27 พ.ค. 2020 เวลา 13:30 • ข่าว
จีน-อินเดียตึงเครียด!!!!
คราวก่อนผมได้อธิบายถึงความเป็นไปได้ที่อินเดียและจีนจะเปิดศึกกันจากปัญหาข้อพิพาทตามแนวพรมแดนบริเวณทิเบตตะวันตกของจีน หรือในเขตตะวันออกของดินแดนสภาพลดาขของอินเดีย
ซึ่งตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทหารของทั้งสองชาติได้มีการปะทะกันอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าการปะทะกันนั้นจะยังคงเป็นเพียงการใช้วาจาโจมตีกันไปมา หรือเพียงชกต่อยเท่านั้น แต่ปัญหาความตึงเครียดดังกล่าวก็ถือว่าเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
จริงอยู่ที่ว่าการปะทะกันของทหารจีนและอินเดียในบริเวณดังกล่าวจะเกิดขึ้นเป็นประจำอันเป็นผลมาจากมุมมองต่อเส้นเขตแดนของทั้งสองประเทศที่แตกต่างกัน ทั้งแนวพรมแดนของทั้งสองชาติก็ยังไม่มีการตกลงกันอย่างเป็นทางการด้วย
อย่างไรก็ตามความตึงเครียดรอบนี้มีความพิเศษเพราะเกิดในพื้นที่พิพาทประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาตินั่นคือบริเวณหุบเขากัลวาน ซึ่งเป็นชนวนสงครามจีน-อินเดียในปี 1962 ซึ่งรอบนั้นอินเดียแพ้ให้กับจีนและต้องศูนย์ดินแดนอักไซชินไป
ต้นเหตุของความตึงเครียดนั้นเกิดขึ้นจากการที่อินเดียพยายามพัฒนาถนนเข้าไปในบริเวณหุบเขาดังกล่าว ซึ่งอินเดียเองมองว่าถนนเส้นนี้อยู่ในฝั่งของอินเดียจึงไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งทางการจีน อย่างไรก็ตามจีนกลับไม่มองเช่นนั้น เพราะจีนมองว่าตรงนั้นยังคงเป็นพื้นที่พิพาทกันอยู่การกระทำของอินเดียจึงละเมิดข้อตกลงระหว่างสองชาติ
อย่างไรก็ตามอินเดียยืนยันว่าจะไม่ยุติโครงการดังกล่าว และมองว่าที่จีนแสดงปฏิกิริยาแบบนั้นเพราะกลัวว่าหากถนนเสร็จจะทำให้การเคลื่อนกำลังพลของอินเดียง่ายขึ้น ซึ่งไม่เป็นการดีต่อจีน แน่นอนว่าเพื่อพยายามขัดขวางโครงการนี้ จีนจึงมีการลาดตระเวนตามแนวชายแดนถี่มากยิ่งขึ้น
การกระทำดังกล่าวของจีนนั้นส่งผลให้เกิดการปะทะกันง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทหารสองฝ่ายลาดตระเวนมาเจอกันในพื้นที่ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความตึงเครียดตามแนวชายแดนมากยิ่งขึ้นของสองชาติ
น่าสนใจว่าจนถึงตอนนี้ทั้งผู้นำระดับสูงทางการทหารและทางการเมืองของทั้งจีนและอินเดียยังไม่ได้มีการคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังเพียงพอ แต่ปล่อยให้การแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องของทหารในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้นคือต่างฝ่ายต่างเสริมกำลังกันเข้าไปในดินแดนพิพาทกันอย่างเต็มที่ทั้งกำลังพลและยุทธปัจจัย
หลายวันก่อนอินเดียมีการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นบินใกล้ ๆ กับพื้นที่พิพาท ในขณะที่ทางการจีนมีการเคลื่อนปืนใหญ่และรถถังจำนวนมากเข้าไปในพื้นที่ใกล้เคียง สิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยจะได้เห็นเท่าไหร่นักตามแนวชายแดนของสองชาติ
นักวิเคราะห์หลายคนจึงกังวลว่ามันอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีนัก และอาจนำพาให้ทั้งสองชาติเปิดสงครามแบบจำกัดวงกัน คำถามจึงอยู่ที่ว่าแสนยานุภาพของสองประเทศนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง วันนี้เลยอยากถือโอกาสพาทุกคนสำเร็จขนาดกองทัพของจีนและอินเดีย
ข้อมูลจาก The military balance 2018 ของ International Institute for Strategic Studies

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา