12 มิ.ย. 2020 เวลา 04:47 • ธุรกิจ
ดอกเบี้ยโลกจากปริมาณเงินในระบบ ส่งผลอย่างไรต่อตลาดหุ้นและราคาทองคำ
ทุกวันนี้สกุลเงินที่ใช้ในการค้าขายมี 4 สกุลหลัก ก็คือ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโรของสหภาพยุโรป ปอนด์ของอังกฤษ และเยนของญี่ปุ่น
เพราะฉะนั้นธนาคารกลางของทั้งสี่ประเทศนี้ก็จะมีอำนาจประกาศทำ QE ได้ตลอดเวลา
สัดส่วนเงินในระบบ
ดอลลาร์ 60% ดอกเบี้ย 0.25%
ยูโร 25% ดอกเบี้ย -0.5%
เยน 5% ดอกเบี้ย -0.1%
ปอนด์ 5% ดอกเบี้ย 0.1%
สกุลอื่น ๆ 5% ดอกเบี้ย ไม่ทราบตัวเลข ไม่นำมาคำนวณ
ถ้าคิดถัวเฉลี่ยจะได้ 0.125% เป็นดอกเบี้ยโลก ยังโชคดีที่ยังไม่ติดลบ ดังนั้นโอกาสเกิด hyperinflation ยังห่างไกลอยู่
ถ้าติดลบก็จะมีโอกาสเกิด hyperinflation ได้
PE ของดอกเบี้ย = 800 เท่าพอดี จากดอกเบี้ย 0.125%
ดังนั้นผู้เขียนจึงคาดคะเนว่าต่อไป PE ของตลาดหุ้นทั่วโลกจะสูงขึ้น จากการที่เทรดกันที่แถว 10-20 จุด ต่อไปจะเทรดกันที่ 100-200 จุดก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
set index ที่ 1,400 จุด PE ปัจจุบันคือประมาณ 20 เท่า หากเทรดกันที่ 100-200 เท่า ดัชนีก็จะอยู่ระหว่าง 7,000-14,000 จุด เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
อีกทั้งเฟดยังประกาศคงเบี้ยนี้ไปถึงปี 2022 อีก 3 ปี และประกาศทำ QE infinity ต่อไป พิมพ์เงินได้อีกเรื่อย ๆ
ดังนั้นหุ้นและทองยังมีช่องว่างให้ขึ้นได้อีกมาก ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้
ถ้าหุ้นเทรดกันที่ PE 100-200 ราคาทองคำก็จะไปเทรดกันที่แถว 10,000-20,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์เลยทีเดียว
เตรียมพร้อมรับมือกับสึนามิที่กำลังจะมาให้ดี ๆ โอกาสเกิด high inflation มีสูงมากในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา