1 มิ.ย. 2020 เวลา 12:28 • ข่าว
จีน-อินเดียขนปืนใหญ่ รถถังประชิดพรมแดน
เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มแล้วที่ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียอย่างจีนและอินเดียเกิดความตึงเครียดตามแนวพรมแดน หลังจากที่ทหารทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันอยู่ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะในเขตลดาข
ปัญหาความตึงเครียดนี้เป็นผลอย่างสำคัญมาจากปัญหาพรมแดนที่ทั้งสองประเทศยังไม่สามารถตกลงกันได้ และมีมุมมองต่อเขตแดนที่แตกต่างกัน เป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันเมื่อทหารทั้งสองฝ่ายลาดตระเวนมาเจอกัน
พวกเราจึงได้เห็นการปะทะกันระหว่างทหารอินเดียและจีนออกมาให้เห็นอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงการชกต่อยหรือปาหินใส่กันก็ตาม แต่ก็ถือเป็นความรุนแรงที่ปลุกกระแสชาตินิยมอย่างมากโดยเฉพาะในฝั่งของอินเดีย
นับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาปัญหาความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายมีมากขึ้นเมื่อจีนประท้วงและไม่ต้องการให้อินเดียพัฒนาเส้นทางถนนซึ่งจีนอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของตน ในขณะที่ทางการอินเดียยืนยันว่ากิจกรรมดังกล่าวกระทำในเขตแดนของอินเดีย
ความเห็นที่ไม่ตรงกันนี้ส่งผลให้ตลอดช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมามีรายงานจากทางสำนักข่าวอินเดียว่าทางการจีนได้มีการลาดตระเวนที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อขัดขวางการพัฒนาถนนของอินเดีย ในขณะเดียวกันยังมีการเสริมทหารเข้ามาประชิดพรมแดนมากถึง 5,000 นาย
ภาพถ่ายทางดาวเทียมของหน่วยงานความมั่นคงอินเดียชี้ให้เห็นว่าพื้นที่อักไซ ชินซึ่งจีนปกครองอยู่นั้นมีกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการทหารของฝ่ายจีนที่น่าแปลกใจ มีการตั้งค่ายพักแรม และปรับพื้นที่เพื่อรองรับอากาศยาน และติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์สงคราม
ทั้งนี้สำนักข่าวโกบอลไทม์ของจีนยังมีการรายงานเป็นครั้งแรกว่าทางการจีนได้มีการส่งรถหุ้มเกาะ ปืนใหญ่ รถถังรุ่นล่าสุด รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จู่โจม (Type 15 tank, Z-20 helicopter, PCL-181 howitzer and GJ-2 drone) เข้าไปประชิดพรมแดนซึ่งกำลังเกิดข้อพิพาทกับอินเดียด้วย โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทางการอินเดียมีการขนย้ายอาวุธหนักหลายอย่างมาประชิดพรมแดนซึ่งกำลังพิพาทกัน
ตรงกับสำนักข่าวของทางอินเดียที่มีการระบุว่ากองทัพอินเดียได้มีการเสริมอาวุธและยุทโธปกรณ์สำคัญทั้งปืนใหญ่ และรถหุ้มเกาะเข้าไปประชิดพรมแดนทางฝั่งลดาขเพื่อให้เกิดความพร้อมมากที่สุดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้รายงานของทางอินเดียระบุว่าสถานการณ์รอบนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากปี 2017 เนื่องจากมีหลายสัญญาณซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจีนจะไม่ยอมถอยง่าย ๆ เพราะการสร้างถนนของอินเดียส่งผลโดยตรงต่อยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีนในบริเวณดังกล่าว
ฉะนั้นจีนจะพยายามกดดันอินเดียจนกว่าจะยกเลิกโครงการพัฒนาถนนเส้นดังกล่าว แม้ว่าผู้นำระดับสูงทางการทหารและการทูตจะรายงานข่าวว่าทั้งสองประเทศยังคงเดินหน้าเจรจากันอยู่และพยายามหลักเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม
แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปล่อยภาพและคลิปวิดิโอที่สะท้อนให้เห็นว่าการปะทะกันของทหารในระดับพื้นที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น มีคลิปวิดิโอที่ทหารอินเดียจับกุมทหารจีนได้ ในขณะเดียวกันก็มีภาพทหารจีนที่สามารถจับกุมทหารอินเดียได้เช่นเดียวกัน
วันนี้เองทางการจีนก็ได้มีการส่งเครื่องบินขับไล่ประชิดติดแนวพรมแดนทางฝั่งลดาขซึ่งห่างจากพรมแดนของอินเดียเพียง 30-35 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้อินเดียก็ได้มีการกระทำในลักษณะเดียวกัน
แน่นอนว่ามันเป็นความน่ากังวลอย่างยิ่งว่าการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักจำนวนมากเข้าไปในพื้นที่พิพาทอาจส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้นหากมีความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจขยายเป็นสงครามจำกัดวงได้เช่นเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้นตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมาสำนักข่าวของจีนเองก็ไม่มีการพูดถึงปัญหาพิพาทระหว่างสองประเทศมากนักจนกระทั่งเมื่อวานนี้มีรายงานข่าวทางการทหารเกี่ยวกับการเสริมทัพของทางการจีนออก จึงน่าสนใจว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างของรัฐบาลปักกิ่งหรือไม่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา