4 พ.ค. 2020 เวลา 15:55 • ธุรกิจ
5 Mins Reading
มาเจาะลึกเรื่อง การตลาดแบบคูปอง Coupon Marketing กัน !
เริ่มด้วยคำถามชวนเพื่อนๆคิดเหมือนเดิมม
เพื่อนๆ เคยเจอเนอะ เวลาที่แอพซื้อของออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แค่ Grab Lineman ส่งข้อความเกี่ยวกับคูปองมา พวกเราเองต้องกดเข้าไปดูอยู่ตลอดว่า เอ...แบรนด์ไหนลดราคาน้า ?
หรือ เพื่อนๆมีความสุขไม๊ ณ วินาที ที่เพื่อนๆ apply code แล้ว สามารถใช้งานโค้ดนั้นได้ (ไม่หลอกกัน 555) เราน้ะ โค่ดดีใจเลย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก Shoppee Grab อะไรที่เราใช้ Code ได้นี่ ฟินนน --- !
แบบนี้เลย จาก Agoda.com (แต่เหมือนมันจะ apply ให้กับทุกๆโรงแรมเลยนะ)
Coupon Marketing คือ
- แผนทางการตลาดประเภทหนึ่งที่เล่นกับการดึงดูดความสนใจของลุกค้าในเรื่องของการจ่ายในราคาที่ถุกกว่าในราคาปกติ
- สามารถเลือกทำได้ 2 วิธี คือออ 1. แบบ Online 2. แบบ Traditional (ก็คือแบบเป็นตัว Voucher กระดาษ แบบที่เราเจอในห้าง)
- นี้เป็นอีกวิธีการทำการโปรโมตทางตลาดที่สามารถสู้กับ Promotion marketing ได้ดีเลยยยย อาศัยหลักการณ์แบบเดียวกัน แต่ดึงความจูงใจของลูกค้าในมุมมองที่ต่างกัน
Fun fact ! เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ..... ?
- 92% ของลูกค้ามักจะมองหา Discount Coupon ก่อน (Adebisi,2019)
- 67% ของลูกค้าไม่รู้ว่าจะช้อปอะไร แต่หาร้านช้อปจาก Coupon code (Adebisi,2019)
- มากกว่า 63% ของลูกค้า อยากให้ Coupon ใช้ได้ตามปกติ (ไม่ได้แค่หลอก)
- เพื่อนๆเชื่อไม๊ว่า การส่ง Coupon code ผ่านทางอีเมล์หรือไลน์ สามารถกระตุ้นการขายได้มากถึง 48% (Rus Ackner, 2018)
- ราวๆ 50% ของผู้ใช้งานอีเมล์ในอเมริกา เปิดอ่านอีเมล์ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับ คูปองส่วนลด (Voucherfy.io)
แล้วเค้าจะใช้แผนการตลาด Coupon Marketing กันไปทำไมหว่า ?
1. เพิ่มฐานลูกค้าเก่า และความภักดีต่อแบรนด์ของเพื่อนๆ (Customer Loyalty)
- อันนี้จุดประสงค์คือให้ลูกค้าเค้ากลับมาซื้อสินค้าจากเพื่อนๆใหม่นั้นเอง อาจจะมีการส่ง คูปองไปขอบคุณเค้าที่อุดหนุนสินค้าเราเกิน 3 ชิ้น เป็นต้น
2. ความได้เปรียบกับคู่แข่ง
โดยเฉพาะคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับเรานี่คืออ ตรงมากๆ ไหนๆก็สินค้าเหมือนกันละ แข่งกันที่การตลาดลูกเดียวว (ถ้าเรายุ่งกับต้นทุนมากไม่ได้)
3. เอาตรงๆเลยก็คือใช่เพื่อเพิ่มยอดขาย
- เน้น จำนวน ยอดขาย (Sales Volume) แต่ไม่เน้น Net profit
- เอาไว้ใช้ให้พวกสินค้าที่สภาพคล่องไม่ค่อยดี (Slow moving goods) สามารถขายได้ เพื่อนๆที่มีแบบสินค้าที่ โฆษณาเท่าไรก็ขายไม่ออกเนี่ย ลองวิธีนี้ดูน้ะ เพิ่มเติมคือ เราสามารถเพิ่มมูลค่าได้ด้วยเช่น เอา Code ที่เฉพาะอันนี้ไปแชร์ต่อแล้ว คนที่ได้รับสามารถมาเคลมส่วนลดเพิ่ม หรือ เรามีค่า Referra fees ให้
เจ้าการตลาดแบบคูปองเนี่ย มีกี่ชนิดน้า ? (Type of Coupon marketing)
1. Traditional form
- ก็พวกคูปอง หรือ Voucher ในรูปแบบกระดาษที่ส่วนใหญ่เราจะได้กันเวลาแลกของที่ห้างอะเนอะ
2. Online or Digital form
- Downloadable Coupon
จะเป็นประเภทที่เราสามารถโหลดได้จากเว็ปหรือแอพ แล้วไปแสกนหน้าเค้าเตอร์
- Mobile Coupon
อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็น Exclusive deal/coupon ที่เราสามารถได้มาจากการโหลดแอพมาเท่านั้น
อันนี้ตัวอย่างจากในแอพพ
- Promo Code
วิธีนี้จะสะดวกสบายที่สุด เพราะใช้แค่โค้ด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อออนไลน์เลย เพื่อนๆรู้ไม๊ว่าข้อดีของวิธีนี้คือ สามารถโปรโมทเพิ่มเติมผ่าน Keyword ได้อีกนะ เช่น SUMMERSALExx%
- Automatic discounts
อันนี้จะไปอยู่ในหน้าสุดท้ายเลยย เหมือนแบบ ซื้อ Nintendo Switch ภายในวันที่เท่าไร รับไปเลย Giftvoucher แบบภาพด้านล่างเบย
ตอนนี้กำลังอินเทรนด์เลยเจ้าเครื่องนี้ แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้ลดแว้วงะ
แล้วส่วนใหญ่เค้าใช้กลยุทธ์แบบไหนที่ทำให้เจ้าแผนการตลาดอันนี้ปังบ้าง ?
(Coupon marketing strategy)
1. การเขียนด้วยถ้อยคำที่กระชับ และ เคลีย ! (Clear message)
เพื่อนๆต้องสรุปย่อ โปรโมชั่นให้ได้น้อยที่สุด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มองที่ตัวเลข ก่อน และต่อมาคือ แบรนด์ที่ร่วมรายการ หรือประเภทสินค้า
2. การดีไซน์ที่กระชับ และ สี ที่ดึงดูดลูกค้า (Design and Color psychology) ข้อนี้เราแนะนำให้เพื่อนๆอ่านบทความเรื่อง Color psychology ได้เลยยย สนุกแถมปรับใช้กับอันนี้ได้ดีด้วย อิอิ (ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเรา tie-in นิดนึง)
3. การกำหนดระยะเวลาการใช้งาน (Create Urgency by Timeframe)
ข้อความอันนี้แหละ ที่จะเป็นตัวเร่งลูกค้าว่าอย่าตัดสินใจช้าา Create Urgency ! (เช่น มีอายุ 1 week) หรือ โค้ดนี้สามารถใช้ได้แค่วันหยุดเท่านั้น หรือการซื้อครั้งแรก
4. การเลือกซื้อขั้นต่ำ (Minimum purchase)
แน่นอนว่า เพื่อนๆคงไม่ได้อยากแค่ทำยอดอย่างเดียว การกำหนดการซื้อขั้นต่ำจะทำให้เราสามารถ upsell ได้อีกนะ ตัวอย่างที่ดีคือ Grab food promotion ที่กำหนดว่า แถม appetizer ฟรี แต่สั่งขั้นต่ำ xxx บาท
5. Rewarding Behavior / Increase customer loyalty
- แน่นอนว่า หลังจากการซื้อของลุกค้าแล้ว การจูงใจต่อยอดพวกเค้าต่อเนี่ย ก็เป็นเรื่องดีไม่น้อยเลย อย่างที่ได้บอกไปในช่วงแรกเรื่องของการแชร์โค้ดเฉพาะอันนี้ต่อไปกับคนอื่น แล้วจะได้ส่วนลด หรือเป็น ค่า Referral ก็ได้
- จริงๆอีกอย่างที่เราว่าดีคือ การรีวิว เช่น ถ้าไปรีวิวในหน้าเพจนี้ให้จากการใช้งานจริง แล้วถ่ายภาพมาให้ดูเป็นหลักฐาน รับ Free Gift !
ตัวอย่างประเภทธุรกิจ กับรูปแบบของการใช้ Coupon Marketing idea ?
1. ธุรกิจท่องเที่ยว
Hotels.com : Promo Code
อันนี้เป็นตัวอย่างของโค้ด promo เอาไว้ส่หน้าสุดท้ายของการจอง รับเลย 8%
Agoda : Automatic coupon applied
อันนี้ก็จะโชว์ราคาลดเลย ว่าลดเท่าไร และออกมาเหลือเท่าไร ง่ายดีนะ
2. ธุรกิจ ช้อปปิ้ง ออนไลน์
Central online :
เราว่าอันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการใช้สี และข้อความให้สะดุดตา
ละเค้ายังได้ใช้วิธี Promo code, Minimum purchase และ มีการกำหนด Time periods ด้วย เพื่อสร้างความต้องการใช้งาน (Create Urgency)
อันนี้ของเก่าแล้วนาจา เอามาเป็นตัวอย่าง
3. ธุรกิจ บริการรับ-ส่ง
Grab and Starbuck :
วิธีทีดีและฉลาดคือการจับมือกับ supplier อื่นๆ อย่างตัวอย่างนี้ Grab ร่วมกับ Starbuck
นอกจากจะได้โปรโมทแบรนด์แล้ว Grab ยังได้ฐานลูกค้านักดื่ม Starbuck มาอีกเช่นกัน
ผลเสีย หรือ ข้อควรระวัง ถ้าเพื่อนๆต้องการนำกลยุทธ์นี้ไปใช้มากเกินไป?
- แน่นอนว่า มันจะทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าของเพื่อนๆ มีมูลค่าที่ลดลง และเมื่อลูกค้าของเพื่อนๆติดการ apply coupon เค้าจะคาดหวังอีกเรื่อยๆ หรือ ไม่ทำการซื้อ จนกระทั่งเพื่อนๆของ คูปองส่วนลด อึ๋ยยย.....
- อัตราการยกเลิกการซื้อในหน้าสุดท้าย หรือในรถเข็นเนี่ย เยอะขึ้น.... ทำไมนะเหรอ ? ก็เพราะยังมีลูกค้าหลายๆคนที่เข้ามาซื้อของเพื่อนๆ โดยที่ไม่ได้คิดเรื่องส่วนลดนะสิ แล้วพอเค้าเห็น Coupon Code ในหน้า ตะกร้าสินค้า เนี่ย.... หรือหน้าสุดท้าย
บางทีมันไปกระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง เช่น "เออ ชั้นลืมไปเลยว่ามันมี โค้ดอยู่" "ทำไมเราไม่หาโค้ดส่วนลดตั้งแต่แรกนะ" หรือ บางที อาจนำลูกค้าไปยังเว็ปคู่แข่งอื่นๆที่เค้าโปรโมททาง Coupon หนักกว่าของเราอีกเด้ออ
เป็นไงกันบ้างงงงเพื่อนๆ ? หวังว่าน่าจะเป็นอาหารสมองที่ไม่หนักและไม่เบาไป แต่ไม่มีตัวเลข 5555
อ่านกัน สนุกๆ เพลินด้วยเวลาอันรวดเร็วว เหมือนเดิมมม ถ้าเพื่อนๆมีเรื่อง Marketing หรือ เรืองไหนที่อยากให้เราไปศึกษามา เพื่อนๆคอมเม้นไว้ได้น้าา ถ้าเราทำได้ เราจะศึกษาสรุปมาแชร์เนอะ
วันก่อนมีท่านนึง อยากให้เราช่วยอธิบายเรื่อง Relative Risk (RR) กับ OR เรายังไม่ลืมน้า แต่แอบลึกนิดนึง ต้องขอไปศึกษาเพิ่ม อิอิ
โฆษณา