8 มิ.ย. 2020 เวลา 03:30 • ประวัติศาสตร์
รู้จักกับ 'นาบาเทียน' ชนเผ่าเรร่อนแห่งทะเลทรายอาหรับ ผู้เนรมิตเมืองเปตราจากผาหินทราย
ชนเผ่านาบาเทียน คือชนเผ่าเร่รอนในทะเลทรายอาหรับ พวกเขามีความสามารถในการแกะสลักผาหินทรายเป็นอาคารบ้านเรือนและอาศัยอยู่ในถ้ำ ก่อนหน้านั้นชนเผ่านาบาเทียนมีอาชีพเลี้ยงแกะ ก่อนเปลี่ยนมาทำอาชีพค้าขายและรับจ้างเป็นหน่วยคุ้มกันความปลอดภัยให้กองคาราวานที่เดินทางข้ามทะเลทราย ด้วยความซื่อสัตย์ของชาวนาบาเทียน ค่าผ่านทางที่เรียกเก็บจากผู้สัญจรได้ช่วยให้ชาวนาบาเทียนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA PD
นักประวัติศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับชาวนาบาเทียนไม่มากนัก แต่ยังนับว่าโชคดีที่ได้มีการค้นพบแผ่นจารึกโบราณ ภาพวาดฝาพนังและเหรียญกษาปณ์เป็นจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ในนครเปตรา ทำให้เราสามารถรู้เรื่องราวของพวกเขาได้มากขึ้น โดยชาวนาบาเทียน ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกเมื่อ 30 ปีก่อนคริสตกาล โดยนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า ดิโอโดรัส ที่บันทึกถึงเรื่องราวของชาวนาบาเทียนไว้ว่า พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดอยู่กลางทะเลทรายที่แห้งแล้ง ด้วยการขุดบ่อน้ำและซ่อนมันเอาไว้ ชาวนาบาเทียนเอาชนะศัตรูด้วยการหลบซ่อนตัวอยู่ในทะเลทราย จนกว่าศัตรูจะขาดแคลนเสบียงและน้ำ และด้วยชัยภูมิที่ดี อาณาจักรใดๆ ก็ยากที่จะเอาชนะชาวนาบาเทียนได้
ชนเผ่านาบาเทียนได้สร้างนครหินแกะสลัก เปตรา ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาวาดี มูซา ของประเทศจอร์แดน นครแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองจากการค้าขาย จนทำให้เพื่อนบ้านต่างอิจฉาริษยาในความร่ำรวยของชนเผ่านาบาเทียน นครเปตราเป็นตลาดซื้อขายที่สำคัญที่สุดในโลกยุคโบราณ ยางไม้หอม กำยาน เครื่องเทศของชาวอาหรับ ทองแดง เหล็ก เครื่องปั้นดินเผา สินค้าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสินค้าขึ้นชื่อของนครเปตราในสมัยนั้น
WIKIPEDIA CC BERTHOLD WERNER
ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของนครเปตรา ตรงกับสมัยของกษัตริย์เปตราที่ 4 ผู้เป็นที่รักของประชาชน และปกครองนครเปตราให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ด้วยความที่เป็นเมืองห่างไกล และมีชัยภูมิที่ยากจะพิชิต จึงทำให้เปตราเจริญเติบโตอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกลัวเลยว่าจะมีศัตรูยกกำลังรุกรานเข้ามา
ทว่าภายหลังได้เกิดเมืองใหม่ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางที่ปลอดภัยกว่าเปตราที่เคยเจริญรุ่งเรืองก็เริ่มสูญเสียอำนาจลง จนกระทั่งถูกจักรวรรดิโรมันในสมัยของจักรพรรดิทราจัน เข้ามายึดครองในปี ค.ศ.106 และผนวกรวมเปตราเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน ต่อมาในปี ค.ศ.300 ได้เกิดแผ่นดินไหวจนทำให้อาคารบ้านเรือนและระบบชลประทานของเมืองเปตราได้รับความเสียหายอย่างหนัก
WIKIPEDIA CC BERTHOLD WERNER
ต่อมาจักรวรรดิโรมันได้ล่มสลาย นครเปตราตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม ส่งผลให้วิถีชีวิตของชาวเมืองเปลี่ยนไปตามนโยบายทางการเมืองของเจ้าผู้ปกครองในขณะนั้น แล้วความเสื่อมถอยก็เริ่มเข้ามา ผู้คนเริ่มอพยพออกไปจากเมือง และไม่มีการแกะสลักอาคารที่ดูหรูหราฟุ่มเฟือยอะไรอีกต่อไป
นครเปตราถูกทิ้งร้างไว้นานกว่า 700 ปี จนนักสำรวจชาวสวิสเซอร์แลนด์ โยฮานน์ ลุดวิค บวร์คฮาร์ท มาพบในปี ค.ศ.1812 และเมืองแห่งนี้ได้รับการบูรณะจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และได้รับการลงทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1985
WIKIPEDIA CC CLASSICAL NUMISMATIC GROUP
แม้ชาวนาบาเทียนจะหายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ฝากผลงานให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมว่าครั้งหนึ่ง อารยธรรมกลางทะเลทรายของพวกเขาเคยยิ่งใหญ่มากเพียงใด
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
โฆษณา