Blockdit Logo (Mobile)
Rule of Thumb
•
13 พ.ค. 2020 เวลา 21:56 • ธุรกิจ
สุภาพบุรุษสวนกุหลาบฯ กับการตัดสินใจครั้งแรกของเด็กหนุ่ม
Prologue
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2534 ผมก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ด้วยโควต้านักเรียนดีแบบไม่ต้องสอบคัดเลือกจากโรงเรียนเผยอิง โรงเรียนจีนเล็กๆย่านเยาวราช ผมเข้ามาเป็นรุ่นที่ 114 ของโรงเรียน (ปัจจุบันต้องเรียกแบบศิษย์เก่าว่า OSK114) มีชื่อรุ่นว่า “ฟ้าคำราม” (สวนกุหลาบฯมีประเพณีการตั้งชื่อรุ่นตามเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในปีที่เราเข้าไปเรียน ยกตัวอย่างเช่น “มหาราช”, “ยุบสภา”, “ป่าลั่น”, “ฟ้าใหม่”, “กาญจนาภิเษก” เป็นต้น) ผมจำได้ว่าในวันที่จะประกาศชื่อรุ่น เราไปเข้าค่ายค้างคืนที่โรงเรียนและเกิดพายุฝนตกหนักมาก ในนาทีที่กำลังจะประกาศชื่อรุ่นเกิดฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นหลายครั้ง ทำให้อาจารย์ สุทธิ เพ็งปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนในสมัยนั้น ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อรุ่นที่ตั้งไว้เดิม เป็น “ฟ้าคำราม” ซึ่งก็ตามด้วยเสียง เฮ! ของนักเรียนทั้งรุ่น ประหนึ่งได้สัญลักษณ์สายฟ้าติดหน้าผากแบบพ่อมดน้อย Harry Porter เลยทีเดียว
2
แม้ว่าขณะนั้น ผมยังเด็กมาก เรียกว่ายังอยู่ในวัย “ละอ่อน” (ตามคำที่เด็กสวนฯนิยมใช้เรียก เฟรชชี่ ม.1 จนศิษย์เก่าอย่าง พี่ตูน เอามาตั้งชื่อวงดนตรีของเขาว่า วง “ละอ่อน” ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น วง “บอดี้แสลม” ที่ทุกคนรู้จักกันดีในวันนี้) แต่ผมเองก็รับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ความขลังของการเป็นอดีตโรงเรียนในวังหลวง ก่อตั้งโดย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เมื่อ 138 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้ผลิต นายกรัฐมนตรีให้ประเทศไทย ไปแล้วถึง 8 คน อาทิ ท่านปรีดี พนมยงค์, ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช, พลเอก เปรม ติณสูลานนท์, ท่านธานินทร์ กรัยวิเชียร, พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นต้น รวมถึงบุคคลอีกหลากหลายอาชีพที่ได้สร้างคุณูปการให้กับประเทศของเรามากมาย สงสัยไหมครับว่า โรงเรียนแห่งนี้เขามีเคล็ดลับในการสร้างผู้นำประเทศ ผู้นำองค์กร สร้างคนให้ประสบความสำเร็จกันอย่างไร?
Core Values
เมื่อตั้งคำถามว่า อะไรที่สร้างความแตกต่างให้กับเด็กที่จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยแห่งนี้ หลายคนคงคิดว่าเป็น เพราะการสอนที่เน้นวิชาการ เป็นที่รวมตัวกันของเด็กเรียนระดับหัวกะทิ มีนักเรียนได้รางวัลเหรียญทองวิชาการโอลิมปิกสาขาต่างๆ มากมาย แต่ผมว่ามันไม่ใช่เหตุผลหลัก เพราะหลายโรงเรียนในเครือจตุรมิตรสามัคคี (ประกอบด้วย สวนกุหลาบฯ, เทพศิรินทร์, อัสสัมชัญ, และกรุงเทพคริสเตียน) หรือ เตรียมอุดมฯ ก็มีเด็กที่เก่งไม่แพ้กันมากมาย เคล็ดลับที่แท้จริงของ “เด็กสวนฯ” คือสิ่งที่เรียกกันว่า “อัตลักษณ์” ของโรงเรียนและนักเรียนที่จบจากโรงเรียนแห่งนี้ ที่เรียกกันว่า “สุภาพบุรุษสวนกุหลาบฯ” คำๆนี้ ไม่ได้หมายเพียงถึง การสละที่นั่งบนรถโดยสารให้เด็ก, สตรี, และคนชรา หรือให้เกียรติสตรีเพศ เท่านั้น แต่โรงเรียนนี้ปลูกฝังหล่อหลอมวัฒนธรรมนี้ให้อยู่ในตัวของนักเรียนทุกคน ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาจนวันสุดท้ายที่ก้าวออกไป โดย Core Values ของ “สุภาพบุรุษสวนกุหลาบฯ” ที่ว่านั้นประกอบไปด้วย
• เป็นผู้นำ
• รักเพื่อน
• นับถือพี่
• เคารพครู
• กตัญญูพ่อแม่
• ดูแลน้อง
• สนองคุณแผ่นดิน
ผมเชื่อว่าเด็กสวนฯทุกคน มีครบทั้ง 7 elements นี้อยู่ในเลือดสีชมพู-ฟ้า ที่ไหลเวียนไปทั่วตัว เป็นตัวตนของเราแบบไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เหมือนคำที่รุ่นพี่ผมท่านหนึ่งชอบพูดชอบโพสเสมอๆว่า “กุหลาบเปลี่ยนกระถางไม่จางสี” ฉันใดก็ฉันนั้น ในชีวิตหลังรั้วสวนกุหลาบฯ ผมได้พบเจอ OSK มากมาย อยู่แทบทุกที่ที่ไป และทุกครั้งเมื่อเราทราบว่าเป็น “เด็กสวนฯ” เหมือนกัน ไม่ว่าจะเจอกัน ตอนสัมภาษณ์งาน ตอนร่วมงาน ตอนติดต่อธุรกิจ ตอนขับรถปาดกันแล้วเห็นสติ๊กเกอร์ OSK ที่กระจกหลัง ความรู้สึกที่มีต่อกันก็จะเปลี่ยนไป จากแค่คนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงาน กลายมาเป็นพี่น้อง ที่ห่วงใย เอ็นดู อยากช่วยเหลือ มันเกิดขึ้นในทันทีโดยไม่ต้องบอก ไม่ต้องเอ่ยปากขอ ความผูกพันแบบนี้ ดีกว่า Privileged Programs ใดๆ ในโลก คุณลองถามเด็กสวนฯ คนไหนดูก็ได้ รับรองตอบเหมือนกันทุกคน
เรื่อง Core Values นี้ผมจะกล่าวถึงอีกหลายรอบในบทความถัดๆไป เพราะสิ่งนี้ถูกนำมาใช้สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวาง โดยองค์กรต้องหา “อัตลักษณ์” ที่มีซ้ำๆ ของคนที่อยู่ในองค์กรของคุณแล้วประสบความสำเร็จให้เจอ แล้วนำ elements เหล่านั้น มาสื่อสาร มาบ่มเพาะต้นกล้าใหม่ มาคัดและขยายพันธุ์ต้นไม้พันธุ์ดีที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถโตได้ดีในสภาพแวดล้อม ดิน น้ำ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ที่องค์กรคุณเป็น ให้ได้มากที่สุดและแข็งแรงที่สุด เหมือนที่โรงเรียนสวนกุหลาบฯ ได้ทำสิ่งนี้สำเร็จ เพาะพันธุ์ไม้ชั้นดีนี้ ส่งไปปลูกทั่วประเทศ ทั่วทุกสาขาวิชาชีพ ทำงานสนองคุณแผ่นดินตามบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มภาคภูมิ
หัวหมาหรือหางราชสีห์
นอกจากเรื่องราวที่เล่ามาข้างต้นแล้ว พอนึกถึงสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ จากสมัยมัธยมในรั้วสวนกุหลาบฯ “Rule of Thumb” อีกอย่างที่ผมได้เจอคือ “การได้ตัดสินใจเส้นทางชีวิตด้วยตนเอง” ครั้งแรก ซึ่งแน่นอนมันมีครั้งต่อๆไปตามมาอีกหลายครั้ง ทุกๆ หลักเขต หรือ Milestone ของชีวิต ทุกๆหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ผมก็ได้เจอกับ Big Decision Making บ่อยขึ้น แม้ ณ จุดๆ นี้ เวลานี้ ผมก็กำลังต้องตัดสินใจเหมือนเหตุการณ์ตอนมัธยมเช่นกัน
เท้าความให้ฟังก่อนว่า ชีวิตผมในช่วงมัธยมต้นถือได้ว่าเป็นเด็กเรียนดีปานกลาง ค่อนไปทางดี เกรดเฉลี่ยประมาณ 3 ต้นๆ ถ้าเป็นโรงเรียนอื่นคงชิลๆ แต่ไม่ใช่ที่นี่ครับ สวนกุหลาบฯ มีการแบ่งนักเรียนดีออกเป็นหลายกลุ่ม พวกกลุ่มพรสวรรค์ หรือ Gifted ถือเป็นนักเรียนทีมชาติเก็บตัวเพื่อชิงเหรียญวิชาการโอลิมปิก มีสิทธิ์ใช้ห้องที่ชื่อว่า “กุหลาบเพชร” เด็กส่วนมากคัดมาจาก ห้องคิง-ห้องควีน (ทับ 3, 7, และ 11 ตามลำดับ) สำหรับผมไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เป็นแค่ระดับกลางๆ ในห้องกลางๆ ทีนี้พอจบ ม.3 ต้องขึ้น ม.4 มันคือเวลาที่ผมต้องเลือกว่า จะไปเรียน สายวิทย์ หรือ สายศิลป์ นี่สิครับ งานก็เริ่มเข้า อาจารย์แนะแนวก็ให้คำแนะนำว่า คะแนนผมสามารถเลือกได้ทั้งสองสาย ถ้าเป็นสายวิทย์ ผมก็คงเรียนได้ลำดับกลางๆ ต่อไป แต่ถ้าเลือกสายศิลป์ ผมก็อาจจะมีโอกาสเรียนได้ลำดับต้นๆของห้อง อาจารย์ถามผมว่า ผมอยากจะเป็น “หัวหมาหรือหางราชสีห์” ล่ะ ทศพร?…
ชีวิตผมโดนคำถามนี้อีกหลายครั้ง ผมเคยเลือกตอบมาแล้วทุกแบบ ไม่มีผิด ไม่มีถูก ตอนสวนกุหลาบฯ สุดท้าย ผมเลือกเรียนสายศิลป์ฝรั่งเศส และก็สอบได้ลำดับต้นๆ จริงตามที่อาจารย์แนะแนวว่า แล้วผมก็สอบเทียบ ม.6 ได้ตอน ม.4 เลย และ เอนทรานซ์เข้า มหาวิทยาลัย ได้เลย จึงไม่ต้องเรียนชั้น ม.5 กับ ม.6 โดยตอนเลือกมหาวิทยาลัยและคณะที่เรียน คำถามเดิมนี้ก็กลับมาอีก ผมตอบแบบเดิมอยู่อีกหลายๆครั้ง และมันก็ได้ผลทุกครั้ง จนทำงาน เปลี่ยนงานไปหลายรอบ ผมก็เริ่มเลือกตอบคำถามนี้ต่างออกไป ตามความเข้มแข็งและภาวะผู้นำที่เติบโตขึ้น เป็น “หัวหมา” บ้าง เป็น “หางราชสีห์” บ้าง และบางจังหวะที่ดีของชีวิต เมื่อความสามารถและโอกาส มาเจอกันในเวลาที่เหมาะสมก็ได้เป็น “หัวราชสีห์” กับเขาบ้างเหมือนกัน
ตอนแรกคิดจะปิดท้ายบทความด้วย คติพจน์โรงเรียน “สุวิชาโน ภวํ โหติ” (ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ) แต่ขอเปลี่ยนใจมาปิดท้ายบทความนี้ด้วยประโยคที่ก้องอยู่ในตัวผม คอยผลักดันความเป็นนักสู้ ไม่ยอมแพ้ และความเป็นผู้นำ ใน DNA ของเด็กสวนฯ ทุกคน ว่า
“สวนกุหลาบฯต้องไม่เป็นที่สองรองใคร”
อ้างอิง Rule of Thumb ที่นึกถึง และทุกคนสามารถไปหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:
Core Values
เลือกเป็นหัวหมาหรือหางราชสีห์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา