ย้อนรอย 'สงครามปี1812' เมื่ออังกฤษบุกสหรัฐฯ ถึงขั้นเผากรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าหลังจากสงครามประกาศอิสรภาพเมื่อปี 1776 ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ยังมีอีกสงครามระหว่างสองชาติเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยสงครามดังกล่าวถูกเรียกว่า สงครามแห่งปี 1812 (War of 1812)
สำหรับจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เกิดจากปัญหาภายในทวีปยุโรปที่เกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสเรื่อยมาจนถึงสงครามนโปเลียนตั้งแต่ปี 1792 – 1815 ที่สหรัฐได้วางตัวเป็นกลาง แต่ฝ่ายฝรั่งเศสที่นำโดยจักรพรรดินโปเลียน ได้ห้ามพลเมืองฝรั่งเศสและกลุ่มชาติพันธมิตรห้ามทำการค้าขายกับอังกฤษโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันฝ่ายอังกฤษก็ใช้มาตรการเดียวกันตอบโต้ ต่างฝ่ายต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
สำหรับสหรัฐเองก็ทำการค้าขายกับทั้งสองประเทศ ก็เลยได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรือขนส่งสินค้าของสหรัฐที่ถูกฝรั่งเศสและอังกฤษกีดกันไม่ให้ไปค้าขายกับคู่อริ จนฝ่ายอังกฤษเริ่มใช้มาตรการรุนแรงด้วยการบุกยึดเรือของสหรัฐ โดยอ้างว่าต้องการจับกุมตัวชาวอังกฤษที่ลักลอบหนีทัพจนฝ่ายสหรัฐไม่พอใจ ขณะเดียวกับพวกชนพื้นเมืองอินเดียนแดงก็ไม่พอใจฝ่ายสหรัฐที่เริ่มขยายดินแดนมากขึ้น จึงทำให้กลุ่มอินเดียนแดง Tecumseh’s Confederacy ที่อาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบทั้งห้า ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายอังกฤษเพื่อกดดันสหรัฐ
WIKIPEDIA PD
ทางฝั่งสหรัฐเอง ก็ได้มีมติเข้าร่วมกับฝ่ายฝรั่งเศสเพื่อช่วยทำสงครามกับอังกฤษ เพราะฝรั่งเศสเคยมาช่วยสหรัฐในสมัยสงครามประกาศอิสรภาพ ฝ่ายอังกฤษเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับการทำสงครามกับสหรัฐมากนัก เพราะต้องให้ความสนใจในสงครามภาคพื้นทวีปยุโรปมากกว่า จนกระทั่งกลุ่มพันธมิตรยุโรปเอาชนะกองทัพของนโปเลียนในปี 1814 ได้ อังกฤษจึงสามารถทุ่มกำลังมาสู้รบกับสหรัฐได้อย่างเต็มที่
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
กองทัพเรือของอังกฤษนั้นเข้มแข็งกว่ากองทัพเรือของสหรัฐมาก เพียงแค่หนึ่งปี อังกฤษก็สามารถปิดน่านน้ำของสหรัฐได้ตั้งแต่รัฐนิวอิงแลนด์จนถึงรัฐจอร์เจีย หลังจากนั้นอังกฤษก็ยกพลบุกกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และบุกเผาสถานที่สำคัญทางราชการอย่าง อาคารรัฐสภาพแห่งสหรัฐ และทำเนียบขาว เพื่อเป็นตอบโต้ในท่าทีที่แข็งกร้าวของฝ่ายสหรัฐ
WIKIPEDIA PD
หลังจากนั้นทั้งสองประเทศก็ได้เจรจาสันติภาพ และได้ลงนามในสนธิสัญญาเกนต์ (Treaty of Ghent) โดยตกลงกันว่าไม่มีฝ่ายใดแพ้ชนะ เพราะอังกฤษเองก็สูญเสียกำลังพลและอาวุธไปมากในสงครามก่อนหน้านี้และไม่อยากทำสงครามยืดเยื้อ นอกจากนี้ สหรัฐยังได้ประโยชน์จากสนธิสัญญาดังกล่าว เพราะสามารถขยายดินแดนไปทางตะวันตกและทางใต้ได้มากขึ้นโดยไม่มีอังกฤษมาแทรกแซงอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาได้บทเรียนสำคัญจากสงครามครั้งนี้ ก็คือการที่ทหารอาสาของสหรัฐนั้นมีประสิทธิภาพในการรบที่ต่ำ จึงทำให้สหรัฐต้องเร่งพัฒนากองทัพอาชีพที่มีขีดความสามารถและวินัยที่สูงขึ้นอีกด้วย
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
