23 เม.ย. 2020 เวลา 03:55 • สุขภาพ
โลกอาจพ้นจากภัยโควิดเร็วเกินคาด
มีผู้ตั้งข้อสังเกตกันมากว่า จริงๆ แล้วผู้ที่ติดเชื้อโควิดและหายแล้ว โดยเจ้าตัวไม่รู้ตัวเพราะไม่มีอาการ อาจมีเป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้เราสามารถตรวจรู้ได้โดยการตรวจหาภูมิต้านทาน (antibody) ต่อเชื้อโควิด ใครมีภูมิต้านทานนี้แสดงว่าเคยติดเชื้อและหายแล้ว
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกำลังเจาะเลือดจำนวนน้อยจากประชาชนเพื่อตรวจหาภูมิต้านทานโควิดที่เมืองซานตาคลารา
ทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขของเมืองซานตาคลารา (Santa Clara County) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตรวจหาภูมิต้านทานโควิดของประชาชนจำนวน 3,300 คน เมื่อวันที่ 3-4 เมษายนที่ผ่านมา พบว่าผู้ติดเชื้อของเมืองนี้ อาจสูงกว่าตัวเลขทางการที่ประกาศราว 50-85 เท่า หากถือตามสัดส่วนนี้ ในขณะนี้ (23 เมษายน 2563) ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นทางการของอเมริกาอยู่ที่ 848,735 คน แสดงว่าผู้ติดเชื้อในอเมริกาจริงๆ อยู่ที่ราว 40-70 ล้านคนแล้ว เพียงแต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเท่านั้น
1
ชุดตรวจหาภูมิต้านทานโควิดของสถาบันวิจัยเยอรมัน
โรงพยาบาลในรัฐแมสซาชูเซตส์ ก็ได้ทดลองตรวจหาภูมิต้านทานโควิด ของคนที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน 200 คน พบว่า 1 ใน 3 มีภูมิต้านทานแล้ว ถ้าถือตามสัดส่วนนี้ แสดงว่าคนอเมริกันราว 110 ล้านคน ติดเชื้อโควิดและหายแล้วโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว
ตัวเลขผู้ติดเชื้อและหายแล้วโดยไม่มีอาการ มีภูมิต้านทานและไม่กลัวการติดเชื้อโควิดอีกในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขไหน 40–70 ล้านคน หรือ 110 ล้านคน ก็เป็นตัวเลขที่มากมหาศาล คนเหล่านี้สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องกลัวว่าจะติดเชื้ออีก ส่งผลต่อการคลายมาตรการ lockdown ได้เร็วขึ้นมาก ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในอเมริกาที่เริ่มชะลอตัวลงนั้นอาจเป็นผลมาจาก ผู้มีภูมิต้านทานแล้วจำนวนมากนี้ เป็นตัวสะกัดขวางการระบาดของไวรัสเป็นได้
นอกจากนี้ หากตัวเลขนี้เป็นจริง และนำตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยไม่มีอาการเหล่านี้ มาเป็นฐานในการคำนวณอัตราการเสียชีวิต จากการติดเชื้อโควิดเราจะพบว่า ในสหรัฐอเมริกา ถ้าผู้ติดเชื้อจริงมีเท่ากับ 40 ล้านคน ณ วันนี้ (23 เมษายน 2563) เสียชีวิตไปแล้ว 47,663 คน อัตราการเสียชีวิตเท่ากับ 0.12% พอๆ กับอัตราการเสียชีวิตของไข้หวัดใหญ่ประจำปี ความน่าหวาดกลัวของไวรัสโควิดก็จะลดลงไปอย่างมากมาย
ประเด็นสำคัญจะเหลืออยู่เพียง การพยายามชะลอการระบาดให้ไม่เร็วเกินไป จนระบบการแพทย์รองรับไม่ทันเท่านั้น ถ้าการระบาดในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมาทำให้มีคนติดเชื้อและหายแล้ว คือ 1 ใน 3 ของประเทศ หากการระบาดดำเนินไปอย่างนี้ อีก 1-2 เดือน คนที่ติดเชื้อแล้ว หายแล้วทั่วประเทศอเมริกาก็จะมีถึง 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด ภาวะ lockdown ก็จะสามารถทยอยเลิกได้หมดภายใน 2–3 เดือน กลับมาใช้ชีวิตปกติได้
สถาบันวิจัยสุขภาพ (NIH)
ทางรัฐนิวยอร์ค ซึ่งมีการระบาดหนักที่สุดในอเมริกา ได้เริ่มการตรวจหาภูมิต้านทานโควิด วันละ 2,000 คน ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้สถาบันวิจัยสุขภาพ (NIH) ของอเมริกา ก็มีโครงการตรวจภูมิต้านทานของประชาชน 1 หมื่นคน ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นข้อมูลสำคัญ ในการประเมินสถานการณ์โควิดตามที่เป็นจริง คาดว่าจะรู้ผลภายในไม่กี่วันนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการประเมินสถานการณ์การระบาดของโควิดทั่วโลก
แต่เรายังต้องคำนึงถึงอีก 2 ประเด็น คือ
1.ความแม่นยำของการตรวจหาภูมิต้านทานนี้ มี false positive ไหม
2.ผู้ที่ติดเชื้อจนหายแล้ว มีภูมิต้านทานแล้ว มีโอกาสกลับไปติดเชื้อใหม่ได้อีกไหม
ในระหว่างนี้ เราทุกคนจึงยังประมาทไม่ได้เด็ดขาด ประเทศไทยของเราทำมาได้ดีมากแล้ว เหลือผู้ติดเชื้อ (active case) เพียง 425 คน ขอให้ทุกคนร่วมมือกันคุมไวรัสโควิดให้หมดไปจากแผ่นดินไทยโดยเร็วที่สุด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา