6 มิ.ย. 2020 เวลา 14:34 • ไลฟ์สไตล์
RUM เหล้าRum
เหล้ารัม(Rum) ป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำอ้อย
โดยเอากากน้ำตาลหรือว่า"Mollasses"ไปหมักและผลิตเป็นสุรา และแหล่งผลิตส่วนใหญ่ของโลกมาแถบทะเลแคลิบเบียนในพื้นที่อเมริกากลาง และแถบ
อเมริกาใต้ที่ปลูกอ้อยกันมาก
Trader Vic's Rum
รัม (Rum) มีแบบทั้งการบ่มและไม่บ่ม ถ้าการเก็บบ่ม
เหล้ารัมในถังไม้โอ้คยิ่งเก็บนานบ่มนาน สีก็ยิ่งเข้มตามไป และในอุณหภูมิที่ร้อนกระบวนการบ่มก็จะยิ่งเร็วขึ้น
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบรัมครั้งแรก
ในขณะเดียวกันก็มีการค้นพบจากการเขียนบันทึกของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เมื่อครั้งที่แล่นเรือแสวงหาดินแดนใหม่ครั้งที่ 2 กลุ่มของเขาได้ดื่มเหล้ารัมของชาวอินเดียนแดง บนเกาะบาร์บาโดส (Babados) ในปี 1600 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นครั้งแรก
ที่ชาวตะวันตกได้ลิ้มรสชาติของเหล้ารัม
ชาวตะวันตกได้ลิ้มรสเหล้ารัม
ต่อมาได้มีการค้นพบว่าเหล้ารัม คำว่า Rum อาจจะออกเสียงต่างๆกันตามภาษาพื้นเมืองหรือภาษาของดินแดนต่างๆ เช่น "Roum" กับ "Rhum"
หรือภาษาอารบิกออกเสียงว่า อาร์-รัม และมีหลายคำที่เรียกแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป กรีก โรมัน
และเหล้ารัม ได้กลายมาเป็นเหล้าที่มีบทบาทสำคัญ
กับราชนาวีอังกฤษมากยิ่งขึ้น เมื่อกองทัพเรืออังกฤษ
เข้ามายึดจาไมก้าในปี1655 และมีการแบ่งสันปันส่วนแอลกอฮอร์แก่เหล่ากะลาสีเรือ ถูกเปลี่ยนจากบรั่นดี
ฝรั่งเศสมาเป็นเหล้ารัม นั่นเอง
กะลาสีเรือ เหล้ารัม มีค่ากว่าทองคำ
เหล้ารัม (Rum) เป็นเหล้ากลั่นจากอ้อยและกากน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตคือ กากน้ำตาล หรือ
Molassesในขั้นแรกเริ่มนั้น ที่ได้จะนำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเหล้ารัมต่อไปซึ่งหลักๆ มี 3 ขั้นตอน
อ้อยวัตถุดิบหลัก
1. การหมัก (Formentation) โดยใช้ยีสต์( Yeast)หมักกับกากน้ำตาล น้ำอ้อย น้ำ เป็นหลักในกระบวนการนี้
2. การกลั่น (Distillation)จะทำได้สองแบบคือ
กลั่นโดย Collum Still เป็นการกลั่นครั้งเดียวออกมา
ได้เหล้าดีกรีสูง และกลั่นแบบ Pot Still การกลั่นนี้จะให้รสชาติและกลิ่นโดดเด่นมากกว่า
การกลั่น
3. การบ่ม (Maturation) หลังจากกลั่นเรียบร้อยแล้ว
เหล้ารัมจะถูกนำไปบ่มในถังไม้โอ้ค ซึ่งจะมาการลนไฟอ่อนๆ ภายในถังไม้โอ้คก่อนนำไปบ่มเพื่อไห้ไหม้
ให้เกิดกลิ่นหอมในเหล้ารัมนั้น เมื่อบ่มแล้วกลิ่นของ
ไม้โอ้คจะกลายเป็นกลิ่นหอมในเหล้ารัมนั้นด้วย
ยิ่งบ่มนานสีก็ยิ่งเข้มไปด้วย และในภูมิอากาศที่ร้อน
กระบวนการบ่มก็จะเร็วยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการบ่มในถังไม้โอ้ค
สี คือวิธีการแยกประเภทของเหล้ารัม
ประเภทของเหล้ารัมแบ่งได้ตามระยะเวลาการบ่ม
คล้ายกับการผลิตเหล้าหลายๆชนิด โดยดีกรีของเหล้ารัมจะอยู่ประมาณ 35 - 43 %
สามารถแยกหลักๆได้ดังนี้
1.รัมสีขาว (White Rum) ส่วนมากรสชาติจะไม่แรง เป็นรัมที่มีสีขาวใส บางชนิดไม่ต้องเก็บบ่ม บางชนิดต้องเก็บบ่มเพื่อให้รสชาติที่ดีขึ้น หรือเรียกว่า
"Silver Rum" เหมาะนำไปทำเป็นค้อกเทลสูตรต่างๆ
Cuba Ribe หรือ Rum Coke ค้อกเท็ลขึ้นชื่อ
2.รัมสีทอง (Gold Rum) เป็นรัมที่มีสีเหลืองใสได้จากการเก็บบ่มในถังไม้โอ้ค บ่มนานขึ้น เพื่อให้เกิดสี เกิดรสชาติ สีจะมีสีเหลืองเพิ่มมากขึ้น หรือเรียกว่า
"aged rum"
3. รัมสีดำ (Dark rum) เป็นรัม ที่มีสีเกือบดำเข้ม
และระยะเวลาในการบ่มจะมีระยะเวลานานกว่า
Gold Rum ทำไห้กลิ่นและสีได้รสชาติแรงยิ่งขึ้น
แถบคาริบเบียนอาจจะใช้เวลา 3 ปี แต่ถ้าเป็นแถบอเมริกาจะใช้ระยะเวลา 10 ปี เพื่อให้ได้สีดำ
เนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันนั่นเอง
4. รัมพิเศษ (Spicy Rum) รัมชนิดนี้ได้จากจากเติมแต่งกลิ่น รสชาติ สีสันด้วยเครื่องเทศ สมุนไพร
และคาราเมลลงไปเพื่อให้ได้รสชาติตามต้องการ
เหล้ารัมนิยมนำไปเป็นส่วนผสมของค้อกเท็ล ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายก็จะมี โมฮีโต้ ( Mojito) รัมโค้ก หรือว่า "CuBa Ribe" ไหมไทย( Mai Tai)
นอกจากนี้ยังนำไปผสมเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เช่น
น้ำผลไม้ต่างๆโดยเฉพาะที่เรียกว่า "พั้น" จะเป็นเครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีมาก
เหล้ารัมที่จำหน่ายจะมีดีกรีราว 40 ดีกรี แต่จะมีหลายชนิดที่ผลิตให้มีดีกรีสูงมาก 75.5 - 80 ดีกรี
หรือที่เขียนว่า 151 Proof เพื่อให้เครื่องดื่มที่ผสม
มีความแรงและให้ได้รสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้น
The Cocktails Club
ศรีอุดมเครื่องดื่ม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา