แล้วจะเป็นยังไง ถ้าพวกเค้าเหล่านั้นจะได้พบกับ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ในรูปแบบของ Third person view ? นั้นแหละ สิ่งที่เราสามารถหาคำตอบได้จากภาพยนต์หรือนิยาย
from Unfortunately Event - เราว่าเข้ากับข้อ 3ดี
4. Blends the Old and New
เพื่อนๆคงเคยจินตนาการถึงภาพในอดีตเนอะ
กาลเวลาช่างปะปนกันได้ตลอดเวลาในโลกของ Fantasy และนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลย
การที่ให้น้องๆเรียนรู้คู่กันไป ทั้งหนังวิทยาศาสตร์ และ Fantasy จะทำให้น้องๆเค้ามีความ Creative ขึ้น
4. Optimism of Moral
แปลตรงตัวเลยคือ Fantasy movie เนี่ยจะช่วยทำให้จิตใจของคนมองไปในมุมที่บวกมากขึ้น (แต่เราว่าต้องเลือกประเภทของหนังและซีรีย์ด้วยนะ5555)
Dr. Christine Gockman ยังบอกอีกว่า สำหรับน้องๆหนู จะเป็นสร้างค่านิยมเกี่ยวกับ Good vs Bad (Hero Vs Villian) โดยที่ น้องๆจะกลั้่นกลองความคิดที่ลึกซึ้งกว่านั้นช่วง 11-16 ปี นั้นเราจะเห็นได้ว่า น้องๆที่อายุประมาณนั้นโตมากับอะไร ความคิดเชิงบวก หรือ ลบ จะแสดงออกมาให้เห็นง่ายขึ้น
Captain America - เพื่อนๆหลายคนคงมีหุ่นกล้ามของพี่คริส เป็นแรงบันดาลใจ ในเนื้อเรื่องก็ค่อนข้าง Inspire นะ
ประเภทของหนัง Fantasy มีอะไรบ้างน้าา เพื่อนๆเคยสงสัยกันไม๊ ?
การที่จะเข้าผู้ชมได้ง่ายยยยที่สุดคือการโปรโมทผ่านทาง Social media influencer, Blogger, Youtuber ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็น Journalist แต่มีพลังในการโน้มน้าวมากพอ หรือเป็นบุคคลที่ Popular ในกลุ่มเป้าหมาย
เป็นไงกันบ้างงงเพื่อนๆ ? พอจะเข้าถึงหนังแนว Fantasy ได้มากขึ้นเนอะะะ (เราหวังว่า 555)