จุดจบของวงจร SUPERCYCLE ได้มาถึงเเล้ว
เเละนั้นคือสิ่งที่พวกเราต้องเจอ
Egon von Greyerz
ทำความรู้จัก Egon von Greyerz
Egon von Greyerz คือผู้ก่อตั้ง เเละผู้บริหารจัดการ
Matterhorn Asset Management (MAM) เเละ GoldSwitzerland ครับ
สิ่งที่น่าสนใจ ที่บังอยากให้ทุกคนได้รู้คือสิ่งที่เขาเคยพูดไว้
เขาคือคนที่ทำนายวิฤติการเงินที่กำลังเกิดอยู่ในตอนนี้ (QE)
ในปี 2002
เขาคือคนที่บอกให้นักลงทุนทุ่มเงิน 50% ของพอร์ทของตนใน Physical Goldอีกด้วย
(ซึ่งตอนนั้นราคาทองคำถูกซื้อขายที่ 300
ดอลล่าร์ทรอยออนซ์ครับ)
THE END OF A GRAND SUPERCYCLE
มีการลงทุนในทรัพย์สินชนิดหนึ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรับรู้
มันเป็นการลงทุนที่ถึงแม้จะมีการเเทรกเเซงของรัฐบาล
แต่มันก็ยังให้ผลตอบเเทนที่มากกว่า ทรัพย์สินอื่น ๆ ในรอบศตวรรษนี้
เเต่มันไม่ใช่การลงทุนนะ
มันคือ Asset ที่จะเอาไว้รักษามูลค่าความมั่งคั่งของเรา
เเละยังไว้ใช้ Hedeg(ประกัน)กับความเสี่ยงต่างๆดังนี้
A failure of the financial system
(ความล้มเหลวของระบบการเงิน)
Central bank debasement of fiat money
( การพยายามลดมูลค่าของเงินFiatโดยธนาคารกลาง)
(เงินกระดาษนั้นเองครับ)
Stock market crashes
(การล่มสลายของตลาดหุ้น)
Credit market failures
(ความล้มเหลวของตลาดเครดิต)
Property bubbles
(ฟองสบู่ทรัพย์สิน)
Collapse of art or other inflated assets like vintage cars
(การล่มสลายของราคาทรัพย์สิน ภาพศิลปะ ของสะสมเเละรถโบราณ)
GOLD (ทองคำ)
ราคาของทองคำขึ้นไปถึง 5 - 6 เท่าตั้งแต่ปี 1999
เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ
เเละมากกว่านี้ในสกุลเงินที่ไม่มีความมั่นคง
เดี่ยวทุกคนมาดูกราฟนี้นะครับ
กราฟนี้คือราคาทองคำเทียบกับสกุลเงินโบลิวาร์ครับ
(Fiat Currency มูลค่าจะลดลงเสมอตามระยะเวลา)
เอาแค่ในช่วงครึ่งศตวรรษหลังมานี้ ราคาก็ขึ้นไปถึง 45..
This asset costs almost nothing to hold
(สินทรัพย์นี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยในการถือครอง)
เเละไม่มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Banking System อีกด้วย
คุณสมบัติของทองคำ
ไม่ต้องมีความเสี่ยงจากคู่สัญญา
ตัวมันไม่เป็นหนี้สินของใคร
Inflation hedge
(ประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ)
Crisis hedge (ประกันความเสี่ยงจากการเกิดวิกฤต)
เป็น Money ที่ยังอยู่รอดมาทุกยุคในประวัติศาสตร์
(ข้อนี้บังชอบมากๆครับ)
มันคือสินทรัพย์ที่มี supply ที่จำกัด
ถ้ามี demand เพิ่มขึ้น
ก็ไม่สามารถเพิ่มปริมาณมาสนองให้ได้เเละมีแต่ดันราคาให้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
THIS ASSET IS A HEDGE AGAINST IRRESPONSIBLE GOVERNMENTS
(ทองคำคือหลักประกันความเสี่ยง..ที่เกิดจากรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบ)
ก็มีบางช่วงเวลาเหมือนกัน
ที่นโยบายการเงินของโลกมีความน่าเชื่อถือ
นั่นทำให้ราคาทรัพย์สินตัวนี้มีความเสถียร .
..แต่ไม่ใช่ในช่วง 100 ปีมานี้
จากภาพนี้จะเเสดงให้เห็นถึงมูลค่าของสกุลเงิน Dollar ที่ลดลงตั้งเเต่ปี 1913ครับ
การขยายตัวของเครดิตและการพิมพ์เงินอย่างบ้าคลั่ง
ทองคำจึงถูกขับดันให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้นไปโดยปริยาย
ถ้าพูดให้ถูกต้อง ทองคำไม่ได้มีมูลค่าที่สูงขึ้นนะครับ
มันเเค่ทำหน้าที่รักษา purchasing power เท่านั้น
เเต่เพียงเเค่
มูลค่าของ paper money ที่ด้อยค่าไปเรื่อยๆ
ซึ่งเกิดมากจากที่ Fed ของพวกเราทำลาย Value ของค่าเงินจากการพิมพ์เงินขึ้นมา
นี้จึงเป็นตัวทำลายมูลค่าของ Fiat Currency
เเละเพิ่มมูลค่าทองคำที่ถูกมันวัดค่าไปด้วยนั้นเองครับ
เวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อทองคำ
เวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อทองคำ..ก็คือตอนที่ไม่มีนักลงทุนต้องการมัน
และราคาต่ำกว่ามูลค่า
ปัจจุบันราคาของมันถือได้ว่าต่ำสุด ๆ
เมื่อเทียบกับปริมาณของเครดิตที่มีการขยายตัวอย่างมหาศาล
(เรื่องนี้บังเห็นด้วยครับ)
ตลอดมาในประวัติศาสตร์ ทองคำจะมีปฏิกิริยากับปริมาณ money supply
ที่เพิ่มขึ้นมาเสมอ
อีกไม่กี่ปี
มูลค่าของทองคำที่ถูกทำลายโดยปริมาณ
money supply ..ก็ถึงเวลาต้องมีการปรับ
เเละแก้ไข วิ่งเข้าไปหามูลค่าที่แท้จริง
สุดท้ายเเล้วสำหรับคนที่ Anti Dollar
หลังจากอ่านบทความนี้คงอาจจะเเอบยิ้มอยู่ใช่มั้ยครับ
เเต่อย่าลืมดูบริบทของตลาดด้วยนะครับ
ตราบใดที่ Demand ในตัว Dollar ยังอยู่
สกุลเงิน Dollar ก็จะยังไม่ล่มสลายไปเเน่นอน (ในตอนนี้)
ยังไงทุกคนลองเอาสิ่งที่ Egon von Greyerz ได้บอก
ไปค้นหา ศึกษา ทำการบ้าน
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเองกันด้วยนะครับ
เพราะถ้าเขาคนนี้ไม่เก่งจริง
เขาจะถูกยกย่องให้เป็น legendary ได้ยังไง
ถูกมั้ยครับ
ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่ในฟองสบู่ลูกที่ใหญ่ที่สุด
เเละความรู้คือเรือที่จะพาเราผ่านความบ้าคลั่งในครั้งนี้ไปได้
ช่วยกันนะครับ เราจะผ่านไปด้วยกัน
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
อย่าลืมกด Like
กดติดตาม
เเชร์บทความเพื่อเป็นกำลังใจให้บังด้วย🖤นะ
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
