24 เม.ย. 2020 เวลา 14:23 • บันเทิง
𝗿𝗲𝘃𝗶𝗲𝘄 𝗯𝘆 𝗰𝗮𝗸𝗲. 𝗘𝗣.𝟰𝟱
released date: 24 Apr 2020
𝗜𝘁 𝗪𝗮𝘀 𝗗𝗶𝘃𝗶𝗻𝗲 (album) - 𝗔𝗹𝗶𝗻𝗮 𝗕𝗮𝗿𝗮𝘇
Alina Baraz ปล่อยอัลบัมที่ 2 กับอัลบัมที่มชื่อว่า ‘It Was Divide’ อัลบัมนี้ได้ศิลปินดังๆ หลายคนมาร่วมงานด้วย ตั้งเเต่ศิลปินคู่บุญอย่าง Khalid ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานร่วมกันมาเเล้วหลายเพลง รวมถึง 6LACK ที่ดูจะ feat. ครบทั้งวงการเเล้วมั้ง และคนอื่นๆ อีกหลายคน ทำให้อัลบัมนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย สำหรับอัลบัมแรกของเธอ ‘The Color Of You’ ที่ปล่อยมาในปี 2018 นั้น ก็ได้ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น เเละผลงาน R&B ของเธอก็มีเอกลักษณ์ด้วย เลยทำให้เธอเป็นศิลปินอีกคนนึงที่เราชอบเอามากๆ มาดูกันว่าอัลบัมนี้จะมีอะไรแปลกใหม่บ้าง
ก่อนอื่น ไปฟังซิงเกิลแรกของอัลบัม ‘To Me’ กันก่อน ⇩
เพลงแรก ‘My Whole Life’ เพลงแรกเปิดมาก็เคลิ้มๆ เลย บิ้วอารมณ์เหมือน honeymoon อยู่บนเกาะส่วนตัวเงียบๆ ดูพระอาทิตย์ตกกันสองต่อสอง ด้วยสไตล์การร้องบวกกับทำนองชิวๆ ทำให้เห็นภาพที่นางต้องการจะสื่อมาก อินมาก เป็นเพลงเปิดอัลบัมที่ว้าวมาก
เพลงที่ 2 ‘Morocco’ ที่ได้ 6LACK มาร้องด้วย เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 2 ของอัลบัม ดนตรีเร่งจังหวะขึ้นมาหน่อย เพลงสั้นมากกกกกก ท่อน verse ทำได้โอเค เเต่ท่อนฮุคไม่ค่อยอิน รวมถึงศิลปินที่มาร่วมไม่ค่อยช่วยในเพลงนี้เท่าไร่ เเละที่สำคัญคือเพลงสั้นมาก ขนาดมี 6LACK มาร้องด้วยเพลงยังเเค่ 2.30 นาที ยังไม่ทันอินเลยเพลงจบเเล้ว = =
เพลงที่ 3 ‘Frank’ เพลงนี้ให้ฟีลดนตรีช้าๆ เอื่อยๆ เลื้อยๆ เหมือนเพลงแรก แต่โดยรวมเเล้วชอบการบรรยายให้เห็นภาพของเพลงเเรกมากกว่า เพลงนี้ยังไม่อินกับเนื้อเพลงขนาดนั้น เเต่ฟังเพลินๆ ได้ดีเลย
เพลงที่ 4 ‘Endlessly’ เพลงนี้เป็น promotional single ของอัลบัม ตัวเพลงให้ฟีลเพลงในอัลบัมก่อนมาก อธิบายไม่ถูกว่าเป็นไง ต้องไปฟังเอง เเต่ดนตรี trap R&B แบบชิวๆ งี้อ่ะคือสไตล์ของอัลบัมก่อน ถ้าใครชอบเเนวนี้ต้องไปหาอัลบัมก่อนมาฟังเเล้ว ส่วนเพลงนี้เราว่าดีนะ ชอบสไตล์การร้องของนางในเพลงนี้ สมูทแต่ได้อารมณ์มาก แถมท้ายเพลงคือ outro ยาวๆ นึกว่าคนละเพลง เหมือนได้สองอารมณ์ในเพลงเดียวเลย
เพลงที่ 5 ‘Gimme The Wheel’ ที่ได้ Smino มาร้องด้วย เพลงนี้ trap beat มาเต็มมาก ดูเป็นเพลงน่ารักๆ ร้องแบบยั่วๆ ชอบท่อนฮุค 55555 ดนตรีคือฟินมาก ส่วนท่อนที่ Smino ร้องเราว่าเข้ากับมูทเพลงดีนะ แถมได้ท่อนร้องเยอะมาก ทั้ง verse เลย ไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ 555
เพลงที่ 6 ‘Off The Grid’ ที่ได้ Khalid มาร้องด้วย เพลงนี้เป็นซิงเกิลล่าสุดของอัลบัม หลังจากมีเพลงด้วยกันมาเเล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ 3 ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเสียงของ Khalid กับ Alina คือเข้ากันมากกกกก ร้องประสานเเล้วสมูทสุดๆ เพลงนี้ฟังแล้วเป็นลอยๆ ชิวๆ เเต่ไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น เอาจริงเพลงนี้ Khalid มีส่วนช่วยมากให้เพลงออกมาดี เพราะถ้าไม่มีท่อนผู้ชายเพลงนี้จะดูธรรมดา ไม่มีอะไรน่าจดจำไปเลย
เพลงที่ 7 ‘More Than Enough’ เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 3 จากอัลบัม ชอบเพลงนี้นะ อินเนื้อเพลง บวกกับสไตล์การร้องคือดูเศร้าสุดๆ เสียดายเพลงแอบสั้นไปหน่อย แต่ปังอยู่
เพลงที่ 8 ‘Night And Morning’ เพลงนี้ฟังเพลินมากกกก ดนตรีเพราะเหมือนโดนสะกดจิตอ่ะ รู้สึกส่วนผสมทุกอย่างของเพลงนี้ลงตัวมากๆ ควรฟัง
เพลงที่ 9 ‘To Me’ ซิงเกิลแรกของอัลบัม ได้ฟีล R&B แบบ old school ในรูปแบบของบีทยุคใหม่ มูทเพลงเข้ากับ lyric video ที่เป็น anime video มาก ยิ่งท้ายเพลงที่ดนตรีเหมือนฉากจบในการ์ตูนเศร้าๆ ไปอีก เข้าใจทำ 555 กราบทีมงานอาร์ท
เพลงที่ 10 ‘Memo Blue’ เพลงสั้นๆ คล้ายๆ interlude เอามาขั้นอารมณ์อัลบัม ดนตรีเปียโนเพราะดี เเต่ก็แอบเศร้า เหมือนชื่อเพลง
เพลงที่ 11 ‘Who Got Me’ เพลงนี้ฟังเพลินๆ ดี ท่อนฮุคน่าจะเป็นพาร์ทที่น่าจดจำที่สุดในเพลง นอกนั้นไม่ค่อยมีไรเด่น ฟังได้แต่ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น
เพลงที่ 12 ‘Say You Know’ เพลงนี้ดนตรีดีงามมาก โดยเฉพาะท้ายเพลง ฟังแล้วปริ่มมากกกกก ส่วนต้นเพลงไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เพราะไม่มีอะไรน่าจดจำ (แต่ท้ายเพลงคิอดีจริง)
เพลงที่ 13 ‘Take It Home’ ฟีลเหมือนเพลง Who Got Me ไม่ค่อยมีอะไรเด่น นอกจากท่อนฮุคที่น้อง Take It Home วนไป ฟังเพลินๆ ดี แต่ไม่ได้ว้าวทั้งเสียงร้องและดนตรี
เพลงที่ 14 ‘Be Good’ ดนตรีมีความเร่งจังหวะขึ้นมาหน่อย ตัวบีทค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ แอบ retro นิดๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเพลงนี้เลย ตัวดนตรีคือเด่นมาก ส่วนเสียงร้องเฉยๆ เป็นอีกเพลงที่โคตรจะสั้น ยังไม่ทันอินเลย เพลงจบแล้ว - -
เพลงที่ 15 ‘Until I Met You’ ที่ได้ Nas มาร้องด้วย เพลงนี้ดนตรีชิวๆ กลับมาอีกแล้ว บรรยากาศเหมือนอยู่ในบาร์เพลงแจ๊ส ฟังชิวๆ กันไป เเต่ข้อเสียของเพลงนี้คือแขกรับเชิญที่เสียงไม่เข้ากับมูทของเพลงนี้เลยอ่ะ ไม่สมูทอย่างเเรง เพลงนี้ไม่ควรมีท่อนแร็ปด้วยซ้ำ - -
เพลงสุดท้าย ‘The Beginning’ แทร็กสั้นๆ ที่ sum up คอนเส็ปของอัลบัมทั้งหมด ดนตรีเเนวคล้ายๆ กับเพลงบน ส่วนตัวเราไม่ค่อยอินเพลงนี้เท่าไหร่ อยากได้เพลงซึ้งๆ มากกว่าเพลงชิวๆ อ่ะ เพราะชิวมาทั้งอัลบัมแล้ว ฮือออออ แต่ตัวเพลงก็โอเคแหละ แค่ไม่ค่อยพิเศษอะไร
โดยสรุปแล้ว อัลบัมนี้มีความแปลกใหม่มากกกกก ไม่ค่อยเห็นอัลบัม R&B ที่ดนตรีเป็นแนวชิวๆ อย่างนี้มาก่อน บวกกับสไตล์การร้องของนางที่ดูจะลอยๆ ฟุ้งๆ อยู่เเล้วเลยทำให้อัลบัมนี้มีเอกลักษณ์มาก ข้อดีของอัลบัมนี้คือการใส่ลูกเล่นต่างๆ เข้ามาซึ่งเราไม่เห็นในอัลบัมที่เเล้ว ตั้งเเต่การเอาเเขกรับเชิญหลายคนมาสร้างสีสันให้อัลบัม การทำดนตรี outro ที่ยาวขึ้นเพื่อเพิ่งอรรถรสเพลง รวมถึงการร้องที่ดูจะทำให้คนฟังอินได้มากขึ้น เเต่ข้อเสียก็คือเพลงบางเพลงสั้นมากกกกก เเบบยังไม่ทันอินเลยจบซะเเล้ว กับอีกเรื่องคือตอนกลางๆ อัลบัมแอบไร้สีสันไปนิด แต่สุดท้ายเเล้ว อัลบัมนี้ก็เป็นอีกอัลบัมนึงที่คอเพลง R&B ควรฟังมากๆ เพราะดีงามจริงๆ มีเพลงที่เราชอบหลายเพลงมากกกกก
It Was Divine (album): 8/10
decent.
top tracks: my whole life, endlessly, gimme the wheel, more than enough, night and morning

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา