18 พ.ค. 2020 เวลา 22:55 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าสมัยสมัครงานครั้งแรก
ต่อเนื่องจากเมื่อวาน หลังจากผ่านกระบวนการชุบตัวและมีเกรดน่ารักๆ แล้ว ก็ถึงช่วงเวลาจบและเลือกเข้าทำงาน
ในส่วนผมเองเมื่อใกล้จบพบว่าโอกาสในการมีงานทำสูงขึ้นมากประมาณนึง ส่วนนึงเพราะโอกาสตอนเรียนโทที่ได้เข้าติดตาม อ. ที่ได้เชิญไปเป็นที่ปรึกษาขององค์กรต่างๆ และกลุ่มเพื่อนที่เรียนทั้งภาคปกติ ภาคพิเศษ ที่ได้ร่วมเรียน ทำรายงานร่วมกัน (เห็นความคิด ทัศนคติ รูปแบบวิธีการทำงานที่ผ่านมา) ทำให้ตอนจบจะได้รับคำแนะนำดีๆ ว่าให้ไปสมัครงาน หรือบางองค์กรเข้าทำงานได้เลย เหตุผลตามบทความก่อน (เพราะ อ. เป็นที่ปรึกษาองค์กร เขาอยากได้ตัวผมเพราะผมเป็นลูกศิษย์โดยตรง จาก อ. ไทย ที่จบจาก กูรู ตปท. ที่เขียนตำรา ที่ HR เรียนๆ กัน ถ้าผมมีปัญหาอะไร เขาเชื่อว่า ผมจะกลับไปขอคำปรึกษา อ. อยู่ดี)
แต่สิ่งที่ผมเลือกทำต่างกับคนอื่นเล็กน้อย อ.ที่ปรึกษาผม ถามผมสั้นๆ ว่า อยากเข้าทำงานองค์กรไหนพิเศษไหม อ. จะเขียนจดหมายรับรองแนะนำตัวให้) ช่วงนั้นก็ติสท์อยู่ด้วยเลยบอก อ. ว่าขอลองไปหาเองก่อนครับ ถ้าไม่สำเร็จจะกลับมาให้ อ. ช่วย ถ้าถามผมว่าเรียนมามากมาย ความติสท์ผมเลือกทำงานองค์กรใด
สมัยเรียนผมเรียนตำราด้าน HR มีแต่ GURU ตปท เรียนจนอึนไป ก็เลยมองว่าแล้ว GURU ด้าน HR ใครหละที่เก่งที่สุด (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9) ผมเลยตั้งใจว่าจะทำงานกับองค์กรของคนไทยที่มีอายุมากกว่า 100 ปี (ส่วนใหญ่องค์กรไทยจะอายุไม่ถึง 100 ปี ปัจจุบันองค์กรที่ผมทำงานอายุปัจจุบัน 13+ ปี) ผมพอตอนสัมภาษณ์ผมก็ชิงบอกผู้สัมภาษณ์ว่า องค์กรควรรับผมเพราะ
1. ผมเรียนจบตรงจากสถาบันด้าน HR ที่ก่อนหน้านั้นเรื่องนี้ยังไม่ยอมรับเท่าไหร่ (เดิมคนทำงานไม่ต้องจบตรงก็ทำงาน HR ได้)
2. ผมจบกับ อ. ที่เรียนตรงกับ GURU ที่ออกตำรา HR ดังนั้นเรื่ององค์ความรู้ที่สามารถนำมาปรับใช้กับองค์กรใหม่แน่นอน
3. ถึงผมตอนนี้ผมยังไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ แต่ถ้าผมต้องการคำแนะนำผมสามารถกลับไปปรึกษา อ. ผมได้ทุกเมื่อ
4. ผมต้องการทำงานกับองค์กรคนไทยที่อายุเกิน 100 ปี
5 ผมเชื่อในความสามารถของผู้บริหารคนไทย ตำรา หลักวิชา แบบอย่างคนไทยว่าสามารถเข้าถึงมาตรฐานโลกได้เช่นกัน และผมเชื่อว่าพลังคนไทยทำได้
6. ทำหน้ามุ่งมั่น มั่นใจ แววตาอนิเมะ สดใส เป็นประกาย ทุกอย่างเป็นไปได้ รวมๆ ก็ประมาณนี้ สุดท้าย......
สมัครงานที่แรก ได้งานที่แรกครับ ไม่ต้องถามเรื่องเงินเลยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อนๆ ในรุ่น จบโทไม่มีประสบการณ์ เข้าองค์กรเอกชนยุคนั้นดังๆ ได้หมด เงินเดือน 18K-23K ส่วนผมมาทำงาน วุฒิโทตั้งต้น 10210 บาท มีทำเรื่องบวกประสบการณ์ และยุคนั้นพอดีเคสผมมีประเด็นอื่นเล็กน้อยเพราะปรับเงินเดือนเพิ่มหลังทดลองงานเลยตกเบิก 5 เดือนครับ (โชคดีตอนเรียนก็มีรายได้หลายทาง ถ้าใจอย่างเดียวไม่มีเงินมาหมุนอาจไปแต่แรกแล้ว -__--") (เดี้ยวนี้ตกเบิก 1 เดือน หรือถ้าสรรหาล่วงหน้าก็ไม่มีตกเบิกแล้วครับ) แต่ก็แปลกดีแม้เริ่มต้นจะเป็น 10K แต่พอทำงานมา 10 ปี ตอนนี้ด้วยระบบต่างๆ เงินเดือนก็สูง เพียงพอและแข่งขันได้ในระดับนึง รวมถึงมีสถานะที่มั่นคงมากประมาณนึงในช่วงโควิทนี้ครับ (ไม่รวมโอกาสเรียนรู้ต่างๆ ที่คิดเป็นเงินลำบาก แต่ได้มาเยอะมากจริงๆ)
ในฐานะผู้ได้ทำงานกับองค์กร รับรู้ในสิ่งที่องค์กรมีให้ตลอด 10 ปี ขอบคุณและยินดีมากที่ได้มีโอกาสที่องค์กร และผู้บริหารยุคนั้นเลือกให้ร่วมทำงานครับ
ในชีวิตโอกาสเหมือนจะมีตลอดเวลา แต่บางโอกาสที่สำคัญในชีวิต เมื่อตัดสินใจแล้วผลลัพธ์ที่ตามมาแต่ละคนต่างกันมากมาย เมื่อมองย้อนกลับจากวันนี้
เพิ่มเติมที่เป็นคำแนะนำสัมภาษณ์งานในยุคปัจจุบันครับว่าแตกต่างกับ 10 ปีก่อนที่ตอนนั้นใช้เองไหม กดที่ลิงค์ด้านล่างได้เลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา