16 พ.ค. 2020 เวลา 11:12 • ครอบครัว & เด็ก
😊▶บทสนทนาของเด็กวัย 12 ปี
👥เพื่อน : เธอห่อข้าวมากินด้วยหรอ ทำไมไม่กินแบบพวกเราล่ะ
🙋ฉัน : แม่เราบอกว่าห่อมากินเองจะได้ประหยัดน่ะ
🗨เพื่อน : แต่เเม่เราบอกว่าค่าอาหารกลางวันไม่เเพงมากนะ
▶ตอน ย้ายโรงเรียนใหม่
🐣หนูวิวัย 11ปีเศษ เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนรัฐบาลเเห่งหนึ่ง ตอนนั้นครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ พ่อกับแม่ของฉันทำอาชีพรับจ้างเย็บผ้า รายได้ของพ่อกับแม่อาจจะไม่มากแต่ก็เป็นอาชีพที่ทำให้ฉันกับน้องมีโอกาสได้เรียนหนังสือ
🐥เมื่อจบ ป.6 อายุ 12ปี ฉันจึงต้องย้ายโรงเรียนเพื่อไปต่อมัธยมที่โรงเรียนอื่น แม่ได้เลือกโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งไว้ให้อย่างดีที่สุดสำหรับฉันในตอนนั้น
🗨แม่ : ปิดเทอมนี้แม่หาโรงเรียนใหม่ให้หนูไว้แล้วนะ เดี๋ยวใกล้เปิดเทอมแม่จะพาหนูไปดูโรงเรียน
🙋วิ : (ความรู้สึกตื่นเต้น) โรงเรียนใหญ่ไหมจ๊ะเเม่ เพื่อนๆเยอะไหม?
🗨แม่ : โรงเรียนนี้ดีนะ เป็นโรงเรียนเอกชน เขาจะสอนหนูให้เรียนเก่งๆได้จ้า ถึงโรงเรียนไม่ใหญ่มาก แต่เพื่อนๆน่าจะเยอะเลยล่ะจ้ะ
🙋วิ : เย้ (^_____^)
🏫เมื่อเวลาเปิดเทอมมาถึง ชุดนักเรียนใหม่ที่แม่รีดจนเนี๊ยบมากๆกับรองเท้าคู่เก่าที่ขัดมันวับยังพอใส่ได้ แม่ทำให้อย่างไม่ตกหล่น มันทำให้ฉันรู้สึกเท่ห์มากที่จะได้เลื่อนชั้นเป็นพี่โตแล้ว และได้ไปโรงเรียนใหม่ เจอเพื่อนใหม่อีกด้วย
พอไปถึงโรงเรียน ทุกอย่างดูใหม่หมดกับฉันจริงๆ ครู เพื่อน กฎระเบียบในรั้วโรงเรียนก็ใหม่หมด  การปรับตัวก็ยากในช่วงแรกๆ ไม่สนุกเหมือนอย่างที่คิด
🌞ที่โรงเรียนตอนเช้า
คาบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์
🗨ครู : นักเรียนทุกคน เปิดคอมพิวเตอร์ค่ะ
🙋วิ : (ยกมือ) หนูเปิดไม่เป็นค่ะคุณครู
🗨ครู : (เดินมาสอนให้) กดเปิดตรงนี้เเล้วก็ตรงนี้นะคะ แล้วเมื่อก่อนนี้เปิดยังไงเอ่ย?
🙋วิ : ที่บ้านหนูไม่มีคอมค่ะ ที่โรงเรียนเก่าก็ไม่มี หนูไม่เคยเรียนมาก่อนค่า ^^"
หลังจากวันนั้นคุณครูก็สอนตั้งแต่พื้นฐานและฉันก็เข้าใจทั้งหมดทันเพื่อนๆภายในเวลาไม่นาน
🌞ที่โรงเรียนตอนพักกลางวัน
🗨ครู : เดี๋ยวนักเรียนทุกคนไปต่อเเถวที่โรงอาหารเเล้วรับอาหารกลางวันทานกันนะคะ
ตอนนั้นฉันคงเป็นนักเรียนคนเดียวล่ะมั๊งที่ห่อข้าวมากินที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะทุกคนไม่มีใครห่อข้าวมาเลยสักคน ฉันกินข้าวที่ห่อมาท่ามกลางเพื่อนที่ทานอาหารกลางวันของที่โรงเรียน  (ดูสตรองม่ะ💪)
👥เพื่อน : เธอห่อข้าวมากินด้วยหรอ ทำไมไม่กินแบบพวกเราล่ะ
🙋วิ : แม่เราบอกว่าห่อมากินเองจะได้ประหยัดน่ะ
👥เพื่อน : แต่เเม่เราบอกว่าค่าอาหารกลางวัน
ไม่เเพงมากนะ
🙋วิ : เราชอบอาหารที่แม่เราทำที่สุด ชอบยำปลากระป๋องกับแตงกวา แม่เราทำอร่อยมาก ลองชิมไหม
👥เพื่อน : (ชิมของเรา) อร่อยจริงด้วย เดี๋ยวเดือนหน้าเราให้แม่เราห่อมาให้มั่งดีกว่า ไม่ต้องกินของโรงเรียนละ
จากนั้นเพื่อนก็ห่อข้าวมากินกันเยอะขึ้น ฉันรู้สึกว่าไม่เเปลกแยก ไม่เเตกต่าง ทุกอย่างดูผ่านไปด้วยดีจนกระทั่ง
หลังจากช่วงกลางวันทุกคนต้องมายืนเรียงแถวเพื่อฝึกท่องสูตรคูณ / ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษและอื่นๆ เป็นกิจวัตร ซึ่งฉันเองได้เเต่ขยับปากตามอย่างไม่มั่นใจ คลอๆไปกับเขา
🏠กลับถึงบ้าน
🗨แม่ : วันนี้การบ้านเยอะหรอลูก
🙋วิ : การบ้านไม่เยอะจ้าแม่ แต่วันนี้วิจะต้องท่องสะกดคำศัพท์ให้ได้ทั้งหมด  เพราะเพื่อนๆที่โรงเรียนพูดกันได้หมดเลย มีแต่หนูคนเดียวที่พูดไม่ได้จ้าแม่ (สีหน้าจริงจัง)
หลังจากนั้นมาในวันต่อๆไปฉันก็เริ่มค่อยๆปรับตััวได้มาเรื่อยๆและภาษาอังกฤษก็เริ่มดีขึ้น
🏫ก่อนไปโรงเรียน
🗨แม่ : นี่ลูกค่าขนม 10 บาท ถ้าหนูไม่หิวให้หนูแบ่งกลับมาใส่ออมสินไว้นะลูก
🙋วิ :จ้าแม่ (ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองได้น้อยเพราะว่าห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนก็อิ่มแล้ว)
ขากลับจากโรงเรียน
ในขณะที่สายตาของฉันกำลังหยุดมองดูเพื่อนๆที่พ่อแม่มารับกลับบ้าน  บางคนนั่งรถตู้ของโรงเรียน บางคนมีพี่เลี้ยงมารับ บางคนนั่งรถสองเเถวกลับบ้านเอง
ส่วนฉันแค่สังเกตเท่านั้นและก็เดินกลับบ้านในระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรอย่างไม่รู้สึกน้อยใจอะไร เพราะเข้าใจครอบครัวว่าทำไมทำแบบคนอื่นไม่ได้ เพราะพ่อแม่ยังต้องทำงานหาเงินเพื่อฉันกับน้องนั่นคือสิ่งที่ฉันเข้าใจมาก
มาตลอด
การเดินกลับบ้านในแต่ละครั้งจะมีการสังเกตข้างๆทางไปด้วย ว่าร้านที่เราผ่านมาแม่ค้าคนนี้อยู่ไหม พ่อค้าคนนี้หายไปไหนทำไมไม่มาขายน้ำเต้าหู้ บางวันมีนับก้าวเดินว่าได้กี่ก้าวด้วยสนุกดี  ส่วนเงินที่เเม่ให้มายังเหลือครบ
👉ผ่านไป 1 เทอม
🗨แม่ : เหนื่อยไหมลูกที่ต้องเดินไปกลับโรงเรียนทุกวัน
🙋วิ : ไม่เหนื่อยเลยจ้า สนุกดี 😊 (ตอบตามความรู้สึกจริงเลย)
🗨แม่ : อดทนหน่อยนะลูก (เอามือมาลูบหัวฉันด้วยความเอ็นดูห่วงใย)
🙋วิ : 😊💙
🌳ชีวิตวัยเด็กที่ผ่านมา พอลองมองย้อนกลับไปแล้วเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษมาก
เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีค่าและสอนฉันมาโดยตลอด ทำให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉันต่อจากนี้ปัญหานั้นจะดูเล็กน้อยลงไปเลย
🚩วิธีการรับมือของเเม่
ต้องบอกว่าครั้งนี้แม่ไม่ได้รับมืออะไรกับลูกสาวอย่างฉันเลย  แต่แม่คนนึงต้องรับมือกับตัวเองที่ต้องเห็นลูกลำบาก
ไม่มีแม่คนไหนอยากเห็นลูกลำบาก แม่ต้องแสดงออกอย่างเข้มเเข็งกว่าเพื่อให้ลูกอย่างฉันมีความเข้มเเข็งเหมือนกัน
มันเหมือนเป็นพลังอันมหัศจรรย์ในวัยเด็กตัวเล็กอย่างฉันที่ทำให้ฉันไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับอะไรเลย เพราะทั้งหมดถูกปลูกฝังบนพื้นฐานความรักและเข้าใจ ที่มีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ฉันไม่รู้สึกขาดอะไร และเป็นพลังก้อนโตที่พร้อมจะก้าวต่อไปในวันข้างหน้า 😊👩👩👧👧
บทความโดย : บ้านเล็กหัวใจโต 💙

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา