28 พ.ค. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
10 เบื้องหลังชีวิตของ 'ซัดดัม ฮุสเซน' อดีตผู้นำเผด็จการอิรัก ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้
หากพูดถึง ซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการของอิรักแล้ว อาจกล่าวได้ว่าเขาคือชายที่มีแง่มุมในชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อย ดังข้อมูลที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ ที่เรียกได้ว่าเขาคือจอมเผด็จการที่มีมุมมองชีวิตที่มีสีสันและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
WIKIPEDIA PD
1. ในวัยเด็ก ซัดดัม ฮุสเซน มีความฝันอยากเป็นทนายความ แต่ด้วยความยากจน ทำให้เขาต้องมาอาศัยกับลุงที่ฝักใฝ่ในลัทธิชาตินิยม ภายหลังจากที่เขาเรียนจบจากโรงเรียนกฎหมาย เขาได้เข้าร่วมกับพรรคบาธในเวลาต่อมา
2. นอกเหนือจากบทบาททางการเมือง ซัดดัม ฮุสเซน ยังเป็นนักเขียนนิยายรักโรแมนติกอย่าง ‘Zabibah and the King’ ที่ตีพิมพ์ในอิรักเมื่อปี 2000 มันเป็นเรื่องราวที่ถูกดัดแปลงมาจากสงครามอ่าวเปอร์เซียให้กลายมาเป็นนิยายรักโรแมนติกที่มีธีมหลังในยุคกลางของอิรัก และกลายเป็นหนังสือขายดีในอิรักในภายหลัง
1
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
3. ซัดดัม ฮุสเซน เคยเข้าใจผิดคิดว่าสหรัฐฯ ยินยอมให้อิรักรุกรานคูเวต โดยก่อนหน้านั้นทางการสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่าไม่ต้องการทำสงครามการค้ากับอิรัก และสหรัฐฯ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและปัญหาเรื่องการค้าน้ำมันของอิรักและคูเวต จนกระทั่งอิรักได้ใจ จึงหาเหตุรุกรานคูเวตทันที จนทำให้สหรัฐฯ และชาติมหาอำนาจประณามการกระทำของอิรักในภายหลัง
4. ตอนที่ ซัดดัม ฮุสเซน ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานพรรคบาธ ระหว่างปี 1968 – 1979 เขาได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาเพื่อให้ประชาชนชาวอิรักอ่านออกเขียนได้ และยังสร้างถนนหนทาง โรงเรียน โรงพยาบาลในหัวเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศ จนสหประชาชาติให้เกียรติและยกย่องเขา พร้อมกับมอบความช่วยเหลือให้เขาในการพัฒนาประเทศ จนกระทั่ง ซัดดัม ฮุสเซน กล่าวขึ้นมาเป็นผู้นำอิรักเต็มตัว ดูเหมือนว่าทุกแผนพัฒนาประเทศของเขาจะกลายเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมด
WIKIPEDIA PD
5. ในการ์ตูน Justice League ที่ตีพิมพ์ในปี 1999 มีตัวละครที่เป็นจอมเผด็จการคนหนึ่ง ที่มีปูมหลังมาจากตะวันออกกลาง มีหน้าตาและลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับ ซัดดัม ฮุสเซน ถูกหนึ่งในฮีโร่จาก Justice League สังหาร
3
6. ซัดดัม ฮุสเซน กล่าวหาว่าชนเผ่ามาชที่อาศัยอยู่ในอิรัก มีส่วนรู้เห็นเป็นใจในสงครามระหว่างอิรักและอิหร่านเมื่อปี 1980 – 1988 ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ออกคำสั่งกวาดล้างชนเผ่ามาช และแหล่งที่อยู่อาศัยที่เป็นหนองน้ำ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกกล่าวขานว่าสวยงามราวกับสวนอีเดนในพระคัมภีร์ไบเบิล หนึ่งในมรดกโลก จากที่เคยมีขนาดใหญ่ถึง 9,000 ตารางกิโลเมตร เหลือเพียง 760 ตารางกิโลเมตร ในปี 2003 แต่หลังจากที่ซัดดัมถูกโค่นล้ม หนองน้ำแห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะ และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้เมื่อปี 2016
2
7. ก่อนเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ซัดดัม ฮุสเซน ได้บริจาคเงิน 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,000 ล้านบาท) ให้คนยากจนในสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่า ‘เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับคนอเมริกันไร้บ้านและคนอนาถา’
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
8. ในช่วงแรกที่เขาครองอำนาจในอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน ได้รับข้อความแสดงความยินดีจาก บาทหลวง จาคอบ ยาสโซ ในเมืองดีทรอยต์ โดยซัดดัมได้ตอบแทนด้วยการบริจาคเงินจำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.9 ล้านบาท) เป็นการตอบแทน ภายหลัง บาทหลวง จาคอบ ยาสโซ แห่งนิกาย Chaldean Christian ถูกเชิญตัวมาที่กรุงแบกแดดและได้เข้าพบซัดดัม และมอบกุญแจเมืองดีทรอยต์ภายใต้ความเห็นชอบของนายกเทศมนตรีของเมืองให้ผู้นำอิรักเป็นที่ระรึก ด้วยเหตุนี้ ซัดดัม จึงมอบเงินบริจาคให้อีก 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.3 ล้านบาท) และภายหลังนิกาย Chaldean Christian ก็ปรากฏอยู่ในอิรักจนถึงปัจจุบัน
1
WIKIPEDIA PD
9. ในปี 2003 ซัดดัม ฮุสเซน เคยท้าดีเบตกับผู้นำสหรัฐฯ ในขณะนั้นอย่าง จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่บอกว่าอิรักคือผู้ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
10. ซัดดัม ฮุสเซน ได้ทำการคัดลอกคัมภีร์อัลกุรอานด้วยเลือดของตัวเอง เป็นเวลากว่าสองปีในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งตรงกันวันเกิดปีที่ 60 ของเขาเอง โดยภายหลัง ซัดดัม ฮุสเซน ได้เผยว่าเขาทำเพื่อขอบคุณพระเจ้าที่คอยช่วยเหลือเขาจากอันตรายทั้งปวง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา