มินท์ติ่นโกโกยี เป็นผู้ผลิตหนังสารคดีเรื่องนี้ เดิมเขาตั้งใจว่าจะเก็บ ภาพความงดงามของทะเลสาบอินเล แต่ภายหลังต้องเปลี่ยนประเด็นไปสู่ความทุกข์ยากของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีเกินขนาดแทน
นอกจากทะเลสาบอินเลแล้ว เมืองตองยีซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉานยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ฉันตั้งเป้าว่าจะต้องไปเยือนให้ได้ คือ หอหลวงยองห้วยหรือวังเจ้าฟ้าไทยใหญ่ซึ่งปกครองเมืองยองห้วยในอดีต
หอหลวงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของเจ้าฟ้าส่วยแต๊กด้วยศิลปะแบบมัณฑะเลย์ ชั้นล่างเป็นอาคารก่ออิฐ ส่วนชั้นบน สร้างขึ้นด้วยไม้ เนื่องด้วยเจ้าส่วยแต๊กมีมเหสีรองสององค์และลูกๆ อีกสิบกว่าคน หอหลวงจึงประกอบด้วยอาคารสามหลังติดกัน แต่ละหลังจะมีแท่นบูชาอยู่ชั้นบนสุด อาคารด้านในสุดเป็นห้องสวดมนต์ของครอบครัว หอกลางเป็นส่วนที่เจ้าฟ้าใช้ประชุมขุนนาง โดยเจ้าฟ้าจะประทับบนบัลลังก์ทองหากมีการประกาศราชโองการ ส่วนบริเวณห้องโถงใหญ่ด้านนอกสำหรับจัดพิธีคารวะเจ้าฟ้า ซึ่งมีบันไดขึ้นหอสองแห่ง บันไดทางด้านทิศเหนือสำหรับคนทั่วไป อีกด้านหนึ่งเป็นบันไดที่ตกแต่งแบบตะวันออกเรียกว่าบันไดมังกรสำหรับพระสงฆ์เดินขึ้นเวลาจัดงานคารวะ ซึ่งเจ้าฟ้าจะประทับอยู่บนพระที่นั่งที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกใต้ฉัตรสีขาว
บริเวณโดยรอบหอหลวงประกอบด้วยสนามเทนนิส 4 สนาม สวนกล้วยไม้ ต้นมะขาม คอกม้า โรงรถ โรงครัว และสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ทางทิศเหนือและทิศใต้ ใกล้กับมุมทางตะวันออกเฉียงเหนือของหอหลวงมีศาลาประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ และศาลเจ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณประตูด้านตะวันออกซึ่งเป็นที่อยู่ของ “นัต” หรือ “ผี” ที่คุ้มครองเมือง ซึ่งเจ้าฟ้าอนุญาตให้ชาวบ้านเข้ามาสักการบูชานัตประจำเมืองได้ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ชาวบ้านตักน้ำจากหอหลวงไปใช้ได้ในช่วงที่แล้งจัด