14 พ.ค. 2020 เวลา 05:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นักวิทย์ผุดแนวคิด อาณานิคมลอยฟ้าเหนือดาวศุกร์เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต
เมื่อพูดถึงการตั้งอาณานิคมในห้วงอวกาศ เรามักจะนึกถึงดวงจันทร์และดาวอังคารเป็นอันดับแรกเสมอ แต่น้อยคนที่จะพูดถึงดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ที่ได้ชื่อว่าเป็นฝาแฝดของโลก โดยภายในชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้นั้นเปรียบเสมือนขุมนรก เพราะเต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝนกรดซัลฟิวริก พื้นผิวของดาวศุกร์ก็เต็มไปด้วยทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหมอกสีเหลือง และภูเขาไฟขนาดใหญ่กว่าที่พบบนโลกเหล่าอีกหลายเท่า ปิดท้ายด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 460 องศาเซลเซียส ทั้งกลางวันและกลางคืน
ฟังดูแล้ว ดาวศุกร์แทบไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการไปตั้งรกรากของมนุษย์ในอนาคตเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เนื่องจากดาวศุกร์นั้นมีแรงโน้มถ่วงใกล้เคียงกับโลกของเราอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเทียบกับดาวอังคารที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าเพียง 38 เปอร์เซ็นต์ของโลก นั่นหมายความว่ามวลกล้ามเนื้อและกระดูกของเราจะไม่ลีบเล็กเมื่ออยู่บนดาวศุกร์
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
แน่นอนว่านี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดาวศุกร์เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการสร้างอาณานิคมของมนุษย์ในอนาคต เพียงแต่ยังมีคำถามว่าเราจะใช้ชีวิตท่ามกลางก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่มีน้ำ อุณหภูมิร้อนจัดสุดขั้ว และความดันของพื้นผิวดาวศุกร์เทียบเท่ากับการดำน้ำใต้มหาสมุทรลึก 3,000 ฟุต (ราว 914 เมตร) นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้นการตั้งอาณานิคมบนพื้นผิวดาวศุกร์ย่อมไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี นักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่าเราควรสร้างเมืองลอยฟ้าเหนือก้อนเมฆกรดบนดาวศุกร์โดยใช้บอลลูนขนาดใหญ่แทน เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายบนพื้นผิวดาวศุกร์ ซึ่งการสร้างเมืองลอยฟ้าเหนือก้อนเมฆของดาวศุกร์นั้น จะทำให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับตอนที่อยู่บนโลกมนุษย์ได้ โดยวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างบอลลูนนั้นควรมีคุณสมบัติในการป้องกันกรดซัลฟิวริก ซึ่งก็คือเทฟลอนนั่นเอง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ภายในเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ มนุษย์จะสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยอุณหภูมิและความดันที่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิต โดยช่วงกลางวันอาจมีอุณหภูมิราว 50 องศา และช่วงกลางคืนอุหภูมิอาจลดลงเหลือเพียง 0 องศาเท่านั้น ส่วนน้ำ แน่นอนว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาน้ำบนดาวดวงนี้ แต่ยังพอมีทางอยู่บ้าง เนื่องจากเมฆหมอกบนดาวศุกร์นั้นเกิดจากกรดซัลฟิวริก และกรดซัลฟิวริกมีส่วนผสมของไฮโดรเจน ซัลเฟอร์ และโมเลกุลของออกซิเจน ซึ่งสามารถนำมาผ่านกระบวนขั้นตอนการสกัดด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อแยกโมเลกุลเหล่านี้ออกจากกัน และกลับมารวมตัวกันใหม่ในรูปแบบของน้ำเหลือเพียงกำมะถันที่เป็นของเสียตกตะกอน โดยดาวศุกร์นั้นมีคาร์บอนไดออกไซด์และไนโตรเจนมากพอที่จะนำมาใช้ในการผลิตอากาศและการเกษตรกรรมได้
นอกจากนี้ ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ยังสามารถป้องกันรังสีคอสมิคจากดวงอาทิตย์ที่เป็นภัยต่อมนุษย์ได้ ซึ่งบนดาวอังคารนั้นไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว เนื่องจากมีชั้นบรรยากาศที่เบาบางเกินไปนั่นเอง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา