29 เม.ย. 2020 เวลา 01:11 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สมการหาน้ำมันตัวพ่อ Archie’s Law
กว่าจะมาถึงตอนนี้ เราผ่านอะไรกันมาบ้าง มาทบทวนกันนิดนึงก่อนจะก้าวต่อไปหาน้ำมันกัน
SP log (Spontaneous Potential) แยกหินดินดานออกจากหินทราย
Gammy Ray Tool แยกหินดินดานออกจากหินทราย
Neutron Porosity Tool บอกว่ามีรูพรุนเท่าไร
Nuclear Magnetic Resonance Tool บอกว่ามีรูพรุนเท่าไร (และอื่นๆอีกเยอะ)
Density Tool บอกว่าความหนาแน่นชั้นหินเท่าไร แล้วเอาไปคำนวนหารูพรุน
Lithology บอกว่าเป็นหินอะไร แล้วเอาไปคำนวนหารูพรุน
Sonic Tool บอกระยะเวลาในการเดินทางของเสียง แล้วเอาไปคำนวนหารูพรุน
Resistivity Tool บอกความต้านทานไฟฟ้าจำเพาะของชั้นหิน
Conductivity Tool บอกความนำไฟฟ้าจำเพาะของชั้นหิน
จากเครื่องมือวัดข้างบนที่เรารู้มานั้น เราสามารถตอบได้แล้วล่ะว่า ในชั้นหินหนึ่งๆนั้น มีน้ำมันหรือก๊าซ อยู่หรือไม่ ต่อไป เครื่องหมายคำถามตัวโตๆที่จะต้องตอบคือ แล้วมันมี “เท่าไร” แน่ๆ
มีวิศวกร หรือ นักวิทยาศาสตร์ ท่านหนึ่ง ชื่อ อาร์ชี่ (Archie) ได้ทำการทดลองเอาก้อนหินตัวอย่าง (formation matrix sample)มาหลายๆชนิด หลายๆความพรุน(ที่ทราบค่าจากการวัดด้วยวิธีอื่นมาก่อน) เอามาตัดเป็นรูปทรงแน่นอน (อาจจะทรงกระบอกหรือสี่เหลี่ยมลูกบากศ์ก็ไม่ทราบได้) เอาน้ำเกลือชนิดต่างๆ(ที่รู้ความต้านทานจำเพาะ) ผสมกับน้ำมันในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน (ซึ่งรู้อัตราส่วนนั้นแน่นอน เพราะผสมเองกับมือ) แล้วอัดเข้าไปในก้อนหินตัวอย่างนั้นให้เต็มรูพรุนในหิน
จากนั้นก็ทำการทดลองผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไป วัดค่าความต้านทานจำเพาะของก้อนหินตัวอย่างนั้น แล้วเขาพบว่า อัตราส่วนผสมของน้ำเกลือกับน้ำมันนั้น มีความสัมพันธ์กับค่าความต้านทานจำเพาะของชั้นหินตัวอย่างที่วัดได้จากการทดลอง ความสัมพันธ์ที่ว่า เขียนเป็นสมการได้อย่างนี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา