคุกคามไปถึงอ๋องเอี๊ยที่นั่งเซื่องซึมอยู่ ยามนี้ถึงกับรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์แล้ว แม้จะเคลื่อนไหวมิได้ แต่อ๋องเอี้ยก็คาดเดาได้ว่า พลังกดดันมาจากในคลังมังกร หนึ่งย่อมเป็นไช้ตื้อเซ้ง อีกหนึ่งย่อมเป็นอี่ทงฮวง
มีแต่อ๋องเอี้ยที่มั่นใจในตัวองครักษ์ของตนเอง
นี่คือความเชื่อมั่นของคนเป็นผู้นำ
อ๋องเอี้ย
....
สายตาของไช้ตื้อเซ้งจับจ้องมองอี่ทงฮวง พบว่าท่าร่างรัดกุมไม่เปิดเผยช่องโหว่ให้โจมตี
อี่ทงฮวงจับจ้องมาที่ไช้ตื้อเซ้ง ท่าร่างสงบนิ่งเยือกเย็น คล้ายไม่ตั้งรับแต่คล้ายยากจู่โจม
เรามองดูท่าน...
ท่านมองดูเรา...
มีแต่รอคอยจังหวะและโอกาส...
โอกาสมาต้องคว้าไว้...
เสียงตวาดดังขึ้น! เงาร่างของทั้งสองทะยานเข้าหากัน แทบจะพร้อมเพรียงกัน เสียงทึบดังขึ้นเมื่อฝ่ามือทั้งสี่ปะทะกันดังกึกก้อง
ใช้ตื้อเซ้งไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมาปะทะ เนื่องจากกังวลต่อผลึกตะวัน และต้องการหยั่งลึกระดับฝีมือของคู่ต่อสู้ ฝ่ามือคู่นี้เพียงใช้พลังห้าส่วนเท่านั้น
สำหรับอี่ทงฮวงคล้ายอ่านใจของไช้ตื้อเซ้งปรุโปร่ง ดังนั้นใช้ห้าส่วนต้านรับเช่นกัน
หลังเสียงทึบผ่านไป อี่ทงฮวงเซถอยหลังสองก้าว ส่วนไช้ตื้อเซ้งถอยหลังหนึ่งก้าว แต่ก็ลอบครุ่นคิดในใจ
“คนผู้นี้ลึกซึ้งยิ่งนัก คิดหลอกล่อเราสู่กับดัก แสร้างใช้พลังไม่เต็มที่รับฝ่ามือหยั่งเชิงเรา”
อี่ทงฮวง
ไช้ตื้อเซ้งเปลี่ยนกระบวนท่าวาดออกด้วยฝ่ามือหัตถ์ดูดชีพ กระแสอากาศรอบข้างคล้ายถูกหมุนวนเข้าหาไช้ตื้อเซ้ง
อี่ทงฮวงลอบร้องผิดท่าในใจ ไม่คิดว่าไช้ตื้อเซ้งจะใช้ท่าไม้ตายในทันทีที่ประมือกระบวนแรก
ยามนี้รู้สึกรอบข้างคล้ายบังเกิดลมหมุนมรสุมดูดเข้าหาไช้ตื้อเซ้ง
ไช้ตื้อเซ้งสะบัดฝ่ามือทั้งคู่ออกเบื้องหน้า บังเกิดลมหมุนวนดูดร่างของอี่ทงฮวงเข้าหาตนเอง
อี่ทงฮวงผนึกลมปราณเกร็งมั่นหยัดยืนปักหลักกับพื้นจนกดฝ่าเท้าจมลึกลงไปในพื้น พยายามฝืนรั้งร่างไว้
ไช้ตื้อเซ้งเห็นอี่ทงฮวงปักหลักมั่นคง จึงเร่งเร้ากำลังภายในอีกระลอกหนึ่ง กระแสลมหมุนพัดวนดูดร่างของอี่ทงฮวงหนักหน่วงยิ่งขึ้น
อี่ทงฮวงแม้จะพยายามฝืนรั้งแต่คล้ายยังถูกฉุดดึงเข้าหา ระยะห่างระหว่างตนกับไช้ตื้อเซ้งเริ่มกระชั้นเข้ามา
ความคิดแว่บขึ้น อี่ทงฮวงตัดสินใจสลายพลังเหนี่ยวรั้งทั้งหมดลง ยามนี้ร่างกายของอี่ทงฮวงลอยละลิ่วตามแรงลมดูดพุ่งเข้าหาไช้ตื้อเซ้ง
บนใบหน้าเฉยชาของไช้ตื้อเซ้งปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก เมื่อเห็นร่างของอี่ทงฮวงถูกพลังฝ่ามือดูดเข้าหาตนเอง
ก่อนที่ร่างของอี่ทงฮวงจะสัมผัสกับฝ่ามือของไช้ตื้อเซ้ง อี่ทงฮวงก็ผนึกลมปราณ ฟาดฝ่ามือขวาออกเต็มแรง ใช้ออกด้วยท่าไม้ตายฝ่ามือประทับรอย
เสียงเปรี้ยงดังขึ้น พร้อมกับร่างของอี่ทงฮวงพลิ้วตัวกลับออกมา
ไช้ตื้อเซ้งซวนเซถอยหลังไปสามก้าว แต่ห่างออกจากจุดเดิมที่ยืนอยู่เมื่อแรก ยามนี้รู้สึกเลือดลมภายในกายปั่นป่วนติดขัด ชั่วครู่จึงทุเลา
ไช้ตื้อเซ้ง
“อี่เฮียร้ายกาจนัก ยอมพาตนเองสู่จุดอับ ฉกฉวยโอกาสนี้คิดฟาดฝ่ามือประทับรอยใส่ข้าพเจ้า เกือบไปแล้ว”
“แต่คงพอสั่นคลอนท่านได้แล้วกระมัง?” อี่ทงฮวงถามขึ้น
ไช้ตื้อเซ้งไม่ตอบ สำหรับตนเองนี่คือพลาดท่าเสียทีจริง ๆ
ก่อนที่อี่ทงฮวงจะทันฟาดฝ่ามือถึงทรวงอกของไช้ตื้อเซ้ง ไช้ตื้อเซ้งกลับดูออก จึงรีบสลายพลังดูดชีพแล้วดีดกายออกด้านหลัง แต่ถึงแม้ฝ่ามืออี่ทงฮวงจะยังไม่ทันสัมผัสก็ตาม แต่ลมปราณก็ทลายออกมาก่อนแล้ว ไช้ตื้อเซ้งคิดถึงยามนี้นับว่าแทบคับขัน หากถอยช้าอีกครึ่งก้าวคงได้รับความบอบช้ำสาหัสแน่
ทางด้านอี่ทงฮวงก็เริ่มหน้าเปลี่ยนสี ซีดขาว นั่นเพราะตนเองก็ถูกดูดกำลังภายในไปหลายส่วน ยามนี้นับว่าสูญเสียพลังไปมิใช่น้อย
อี่ทงฮวงตัดสินใจชิงเป็นฝ่ายจู่โม พุ่งปราดเข้าหาไช้ตื้อเซ้ง พร้อมกับวาดฝ่ามือสะบัดซัดเข็มบินออกไปติด ๆ กัน สิบห้าเล่ม เป็นเข็มยาวสามขนาด
เข็มบินสิบสองนิ้วพุ่งออกมาก่อนคล้ายเป็นหัวขบวน
ตามติดด้วยเข็มบินแปดนิ้วตรงกลาง และเข็มเรียวเล็กหนึ่งนิ้วครึ่งรั้งท้าย
เป็นการซัดเข็มใหญ่นำทางอำพรางเพื่อซ่อนเข็มเล็กไว้ด้านหลัง
อี่ทงฮวงต่อเนื่องด้วยสะบัดฝ่ามือออกด้านข้าง ซัดเข็มบินผกผันออกอีกข้างละห้าเล่ม เข็มบินผกผันเคลื่อนไหวแปรเปลี่ยนผกผัน ไม่อาจจำแนกทิศทางการพุ่งผ่านได้
ไช้ตื้อเซ้งเห็นการจู่โจมครั้งนี้ของอี่ทงฮวง ก็ไม่กล้าขะล่าใจอีก ตวัดฝ่ามือวาดเป็นวงกลม ผลักลมปราณออกไปต้านรับ
กระแสลมปราณหมุนวนเป็นพายุหมุนอีกครั้ง ดูดเอาเข็มบินที่จู่โจมเข้ามาทั้งสิบห้าเล่ม ถึงกับผนึกติดอยู่บนฝ่ามือของไช้ตื้อเซ้งแล้ว
เสียงขวับเควี้ยวดังมาจากรอบทิศทางของไช้ตื้อเซ้ง เงาแปลบปลาบพุ่งวาบเข้าหาร่างของตนอย่างไม่อาจจำแนกทิศทาง
ไช้ตื้อเซ้งเกร็งลมปราณ ผลักกระแทกทั้งสองฝ่ามือออกไปอีกครา เข็มบินทั้งสิบห้าเล่มที่ติดบนฝ่ามือตน พลัดสาดพุ่งเข้าใส่เข็มบินผกผันทั้งสองฝั่ง
คล้ายดั่งไช้ตื้อเซ้งดูออกแต่แรก และคาดคำนวณไว้แล้ว เข็มบินทั้งสิบห้าเล่มปะทะกับเข็มบินผกพันอย่างพอดิบพอดี
ไช้ตื้อเซ้งหันมากล่าวกับอี่ทงฮวง
“เข็มซัดผ่านสายลมของท่านวันนี้ได้รับชมแล้ว นับว่าไม่น่าหวาดหวั่นตามคำร่ำลือ กระทั่งเข็มบินผกผันร้อยเปลี่ยนพันแปรก็ยังไม่น่าเกรงกลัว”
อี่ทงฮวงแย้มยิ้ม “ท่านลองดูที่หัวไหล่ซ้ายเป็นไร”
ไช้ตื้อเซ้งชำเลืองไหล่ซ้ายแว่บหนึ่ง ถึงกับใจสะท้าน เข็มเล็กเล่มหนึ่งปักตรึงที่หัวไหล่ซ้ายของตนเองตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ โชคดีที่เข็มนี้เพียงสะกิดผิวหนังเล็กน้อย จึงไม่อาจสร้างบาดแผลได้ ไช้ตื้อเซ้งดึงเข็มนั้นออก พบว่าเข็มเล่มนี้เรียวบางดุจแผ่นกระดาษ
“ไม่ทราบมาก่อนท่านพกพาเข็มบินชนิดอื่นไว้ด้วย” ไช้ตื้อเซ้งกล่าว
“ท่านทราบหรือไม่ ทำไมข้าพเจ้าถึงมีวิชาเข็มซัดผ่านสายลม?” อี่ทงฮวงย้อนถาม
“เนื่องเพราะท่านใช้เข็มบินเป็นอาวุธ”
“ท่านกล่าวถูกต้องเพียงครึ่งเดียว แท้จริงแล้วเข็มที่ท่านถืออยู่คือที่มาของชื่อเข็มซัดผ่านสายลม นั่นคือชื่อของมัน”
“ข้าพเจ้าเพิ่งกระจ่ายวันนี้เอง” ไช้ตื้อเซ้งผงกศรีษะ
“ชั่วชีวิตข้าพเจ้าไม่เคยใช้เข็มซัดผ่านสายลมแม้แต่ครั้งเดียว ท่านนับเป็นบุคคลแรกที่บังคับให้ข้าพเจ้าต้องใช้”
ไช้ตือเซ้งแย้มยิ้มบ้าง “เช่นนั้นข้าพเจ้าต้องขอบคุณอี่เฮียที่ให้เกียรติสูงส่งเช่นนี้ แต่เมื่อข้าพเจ้าทราบก็ไม่มีทางพลาดเป็นครั้งที่สอง”
“ท่านมั่นใจปานนั้น?” อี่ทงฮวงย้อนถาม
“ขอเชิญอี่เฮียทดสอบได้ตลอดเวลา” ไช้ตื้อเซ้งผายมือเชื้อเชิญ
อี่ทงฮวงไม่กล่าวมากความ สะบัดฝ่ามือออกไปยี่สิบครั้งซ้อน ๆ ทั้งยี่สิบครั้งนี้มีทั้งจริงและเท็จ เพื่อล่อหลอกไช้ตื้อเซ้ง มิให้ทราบจำนวนเข็มที่ซัดออกไปแท้จริงมีกี่เล่ม
ไช้ตื้อเซ้งสาดร่างทะยานเข้าไปในกองอัญมณี ชั่วพริบตาอัญณีจำนวนมากมายก็สาดพุ่งออกมาดุจลมฝนคลุ้มคลั่ง
ประกายอัญมณีแพรวพราวเลื่อมสลับสีกระจ่ายทั่วบริเวณ เปรียบประหนึ่งเสมือนตาข่ายตาแหถี่ยิบ
เสียงเกรียวกราวพร้อมกับอัญมณีเหล่านั้นร่วงหล่นสู่พื่น ไช้ตื้อเซ้งยืนตระหง่านอยู่ด้านหลังของอัญมณีที่ร่วงกองนั้น
อี่ทงฮวงถึงกับตำหนิตนเองที่ประเมินไช้ตื้อเซ้งต่ำทรามเกินไป คนผู้นี้ใช้เวลาชั่วพริบตาก็ค้นพบจุดอ่อนและแก้ทางเข็มซัดผ่านสายลมได้อย่างง่ายดาย นับเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้อย่างแท้จริง
เข็มซัดผ่านสายลมมีขนาดเล็กบางเบาดุจกระดาษ ดังนั้นน้ำหนักของเข็มย่อมเบาบางดุจปุยนุ่น เมื่อไช้ตื้อเซ้งสะบัดซัดฝนอัญมณีออกมา น้ำหนักแต่ละเม็ดไม่ต่างหินก้อนหนึ่ง ดังนั้นเข็มเหล่านั้นเมื่อถูกฝนอัญมณีตกใส่ ย่อมหมดสภาพ ถูกกดลงพื้นทั้งหมด
อี่ทงฮวงเชื่อแล้วว่า เมื่อไม่มีทางใช้ท่าไม้ตายเดิมซ้ำสองกับไช้ตื้อเซ้งได้เด็ดขาด
ไช้ตื้อเซ้งกล่าวบ้าง
“ครานี้ ท่านลองรับทราบวิชาสกัดจุดเจ็ดก้าวดับสูญดูบ้างเป็นไร...”
ยังไม่ทันพูดจบ ร่างก็สาดพุ่งเข้าอี่ทงฮวงดุจสายฟ้า ลงมือครั้งเดียวรวดเร็วฉับไว แต่อี่ทงฮวงยังหลบหลีกการจู่โจมนี้เบี่ยงร่างออกด้านข้าง ท่าร่างไช้ตื้อเซ้งยังไม่ทันสิ้นสุดก็วกกลับมาด้วยท่าฝืนธรรมชาติ ดุจเงาภูติพราย แม้ว่าอี่ทงฮวงจะทะยานพุ่งหนีไปทิศทางใด ก็ไม่สามารถสลัดไช้ตื้อเซ้งได้เลย
ไช้ตื้อเซ้ง
ไช้ตื้อเซ้งงอนิ้วขวาทั้งห้า แล้วดีดพุ่งดรรชนีออกมาห้าสาย นี่กลับเป็นการลงมือที่เหนือความคาดหมายจริง ๆ
อี่ทงฮวงมัวแต่พะวงไม่ให้ร่างของไช้ตื้อเซ้งประชิด จึงไม่ทันระแวดระวัง ดังนั้นยามนี้คล้ายถูกธนูทะลวงใส่ร่าง ทั่วร่าสั่นสะท้านชาวาบ ต้องหยุดฝีเท้าทันที
ไช้ตื้อเซ้งก็หยุดติดตามอี่ทงฮวงเช่นกัน และกล่าวขึ้น
“นับว่าอี่เฮียประมาทเราไปแล้ว วิชาสกัดจุดเจ็ดก้าวดับสูญไม่จำเป็นต้องประชิดตัวเพื่อจี้สกัดจุด สามารถใช้พลังดรรชนีซัดออกตามจุดสำคัญบนร่างกายได้ เวลานี้ท่านเหลืออีกหกก้าวเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวได้”
ไช้ตื้อเซ้งนับไม่ผิดจริง ๆ เมื่ออี่ทงฮวงถูกพลังดรรชนีจู่โจม ก็สาวเท้าออกไปอีกหนึ่งก้าวก่อนหยุดยั้งจริง ๆ
วิชาสกัดจุดเจ็ดก้าวดับสูญ หากผู้ใดที่ถูกจี้จุดและเดินครบเจ็ดก้าว โลหิตในกายจะไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดทันทีในก้าวที่เจ็ด
อี่ทงฮวงไม่กล้าสาวเท้าต่อ ได้แต่ครุ่นคิดในใจ
“ครานี้นับว่าเสียท่าอย่างแท้จริง มีแต่ต้องเดิมพันชีวิตแล้ว”
อี่ทงฮวงตระเตรียมใช้ฝ่ามือประสานร้อยวายุ ดังนั้นจึงกล่าวเชื้อเชิญ
“ไช้เฮีย ข้าพเจ้าจะอย่างไรก็เป็นนักสู้ผู้หนึ่ง ยินยอมตายด้วยฝ่ามือท่าน ยังมีคุณค่ากว่าตกตายด้วยการเดินครบเจ็ดก้าว ไม่ทราบท่านจะสงเคราะห์ได้หรือไม่?”
ไช้ตื้อเซ้งครุ่นคิดชั่วครู่จึงเอ่ยว่า
“ได้...เห็นแก่อี่เฮียเป็นนักสู้ผู้หนึ่ง เราจะให้ท่านรับทราบหัตถ์ดูดชีพอีกครั้ง”
จบคำไช้ตื้อเซ้งโคจรลมปราณรวบรวมไว้ที่ฝ่ามือ แต่มิได้ใช้พลังทั้งหมดด้วยเกรงจะสร้างความเสียหายให้แก่คลังมังกรและผลึกตะวันที่ซุกซ่อนอยู่ภายในนี้ อีกทั้งหัตถ์ดูดชีพโดยปกติเมื่อใช้ออกคือการดูดเข้ามา แต่ครั้งนี้เป็นการผลักออกไป พลังทำลายย่อมรุนแรงกว่า
อี่ทงฮวง
นัยกลับ อี่ทงฮวงคิดแลกชีวิตกับไช้ตื้อเซ้ง ดังนั้นรวบรวมลมปราณถึงสิบส่วนหลอมรวมไว้ที่ฝ่ามือทั้งสอง ตระเตรียมใช้ฝ่ามือประสานร้อยวายุในครั้งเดียว
บรรยากาศรอบข้างตกอยู่ในความตึงเครียด กระแสพลังกดดันคุกคามจนงั่งเจงจ้องถอยหลัง คืบคลานออกมาชมดูด้านข้างประตูแล้ว
เสียงตวาดดังขึ้น พร้อมกับฝ่ามือทั้งสี่ถูกสะบัดออกไปเบื้องหน้า...
โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนอวสาน)
2 บันทึก
19
13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เงาวายุ
2
19
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย