เช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ทอฝันพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก เขาคิดในใจ เมื่อคืนคงดื่มกับพ่อหนักไป ก่อนจะยกมือขึ้นตบหัวตัวเองเบาๆ เมื่อวานเขาดื่มกับพ่อจนดึก สุดท้ายเลยไม่ได้กลับมาคุยกับพายุเลย
เพราะงั้นทอฝันก็ควานหาแมคบุ๊คเครื่องเดิม ก่อนจะเปิดใช้งานมันอีกครั้ง
พายุ: อรุณสวัสดิ์
ทอฝัน : อรุณสวัสดิ์พายุ...
พายุ: วันนี้จะทำอะไรบ้าง?
ทอฝัน : คิดถึงนาย..
เขากดส่งไปอย่างตั้งใจและตั้งตารอให้อีกฝ่ายตอบกลับ
พายุ: ยุก็คิดถึงฝันเหมือนกันนะ
เธอยิ้มให้กับข้อความนั้น ทอฝันเพิ่งคิดขึ้นได้ว่าวันนี้คือวันสุดท้ายสำหรับการใช้โปรแกรมนี้แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ
ทอฝันจะยังคงนึกถึงความทรงจำมากมายที่เคยมีร่วมกับพายุอยู่ไหม หรือเธอจะลืมมันไปจนหมด ถ้าเป็นอย่างนั้นหลังจากนี้เธอคงคิดถึงพายุมากเลยทีเดียว
พายุ: ฝันยังใส่แหวนแต่งงานของเราไว้อยู่ไหม?
ทอฝัน : ใส่สิ
ทอฝันก้มลงมองไปที่นิ้วนางข้างซ้ายและหมุนแหวนแต่งงานเล่นอย่างเหม่อลอย จะพูดว่าเธอกับพายุแต่งงานกันแล้วนั่นก็ไม่เชิงหรอก
เพราะมันเป็นเพียงการขอแต่งงานที่เรียบง่าย แต่กลับโรแมนติกและเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมของเรา….
วันนั้นเป็นวันหยุดของทอฝันและเธอ
ตัดสินใจว่าจะอยู่กับพายุถึงแม้จะไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่น แต่แค่ใช้เวลาร่วมกันอยู่ในบ้านที่เขาทั้งคู่รักก็มีความสุขมากพอแล้ว อีกเหตุผลที่เธอไม่อยากออกไปข้างนอกก็เพราะว่าช่วงนี้อาการของพายุไม่ค่อยดีจะนัก มันไม่คงทีเลย
บางครั้งทอฝันก็ต้องตกใจที่จู่ๆพายุก็มีเลือดกำเดาไหล บางทีเขาก็ปวดหัวจนล้มตึงไปต่อหน้าต่อตา เธอยอมรับเลยว่ามันยากมากจริงๆ แต่หากคิดในทางกลับกันพายุที่กำลังเจ็บปวดอยู่ในตอนนี้กลับอดทนและต่อสู้กับมันมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าตัวเองมีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก
แล้วทอฝันที่เป็นคนรักของพายุจะยอมแพ้ได้ยังไง
พายุบอกกับเธอเสมอว่า ในทุกๆวันเราทั้งคู่จะต้องมีความหวัง ใช่...พายุยังมีความหวังว่าจะได้เข้ารับการรักษาและหายจากโรคนี้
แต่เวลาล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้ว พวกเราทั้งสองไม่ได้รับความคืบหน้าอะไรจากโรงพยาบาลเลย ก้อนเนื้อที่อยู่ใกล้ก้านสมองเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ มีบ้างที่เข้าไปรับการตรวจเพิ่มเติมและรับยากลับมาเพื่อบรรเทาอาการ แต่จะให้คิดว่าไม่มีทางรักษาเลยได้อย่างไร
หากคิดอย่างนั้นอาการของพายุก็มีแต่จะทรุดลงหนักกว่าเดิม
ทอฝันที่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหาร
สำหรับคนป่วยกำลังง่วงอยู่กับหม้อซุปตรงหน้า
อยู่ๆก็มีใครบางคนเข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลัง
“อ้อนอะไรแต่เช้าเนี่ย?”
“เปล่าอ้อนนะ แค่ได้กอดฝันแล้วมีความสุข”
เธอเบะปากให้กับคำพูดนั้น เรื่องปากหวานต้องยกให้พายุที่หนึ่งเลย
“หิวหรอ?” ทอฝันถาม
แต่อีกคนก็ส่ายหัวแถมยังแลบลิ้นใส่
เธอ หัวเราะก่อนจะเอ่ยถาม “แล้วอยาก
ได้อะไรล่ะ?”
“ตอนเย็นออกไปซื้อของให้หน่อยได้ไหม?”
ทอฝันมองอีกคนอย่างสงสัย “ของอะไรหรอ?”
“อยากได้เกมส์มาเล่นเวลาอยู่บ้านคนเดียวอะ เวลาฝันไม่อยู่ยุจะได้มีอะไรทำ”
“โอเครงั้นเดี๋ยวฝันจะออกไปซื้อมาให้ ยุก็อย่าลืมกินข้าวแล้วก็กินยานะ เดี๋ยวฝันเอาไว้ให้ที่โต๊ะ”
หลังจากนั้นทอฝันก็ได้ขับรถออกไปซื้ิอเกมส์อย่างที่พายุได้ขอไว้
ตกเย็นทอฝันก็เคลื่อนรถมาจอดที่หน้าบ้านและเดินลงจากรถพร้อมกับเกมส์ที่พายุฝากเจ้าตัวให้ซื้อมาให้เธอมีสีหน้าที่ร่าเริงเพราะคิดว่าพายุต้องชอบมันแน่ๆ
“พายุ ฝันกลับมาแล้วนะ”
“พายุ...”ทอฝันเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเลย..
“พายุ!” ทอฝันรู้สึกใจหายวูบเมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับจากเจ้าของชื่อเลย
เธอพลักประตูทุกบานที่เดินผ่าน ทอฝันรีบร้อนวิ่งมาตามทางเดินในบ้าน ก่อนจะมาหยุดที่ห้องนั่งเล่น
ทอฝันหยุดชะงักกเมื่อเห็นเทียนไขวางอยู่บนพื้น มันเรียงต่อกันเป็นทางยาว เธอเดินตามทางของแสงเทียนไป จนในที่สุดเธอก็มาหยุดลงที่ห้องนอน
และภาพที่ทอฝันเห็นคือพายุกำลังนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ...ทอฝันมือสั่นไปหมด มันทั้งโล่งอกและดีใจในเวลาเดียวกันที่คนตรงหน้าของเธอไม่ได้เป็นอะไร
พายุส่งยิ้มที่อ่อนโยนมากกว่ารอยยิ้มไหนๆมาให้เธอ ทอฝันยิ้มตอบแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร
“หกปีแล้วเนอะที่เราคบกันมา...ยุรู้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันครบรอบของเรา แต่ยุมีบางอย่างอยากจะขอฝัน”
พายุได้หยิบกล่องแหวนสีน้ำเงินออกมาและเปิดให้เห็นแหวนเพรชที่อยู่ข้างใน
“ทอฝัน...หกปีที่ผ่านมาผมได้พิสูจน์ให้คุณเชื่อแล้วหรือยัง ว่าผม นายพายุ คนนี้...รักคุณอย่างจริงใจ...หากคุณเชื่อในความรักของผมแล้ว คุณจะให้เกียรติ... โดยการแต่งงานกับผมได้ไหมครับ?...”
ทอฝันนิ่งอึ้งไปกับคำพูดนั้นเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เธอพูดอะไรไม่ออกนอกจาก..
“ฮึก...” อยู่ๆเธอก็ร้องไห้ออกมาราวกับหนุ่มสาวที่เพิ่งถูกขอแต่งงาน ทอฝันผงกหัวขึ้นลงช้าๆ เธอตอบตกลงและพุ่งเข้ากอดพายุที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่
พายุปล่อยให้น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาเหมือนกับทอฝันที่กำลังสะอื้นร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของพายุ
พายุลูบผมของอีกคนอย่างปลอบโยน
“ร้องไห้ทำไม?”
“ก็ฝันดีใจ...ดีใจ ฮึก แล้วก็กลัวด้วย ฮือออ”
ทอฝันหลับตาปี่ก่อนจะปล่อยโฮออกมาจนสุดเสียง “ฝันกลัวว่ายุจะเป็นอะไรไปตอนที่ฝันไม่อยู่อะ ฮือออ”
พายุขำกับหน้าตาตอนร่ำไห้ของคนรัก มันข่างน่าเกลียดและน่ารักในเวลาเดียวกัน พายุพรมจูบเปลือกตาของคนรักอย่างอ่อนโยน
มันรู้สึกมีความสุขจนอยากให้เวลาหยุดไว้เพียงเท่านี้ ความสุข พร้อมกับความทุกข์ที่เกิดจากความกลัวที่จะต้องจากกัน
ทอฝันสัมผัสได้ถึงความเย็นของคราบน้ำตาความเหนื่อยหรือเพราะความเจ็บปวดในใจ ทอฝันสัญญาว่าเธอจะยังอยู่ตรงนี้ ข้างๆพายุ ตลอดไป..
ขณะที่ทอฝันกำลังคิดถึงช่วงเวลาแห่ง
ความสุขนั้น อยู่ๆจอแมคบุ๊คก็ดับไป ไม่นานนักก็มีวีดีโอบางอย่างเล่นขึ้นมา...