6 มิ.ย. 2020 เวลา 06:59
จะเลือกเป็นเพียงอย่างเดียวอยู่ทำไม ในเมื่อคนเราทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง
คนเรามักเคยชินกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือทำสิ่งเดียวให้สำเร็จกันใช่ไหม แต่ลองมาดูวิถีชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้แล้ว แต่ละคนประสบความสำเร็จมากกว่า 1 สิ่งขึ้นไปทั้งนั้นเลยนะ อย่างเช่น เป็นดาราที่มีชื่อเสียง แต่ก็มาทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จไปด้วย โดยที่ก็ไม่ได้ทิ้งงานด้านวงการบันเทิงไปซะเดียว หรือรุ่นพี่คนหนึ่งที่รู้จัก เรียนจบหมอ แต่ชอบเรื่องการบินก็ไปเรียนเป็นนักบินได้บินด้วย แต่ช่วง Covid19 ที่การบินประสบปัญหาเขาก็กลับมาทำงานช่วยเหลือวงการแพทย์ได้ ทำให้เล็งเห็นได้อย่างหนึ่งขึ้นมาว่า ต่อไปนี้คนเราควรมีสิ่งที่ทำได้มากกว่า 1 อย่างขึ้นไปได้แล้วนะ
ในช่วงก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เรายังต้องเลือกเลย 4 อันดับว่า เราจะสอบเข้าคณะอะไร นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ต่อให้ไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบมากที่สุด เราก็ยังมีสิ่งอื่นที่ทำได้เช่นเดียวกัน แล้วถ้าคนเราทำได้ดีทั้ง 2-3 อย่างแล้ว ทำไมเราต้องเลือกทำเพียงอย่างเดียวด้วย บางครั้งมันก็น่าเสียดายนะ หากว่าจะต้องเลือกเพียงอย่างเดียว เพราะโดยหลักๆ แล้ว การทำหลายๆ สิ่งในเวลาเดียวกันจะทำให้สับสน หรือทำผลงานออกมาได้ไม่ดีพอ แต่มายุคนี้สมัยนี้แล้ว เรามีวิธีจัดการเวลา มีเครื่องมือต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกตั้งมากมายที่ช่วยเอื้ออำนวยให้เราวางแผนทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น
แต่ถ้าจะให้ดีกว่าก็ควรที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จเสียก่อน ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นจับปลาสองมือไปแทน จากที่จะทำสำเร็จทั้งสองอย่าง ก็จะกลายเป็นทำเสียหายไปทั้งสองอย่างแทนก็ได้ ทั้งนี้ก็ต้องดูศักยภาพของตัวเองเป็นหลักนะ แต่อย่าให้ข้อจำกัดมาทำให้เราไม่กล้าทำอะไรเพิ่มก็พอ
หรือถ้าเรามีอะไรที่ชอบทำมากกว่า 1 อย่าง สิ่งนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องทำเป็นงานเป็นอาชีพก็ได้ อย่างตัวผู้เขียนเอง เคยมีความฝันว่าอยากทำร้านกาแฟนะ และก็เคยมีโอกาสที่เปิดร้านทำเครื่องดื่มต่างๆ ขายด้วย เวลาทำเครื่องดื่มให้ใครต่อใครกินมันก็แฮปปี้ดี เวลาที่เขาดื่มอย่างเอร็ดอร่อย แต่พอทำไปสักพักชักเหนื่อย ชักเบื่อ เพราะทำงานแบบนี้ต้องขยันเปิดร้านทุกวัน เหลวไหลไปเที่ยวไหนไม่ค่อยได้อีก ชีวิตไม่ยืดหยุ่นซะเลย อยากมีคาเฟ่สวยๆ หรูๆ แพงๆ ก็ไม่มีทุนมากพอจะทำอีก เรียกว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จนี้ยากมาก เพราะความพร้อม และด้วยความพยายามที่ไม่มากพอด้วย แถมหลังๆ ก็ยังรู้สึกผิดอีกที่การทำเครื่องดื่มแบบนี้ขายมันก็ไม่ค่อยดีกับสุขภาพของผู้คนด้วย เพราะมีน้ำตาล ครีมเทียม เป็นส่วนผสมเป็นหลักอีก
แต่สกิลการทำเครื่องดื่มก็ยังมีติดตัวนะ ถ้ามีงานปาร์ตี้สังสรรค์ มีเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์พร้อม มีคนรอกินก็สามารถแสดงฝีมือได้เลย กลายเป็นว่าบางอย่างเราอยากทำเพราะสนุก แต่ถ้าต้องทำจนเป็นงานขึ้นมา จะมีความซีเรียสและเคร่งเครียดจนบางทีก็ไม่อยากทำไปแทนแล้วล่ะ ดังนั้นก็จะเก็บเอาไว้เป็นเหมือนงานอดิเรกแทน แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำหาสูตรเครื่องดื่มต่างๆ ไปเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาสอาจจะเปิดร้านหรือทำขายในงานพิเศษต่างๆ ก็ได้นะ
อีกทั้งการที่ค้นพบว่าตัวเองทำอะไรมากกว่า 1 อย่างก็เป็นข้อดีนะ กลายเป็นได้เปรียบ มีทางเลือกให้กับตัวเองมากขึ้นด้วย เคยรู้จักกับคุณแม่รุ่นน้องคนหนึ่ง ลูกอยากเป็นนักร้อง นักดนตรีมาก จริงๆ แม่ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่จะไปห้ามลูกซะทีเดียวก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี เลยทำข้อตกลงกับลูกว่า จะเป็นนักร้อง นักดนตรีก็ได้นะ แต่ยังไงก็ต้องเรียนให้จบด้วย เผื่อเป็นทางเลือกว่า เส้นทางนักดนตรีของลูกอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังก็ได้ ก็นับว่าเป็นเงื่อนไขที่ดีนะ ถึงแม้เราจะหวังทำในสิ่งที่รักและชอบสักแค่ไหน แต่ในชีวิตเราก็อาจจะพบเจอสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราไปไม่ถึงฝั่งฝันได้ อย่างน้อยเราก็จะยังมีแผนสำรองที่แม้ว่าอาจจะชอบน้อยกว่ามากไว้เป็นอาชีพไว้เลี้ยงตัวเองได้ ในที่สุดลูกประสบความสำเร็จทางสายอาชีพดนตรีนะ แต่พอเกิดวิกฤต Covid-19 นักดนตรีเองก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก เพราะความรู้นอกเหนือจากการเป็นนักดนตรีที่จะสามารถช่วยให้ตัวเองรอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้ก็ยังมี ไม่ถึงกับหมดสิ้นอนาคตซะเดียวด้วย
ดังนั้นแล้วก็หวังว่าจะเป็นข้อคิดให้กับทุกๆ คนได้นะคะ อย่าให้กรอบความคิดเดิมๆ มาขวางกั้นขีดจำกัดของเราเลย ยังไงคนเราก็ต้องทำมากกว่า 1 อย่างอยู่แล้ว หากคุณค้นพบศักยภาพของตัวเองว่าทำได้มากกว่านั้นก็อย่าได้หยุดยั้งตัวเองไว้ที่สิ่งใดสิ่งเดียวเลยนะ รีบลองทำโดยไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้ลอยหลุดมือไปดีกว่านะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา